
จากแนวโน้มในสองปีที่ผ่านมาลูกค้าหลายรายที่เคยซื้อชิป AI กับ Nvidia กำลังผันตัวเป็นคู่แข่งที่หันมาผลิตชิปของตนเอง เพื่อใช้เทรน AI ภายในบริษัทของตน โดยยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่างน้อยสี่ราย ได้แก่ Microsoft, Google, Amazon และ Meta ที่ประกาศพัฒนาชิปของตัวเองอย่างต่อ อย่างไรก็ตามหลายเจ้าเผชิญปัญหาในการออกแบบและชิปแตกต่างกัน หลายแห่งไม่สามารถดำเนินการตามแผนและถูกยกเลิก
บทความที่เกี่ยวข้อง
รายงานระบุว่า ชิปของ Meta ได้รับการผลิตขึ้นโดยร่วมมือกับ TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวัน ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับเวิร์กโหลดด้าน AI โดยเฉพาะ ทำให้ชิปดังกล่าวมีประสิทธิภาพทั้งด้านการประมวลผลและประหยัดพลังงานที่ดีกว่าชิป GPU ที่ใช้ทั่วไปสำหรับงาน AI
โดยชิปดังกล่าวถือเป็นชิปรุ่นล่าสุดในชุด Meta Training and Inference Accelerator (MTIA) ที่เคยเปิดตัวหลายปีก่อนแต่ไม่เคยมีประกาศความคืบหน้าก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมา Meta เริ่มใช้ชิป MTIA ในการทำ Inference สำหรับระบบแนะนำที่กำหนดเนื้อหาที่ปรากฏในฟีดข่าวของ Facebook และ Instagram ตามเป้าหมายของชิปฝึกอบรมที่ต้องการเริ่มต้นกับระบบแนะนำและในภายหลังจะนำไปใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ AI เช่น Meta AI Chatbot
"เรากำลังทำงานเกี่ยวกับวิธีการฝึกอบรมสำหรับระบบแนะนำเนื้อหา” Chris Cox หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Meta กล่าวถึงความพยายามในการพัฒนาชิปของ Meta ว่าเป็นสถานการณ์ที่ค่อยๆ ก้าวไปทีละขั้น
โดยมองว่าชิป Inference รุ่นแรกสำหรับระบบแนะนำเป็นความสำเร็จใหญ่จากที่เคยล้มเหลวและนำไปสู่การตัดสินใจสั่งซื้อ GPU ของ Nvidia มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในปี 2022 ทำให้บริษัทโซเชียลมีเดียรายนี้เป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ Nvidia นับที่ใช้ชิป AI เพื่อเทรนโมเดลของตนรวมถึงการพัฒนาระบบแนะนำโฆษณา
การพัฒนาชิปของตนเองเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวของ Meta ที่จะลดต้นทุน เนื่องจากบริษัทลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่มีค่าใช้จ่ายด้านทุนที่สูงถึง 6.5 หมื่นล้านเหรียญเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต
โดยปัจจุบัน Meta อยู่ในขั้นตอนการนำร่องใช้งานในวงจำกัดและวางแผนที่จะขยายการผลิตหากการทดสอบประสบความสำเร็จ โดยก่อนหน้านี้ Meta เคยใช้งานชิป AI แบบกำหนดเอง แต่เพื่อเรียกใช้โมเดล AI เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อฝึกอบรมโมเดล
บทความที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิงข้อมูลจาก Reuters
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -