Elon Musk คิดนอกกรอบอย่างไรให้รวย? จากเด็กเขียนเกมขาย สู่มหาเศรษฐีสายป่วน ที่อยากพาคนไปดาวอังคาร

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

Elon Musk คิดนอกกรอบอย่างไรให้รวย? จากเด็กเขียนเกมขาย สู่มหาเศรษฐีสายป่วน ที่อยากพาคนไปดาวอังคาร

Date Time: 7 ก.พ. 2568 22:37 น.

Video

คุยกับผู้บริหาร Tinder “ไทยต้นแบบความเท่าเทียมทางเพศ”

Summary

  • Elon Musk เป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางทั้งในแง่ของนวัตกรรมและความขัดแย้ง ที่เริ่มต้นจากการสร้างธุรกิจด้านเทคโนโลยีในช่วงปลายยุค 90 ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐี และแม้จะเคยเผชิญกับวิกฤตการเงินและความล้มเหลวหลายครั้ง ตลอดจนคำวิพากษ์วิจารณ์ แต่ในท้ายที่สุดธุรกิจก็เติบโตได้ จนเรียกได้ว่าเขาคือ "ผู้มาก่อนกาล" ในหลายอุตสาหกรรม ในบทความนี้ Thairath Money คอลัมน์ How to Make Money จะพาไปส่องเส้นทางความมั่งคั่งของ Elon ในฐานะผู้สร้างบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ จนได้ครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

Latest


ถ้าถามว่าตอนนี้ ทั่วโลกใครคือบุคคลที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด นอกจาก Donald Trump ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐอเมริกาแล้ว ก็ต้องเป็น “Elon Musk” มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกที่ออกมาสร้างประเด็นได้ทุกวี่ทุกวันไม่หยุดหย่อน

Elon Musk เป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางทั้งในแง่ของนวัตกรรมและความขัดแย้ง ที่เริ่มต้นจากการสร้างธุรกิจด้านเทคโนโลยีในช่วงปลายยุค 90 ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐี และแม้จะเคยเผชิญกับวิกฤตการเงินและความล้มเหลวหลายครั้ง แต่ในท้ายที่สุดธุรกิจก็เติบโตได้

ชีวิตที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม จนนำไปสู่การก้าวขึ้นมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ผู้นำเทรนด์ในตลาดจนทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักมาตลอด

ในบทความนี้ Thairath Money คอลัมน์ How to Make Money จะพาไปส่องเส้นทางความมั่งคั่งของ Elon ในฐานะผู้สร้างบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่าง PayPal, Tesla และ SpaceX ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติอุตสาหกรรมต่าง ๆ จนทำให้ Musk ได้ครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

รายได้ก้อนแรกจากวิดีโอเกมที่เรียนเขียนโค้ดเอง

ย้อนกลับไปในวันที่ 28 มิถุนายน ปี 1971 ในเมืองพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ Elon Musk เกิดมาในครอบครัวที่เรียกได้ว่าก็ร่ำรวยอยู่แล้ว โดยคุณพ่อ Errol Musk ที่ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาให้กับแอฟริกาใต้ ก็เคยเอ่ยว่าตัวเองทำเหมืองแร่ และร่ำรวยขึ้นมา ด้านคุณแม่ Maye Musk ก็เป็นอดีตนางแบบมายาวนานกว่า 50 ปี เคยขึ้นปกนิตยสารทั้ง Time และ Vogue อีกทั้งยังเป็นนักเขียนอีกด้วย

และเมื่อไม่นานมานี้ ก็มีข่าวลือออกมาเช่นกันว่า ในสมัยวัยรุ่นของ Elon Musk ครอบครัวของเขาสร้างฐานะมาด้วยธุรกิจเหมืองแร่ แต่ด้าน Musk กลับออกมาปฏิเสธ และบอกว่าความร่ำรวยของเขานั้นเริ่มต้นมาจากศูนย์ต่างหาก!

Musk มีความสนใจในคอมพิวเตอร์และวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนที่เขาอายุ 10 ขวบก็เริ่มเรียนรู้วิธีการเขียนโค้ด ออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง ก่อนที่ในปี 1984 ตอนอายุได้ 13 ปี ก็สามารถสร้างวิดีโอเกมชิ้นแรก “Blastar” และขายออกไปในราคา 500 ดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อพิจารณาอัตราเงินเฟ้อ ตั้งแต่ปี 1984 จนถึงปัจจุบัน วิดีโอเกมตัวนั้นมูลค่าเทียบเท่าประมาณ 1,518.79 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2025

