
Grab รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2568 พบรายได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ประกาศปรับเพิ่มเป้าหมายกำไรปี 2025 หลังรายได้ไตรมาสนี้โตเกินคาด สะท้อนว่าธุรกิจแพลตฟอร์มในภูมิภาคนี้อาจเป็น “จุดสว่าง” ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
โดยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 (สิ้นสุด 31 มี.ค.) มีดังนี้
กลยุทธ์เปลี่ยนแพลตฟอร์มให้เป็น “ซูเปอร์แอป” โดยผนวกบริการทางการเงินผ่าน GrabFin และบริการส่งของชำผ่าน GrabMart ทำให้ Grab ยังคงรักษาฐานผู้นำในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างแข็งแกร่ง
รายละเอียดรายกลุ่มธุรกิจ :
บริการเรียกรถ:
บริการส่งอาหาร-สินค้า:
บริการทางการเงิน:
อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงกดดันจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เปลี่ยนทิศทางอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ทั่วโลกกังวลถึงต้นทุนที่อาจพุ่งสูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อ และความเสี่ยงในการเข้าสู่ภาวะถดถอย สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับภาคธุรกิจ ขณะเดียวกันธนาคารกลางสิงคโปร์ได้เตือนว่ามาตรการเก็บภาษีนำเข้าอาจก่อให้เกิด “ช็อกด้านอุปสงค์” ที่กระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ
ด้าน Peter Oey ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของ Grab ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า ธุรกิจของบริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบจากการเจรจาภาษีในขณะนี้ พร้อมระบุว่าในช่วงเดือนรอมฎอนที่ผ่านมา บริการ GrabMart เติบโตเร็วกว่ากลุ่มบริการส่งสินค้าอื่น ๆ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในช่วงเวลาดังกล่าว
และท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดบริการออนไลน์ บริษัทต่าง ๆ พยายามขยายส่วนแบ่งการตลาดและเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ โดยมีรายงานว่า Grab กำลังมองหาแหล่งเงินกู้สูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนดีลซื้อกิจการ GoTo ซึ่งเป็นคู่แข่งจากอินโดนีเซีย แม้ทาง CFO จะไม่แสดงความเห็นต่อข่าวลือนี้ แต่ก็ย้ำว่าอินโดนีเซียเป็นตลาดสำคัญที่ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากในระยะยาว
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney