
Apple เตรียมปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่กับเว็บเบราว์เซอร์ Safari โดยวางแผนเพิ่มเครื่องมือค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI เป็นตัวเลือกให้ผู้ใช้งาน ท่ามกลางการต่อสู้ทางกฎหมายที่อาจนำไปสู่การยุติความร่วมมือกับ Google ที่มีมายาวนาน
Eddy Cue รองประธานอาวุโสฝ่ายบริการของ Apple เปิดเผยระหว่างการให้ปากคำในคดีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ฟ้องร้อง Alphabet บริษัทแม่ของ Google ว่า "เรากำลังพิจารณาอย่างจริงจัง" ในการปรับปรุง Safari เพื่อรองรับการค้นหาแบบใหม่ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลังจากที่ผู้ใช้อุปกรณ์ Apple เคยชินกับการใช้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาหลักมาตั้งแต่ปี 2007
"เราจะเพิ่มตัวเลือกใหม่เข้าไปในรายการ แต่อาจจะยังไม่ได้เป็นค่าเริ่มต้น" Cue กล่าว พร้อมระบุว่าบริษัทได้มีการเจรจากับ Perplexity ไว้
นอกจากนี้ เขายังเปิดเผยว่าการค้นหาบน Safari ลดลงเป็นครั้งแรกในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะผู้ใช้หันไปใช้บริการที่ขับเคลื่อนด้วย AI มากขึ้น รวมถึง OpenAI, Perplexity AI และ Anthropic PBC จะเข้ามาแทนที่เครื่องมือค้นหามาตรฐานอย่าง Google ในที่สุด และ Apple จะนำตัวเลือกเหล่านี้มาใช้กับ Safari ในอนาคต
โดยประเด็นสำคัญของคดีความคือข้อตกลงมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปีระหว่าง Apple กับ Google ที่ทำให้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นบน Safari ซึ่งหากศาลตัดสินให้ยกเลิกข้อตกลงนี้ จะส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อทั้งสองบริษัท
หลังจากข่าวนี้เผยแพร่ ราคาหุ้นของ Alphabet ร่วงลงถึง 8.7% ขณะที่หุ้นแอปเปิลลดลง 2.7% ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลดลงด้วย แสดงให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เมื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Apple หันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี AI มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้อุปกรณ์ Apple กว่า 2 พันล้านเครื่องทั่วโลก
อ้างอิง Bloomberg