Anthropic สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ด้วยรายได้รายปีที่ประเมินแล้วแตะระดับ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 98,000 ล้านบาท) จากความต้องการใช้งานโมเดล AI ในภาคธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนนักลงทุนยกให้เป็นบริษัท SaaS (Software-as-a-Service) ที่เติบโตเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมประกาศดึง Reed Hastings อดีตซีอีโอ Netflix ร่วมบอร์ดบริหาร เน้นการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม
Anthropic บริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI เจ้าของแชทบอต GenAI อย่าง Claude สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ด้วยรายได้รายปีที่ประเมินแล้วแตะระดับ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 98,000 ล้านบาท) จากความต้องการใช้งานโมเดล AI ในภาคธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
จากรายงานของ Reuters ชี้ว่า รายได้ที่คำนวณแบบ Annualized Revenue หรือรายได้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อปีในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนธันวาคม 2024 เป็น 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อช่วงสิ้นเดือนมีนาคม และล่าสุดทะยานถึง 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
แม้ในฝั่งผู้บริโภคทั่วไปจะรู้จักแชทบอตของ OpenAI อย่าง ChatGPT มากกว่า แต่รายได้ของ Anthropic ที่เติบโตส่วนใหญ่มาจากฝั่งองค์กรที่ซื้อบริการ AI-as-a-Service เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาและเสริมศักยภาพธุรกิจ โดยเฉพาะในงานเขียนโค้ด (Code Generation) ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของ Anthropic ที่ได้รับการสนับสนุนโดยยักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Amazon
หนึ่งในปัจจัยที่ผลักดันรายได้ของ Anthropic อย่างรวดเร็วคือการใช้ AI เพื่อช่วยเขียนโค้ดอัตโนมัติ ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นที่ต้องการสูงในหมู่นักพัฒนาและองค์กรขนาดใหญ่ ส่งผลให้สินค้าในกลุ่ม Codegen ได้รับความนิยมและมีอัตราการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น
และจากการเติบโตอย่างรวดเร็วในแง่ของรายได้เพียงไตรมาสเดียว ทำให้นักลงทุนบางรายถึงกับยกให้ Anthropic เป็นบริษัท SaaS (Software-as-a-Service) ที่เติบโตเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว
นอกจากรายได้จากฝั่งองค์กรแล้ว Anthropic ยังมีรายได้จากฝั่งผู้บริโภคผ่านการสมัครใช้งาน Claude แชตบอตคู่แข่งของ ChatGPT ด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Similarweb ระบุว่าในเดือนเมษายนที่ผ่านมา จำนวนผู้เข้าใช้งาน Claude คิดเป็นเพียง 2% ของ ChatGPT เท่านั้น ซึ่งชี้ให้เห็นว่า Anthropic ยังตามหลัง OpenAI อยู่มากในตลาดผู้ใช้งานทั่วไป
สำหรับ OpenAI แม้จะไม่ได้เปิดเผยรายได้แบบ Annualized Revenue แบบ Anthropic แต่ Reuters ระบุว่า บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมในปี 2025 สูงถึง 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (จาก 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024) โดยรายได้หลักจะมาจากการสมัครสมาชิก ChatGPT ซึ่งเน้นกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปเป็นหลัก
ถึงแม้ OpenAI จะเพิ่งเริ่มขยายสู่ตลาดองค์กร แต่ก็นับว่ามาแรงเช่นกัน จากข้อมูลเดือนพฤษภาคม มีผู้ใช้งานแบบองค์กร (ChatGPT Enterprise) ถึง 3 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านบัญชีในเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีลูกค้ารายใหญ่ อย่างเช่น T-Mobile และ Morgan Stanley
Anthropic ประกาศเมื่อวันพุธ ที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่าได้ทำการแต่งตั้ง Reed Hastings ประธานกรรมการ Netflix และอดีตซีอีโอผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลก เข้าร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริษัท (Board of Directors) อย่างเป็นทางการ
Anthropic ระบุว่า Hastings จะช่วยเสริมประสบการณ์เชิงลึกและจะช่วยในการออกแบบเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์เป้าหมายของสังคมในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจหลักของบริษัทที่เน้นการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรมและคำนึงถึงผลกระทบต่อมนุษยชาติ
Anthropic ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยอดีตทีมงานของ OpenAI ที่แยกตัวออกมาด้วยวิสัยทัศน์ที่แตกต่าง และล่าสุดก็ได้ปิดดีลระดมทุน 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว แถมยังมีการประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่ 61,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย (ขณะที่ OpenAI มีมูลค่าล่าสุดสูงถึง 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney