
Omise (โอมิเซะ) ผู้ให้บริการชำระเงินดิจิทัล ประกาศรีแบรนด์ใหม่อีกครั้ง กลับมาใช้ชื่อ “Omise” หลังจากใช้ชื่อ Opn มากว่า 2 ปี พร้อมประกาศแผนเดินหน้าครั้งใหม่ ปั้น Omise เป็นบริษัทเทคโนโลยี และในปี 2025 นี้เตรียมรุกตลาดบริการ Payment ด้วยระบบ Agentic AI ที่ให้ลูกค้าใช้งานได้สะดวกขึ้น และไร้รอยต่อมากขึ้น
จุน ฮาเซกาวา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Omise กล่าวถึงเส้นทางของ Omise ว่า หากย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของ Omise มาจากการสตาร์ทอัพสาย e-Commerce ที่ให้บริการในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 และในช่วงนั้นเองก็ไปเจอกับ Pain Point ของผู้ใช้งานว่า การชำระเงินที่ติดขัดทำให้ประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์มไม่ราบรื่น จากจุดนั้นจึงเป็นที่มาของการพัฒนาต่อมาเป็นฟินเทคสตาร์ทอัพให้บริการ Payment Gateway
สำหรับ Payment Gateway คือ ระบบหรือบริการที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรับชำระเงินออนไลน์ โดยจะช่วยเชื่อมต่อระหว่างร้านค้า (ผู้ขาย) กับลูกค้า (ผู้ซื้อ) เพื่อให้สามารถทำธุรกรรมการเงินได้อย่างปลอดภัยและสะดวก เช่น การชำระเงินด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต พร้อมเพย์ โอนผ่านธนาคาร หรือช่องทางดิจิทัลอื่น ๆ
สุทธิพร เมฆาอภิรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Omise เล่าว่า ปัจจุบัน Omise ได้เป็นผู้ให้บริการกับร้านค้า (Merchants) กว่า 230,000 ราย ซึ่งเป็นทั้งบริษัทเล็กและใหญ่ใน 5 ประเทศ โดยตลาดที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดคือ ประเทศไทย และในตลาดต่างประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งมียอดเงินชำระสูงกว่า 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2024
ที่ผ่านมา Omise ได้มีการระดมทุนไปแล้วหลายครั้ง โดยในรอบล่าสุด Series C+ ก็สามารถระดมทุนไปได้กว่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับประกาศขยายตลาดอย่างแข็งขันในตลาดสหรัฐอเมริกา
ลูกค้าหลัก ๆ ของ Omise คือ กลุ่มร้านค้า (Merchants) และกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน (Banks and Financial Companies) อีกทั้ง Omise กำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้ให้บริการ Payment Tech สำหรับธุรกิจ ต่อยอดสู่การเป็นเบื้องหลังโครงสร้างพื้นฐานของการชำระเงินไปอีกขั้น
หลังจากใช้ชื่อ Opn มานานกว่า 2 ปี ตอนนี้ Omise ก็ได้ประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่ กลับมาใช้ชื่อเดิมอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าสู่ยุคใหม่ของการชำระเงินที่ปลอดภัย รวดเร็ว และฉลาดกว่าเดิม
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องแบรนด์ แต่เป็นการสะท้อนวิสัยทัศน์ใหม่ของ Omise ที่เตรียมยกระดับโซลูชันการชำระเงินให้ตอบโจทย์โลกธุรกิจยุคดิจิทัล ด้วยการนำ AI มาสร้างประสบการณ์ชำระเงินไร้รอยต่อ ทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สหรัฐฯ และตลาดทั่วโลก
ทั้งนี้ จุน ฮาเซกาวา ได้ตอกย้ำถึงกลยุทธ์ 3Cs ของบริษัทที่จะนำมาปรับใช้เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดีขึ้น ประกอบไปด้วย
สำหรับคอนเซปต์การปรับภาพของ Omise คือการดึงอัตลักษณ์ของแบรนด์ออกมา ด้วยการผสานความเป็น “ร้านค้า” หรือ Shop เข้ากับความเป็น “ระบบชำระเงิน” หรือเหรียญ
ทั้งนี้ เป้าหมายหลักของการรีแบรนด์ครั้งนี้ คือการตอกย้ำความเป็นผู้วางโครงสร้างระบบชำระเงิน พร้อมกับปรับภาพวางรากฐานของการเป็นบริษัทเทคโนโลยี นอกจากนี้ Omise ยังได้ยกระดับด้วยการเตรียมเปิดตัวเครื่องมือใหม่ อย่าง “Omise AI” ตามแผนการก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคฯ
สำหรับ Omise AI คือเครื่องมือ Agentic AI สำหรับช่วยบริหารจัดการระบบชำระเงินและระบบหลังบ้านของลูกค้า Omise ให้มีการทำงานที่ไร้รอยต่อมากขึ้น โดยจะทำงานในรูปแบบของ Generative AI ที่สามารถ Prompt และ AI Agent จะรวบรวมข้อมูลหลังบ้าน หรือช่วยวิเคราะห์ข้อมูลที่ธุรกิจมีอยู่ได้
Omise เตรียมที่จะเปิดตัวนวัตกรรมใหม่นี้ภายในปี 2025 ที่มาพร้อมความสามารถอย่าง
โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกแบบมาเพื่อรองรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่สตาร์ทอัพไปจนถึงองค์กรใหญ่พร้อมรับมือเศรษฐกิจดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว