Nvidia ดิ้นรักษาตลาดจีน เตรียมปล่อย Blackwell รุ่นใหม่ หลังเสียส่วนแบ่งในจีนให้ Huawei
Date Time: 26 พ.ค. 2568 17:41 น.
“Summary“
Nvidia กำลังเตรียมส่งชิป Blackwell รุ่นใหม่ราคาถูกและลดสเปกลงสู่ตลาดจีน เพื่อรักษาฐานลูกค้าและเติมเต็มช่องว่างที่ยังเหลืออยู่ภายใต้กรอบการควบคุมของรัฐบาลสหรัฐฯ ล่าสุดเผยว่า Nvidia กำลังเผชิญกับการเสียส่วนแบ่งในตลาดให้ Huawei จาก 95% ก่อนปี 2022 เหลือเพียง 50% ในปัจจุบัน
Latest
ท่ามกลางแรงกดดันจากมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ที่เข้มงวดขึ้นเรื่อย ๆ ต่อเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังจีน Nvidia หนึ่งในผู้นำด้านชิปประมวลผล AI ของโลก ต้องเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ในการรักษาตลาดจีนซึ่งเคยเป็นแหล่งรายได้สำคัญ
ล่าสุดมีรายงานว่า Nvidia กำลังเตรียมส่งชิป Blackwell รุ่นใหม่ราคาถูกและลดสเปกลงสู่ตลาดจีน เพื่อรักษาฐานลูกค้าและเติมเต็มช่องว่างที่ยังเหลืออยู่ภายใต้กรอบการควบคุมของรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งความพยายามดิ้นรนที่จะหล่อเลี้ยงธุรกิจในตลาดที่กำลังเปลี่ยนสมดุลอย่างรวดเร็ว โดยมีแผนดำเนินการผลิตเร็วที่สุดในเดือนมิถุนายนนี้
เริ่มเสียส่วนแบ่งตลาดให้ Huawei
โฆษกของ Nvidia ระบุว่า บริษัทกำลังพิจารณาทางเลือกที่มีอย่างจำกัดในตลาดจีน หลังบริษัทออกแบบชิปรุ่นพิเศษสำหรับตลาดจีนมาแล้วสองครั้งก่อนหน้านี้เพื่อตอบสนองต่อข้อจำกัดด้านการส่งออกจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการสกัดกั้นการพัฒนาเทคโนโลยีของจีน โดยจีนยังคงเป็นตลาดขนาดใหญ่ของ Nvidia โดยคิดเป็น 13% ของยอดขายทั้งหมดในปีงบประมาณที่ผ่านมา
การแบนชิป H20 ทำให้ Nvidia ต้องตัดจำหน่ายสินค้าคงคลังมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและมากไปกว่านั้นยังทำให้บริษัทต้องพลาดรายได้ถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากการขายที่จีนซึ่งไม่สามารถเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ล่าสุด Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ได้เปิดเผยในงานที่ไทเปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าบริษัทกำลังเผชิญกับส่วนแบ่งตลาดในจีนที่ลดลงจาก 95% ก่อนปี 2022 เหลือเพียง 50% ในปัจจุบัน หลังจากมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ เริ่มมีผล โดยมีบริษัทรายใหญ่ที่เข้ามาเป็นคู่แข่งในตลาดจีนคือ Huawei ซึ่งพัฒนาชิป Ascend 910B ทั้งนี้หากมาตรการควบคุมการส่งออกยังคงดำเนินต่อไป ลูกค้าชาวจีนจำนวนมากจะหันไปใช้ชิปของ Huawei แทน
ชิปรุ่นใหม่นี้จะเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยประมวลผล AI สถาปัตยกรรม Blackwell รุ่นล่าสุดของ Nvidia โดยคาดว่าจะมีราคาขายระหว่าง 6,500 - 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าราคาขายของ H20 ที่อยู่ในช่วง 10,000 - 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ
รายงานระบุว่า ราคาที่ลดลงสะท้อนถึงประสิทธิภาพที่ลดลงกว่ารุ่นก่อน ซึ่งกระบวนการผลิตจะมีการปรับให้ง่ายขึ้น โดยจะอิงจาก RTX Pro 6000D ซึ่งเป็น GPU ระดับเซิร์ฟเวอร์ และใช้หน่วยความจำ GDDR7 แบบดั้งเดิม แทนที่จะใช้หน่วยความจำความเร็วสูง (HBM) ที่ล้ำสมัยกว่า นอกจากนี้ชิปรุ่นใหม่นี้จะไม่ใช้เทคโนโลยีบรรจุชิปขั้นสูง Chip-on-Wafer-on-Substrate (CoWoS) ของ TSMC อีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม
อ้างอิงข้อมูล Reuters
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -
Author