จนต่อมาในปี 1989 ครอบครัว Elon Musk ได้ส่งเขามาเข้าเรียนที่ Queen’s University ในประเทศแคนาดา ซึ่งเหตุผลหลัก ๆ แล้วคือต้องการที่จะหนีการเกณฑ์ทหารจากแอฟริกาใต้ และหลังจากนั้นก็ย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาตอนอายุได้ 21 ปี พร้อมกับเข้าเรียนในสาขาฟิสิกส์และเศรษฐศาสตร์ของ University of Pennsylvania และในปี 1995 ก็พยายามจะเรียนต่อในระดับปริญญาเอกสาขาฟิสิกส์ประยุกต์ที่ Stanford University แต่ใช้เวลาแค่ 2 วันก็เลือกที่จะดรอปออกมา เนื่องจากช่วงนั้นได้เริ่มต้นตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพของตัวเองแล้ว จึงหันมาจับที่การทำธุรกิจมากกว่าการเรียนต่อ

สตาร์ทอัพตัวแรก สู่ X.com และการควบรวมกับ PayPal

สตาร์ทอัพตัวแรกที่ Elon Musk ได้ร่วมก่อตั้งกับน้องชาย Kimbal Musk ในปี 1995 คือ “Zip2” เป็นไดเรกทอรีสำหรับธุรกิจออนไลน์ และให้บริการแผนที่ที่ช่วยให้หนังสือพิมพ์และธุรกิจต่าง ๆ มีตัวตนบนอินเทอร์เน็ต คล้ายกับ Google Maps บวกกับ Yelp ในยุคแรก ๆ ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้าและเส้นทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ

โดย Zip2 สามารถเซ็นสัญญากับหนังสือพิมพ์รายใหญ่ อย่างเช่น The New York Times และ Chicago Tribune ได้ ซึ่งต่อมาในปี 1999 บริษัท Compaq บริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้เข้าซื้อกิจการ Zip2 ในราคา 307 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตอนนั้นทาง Elon Musk ก็ได้รับเงินส่วนแบ่งไปที่ 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากดีลนี้ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของความสำเร็จทางการเงิน ที่เขาได้นำเงินก้อนนี้ไปลงทุนในธุรกิจใหม่

ซึ่งธุรกิจใหม่ที่ว่าก็คือ “X.com” ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 เป็นสตาร์ทอัพให้บริการด้านการเงินและการชำระเงินออนไลน์ เป็นหนึ่งในบริษัทแรก ๆ ที่ให้บริการแบบธนาคารออนไลน์ และอนุญาตให้ผู้ใช้โอนเงินผ่านอีเมล ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดที่ล้ำสมัยในยุคนั้น นอกจากนี้ X.com ยังวางแผนให้บริการทางการเงินที่ครอบคลุม เช่น บัญชีเงินฝาก การลงทุน และการโอนเงิน ที่ผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ในปี 2000 เป็นช่วงที่ X.com ได้ควบรวมกับบริษัท Confinity ผู้พัฒนา PayPal ระบบชำระเงินดิจิทัลที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป PayPal ก็กลายเป็นบริการหลักของบริษัท จนในปี 2001 ก็ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น PayPal โดยมุ่งเน้นไปที่การทำธุรกรรมออนไลน์ที่ปลอดภัย

แม้ Musk จะถูกปลดจากตำแหน่ง CEO แต่เขายังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จนเมื่อ eBay เข้าซื้อกิจการ PayPal ในปี 2002 ไปด้วยมูลค่ากว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Musk ก็ได้รับเงินไปกว่า 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเขานำไปลงทุนต่อใน SpaceX, Tesla และธุรกิจอื่น ๆ

ในปี 2002 นอกจากเขาจะส่ง PayPal ไปโลดแล่นในตลาดที่ใหญ่ขึ้นแล้ว ยังได้ก่อตั้ง "The Musk Foundation" เป็นมูลนิธิที่ถูกกล่าวถึงน้อยมาก โดยจะทำหน้าที่ซัพพอร์ตโครงการด้านพลังงานสะอาด ตลอดจนหนุนงานวิจัยและการศึกษาเพื่อพัฒนา AI ที่เป็นมิตรและปลอดภัยกับมนุษยชาติ หากอ่านแล้วคุ้น ๆ มูลนิธิเคยสนับสนุนทาง OpenAI ในวันที่ Elon Musk และ OpenAI ยังลงรอยกันดีอยู่

ขาขึ้น สร้างชื่อเสียงจากธุรกิจ SpaceX และ Tesla

เช่นเดียวกันในปี 2002 เรียกได้ว่าเป็นปีทองของ Elon Musk เพราะเขาได้ก่อตั้ง “SpaceX” ขึ้นมาด้วยเงินทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะปฏิวัติวงการอวกาศ

ต้องขอพาย้อนกลับไปในวัยเด็กก่อนว่า Elon Musk มีความสนใจการเดินทางในอวกาศอย่างมาก เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายวิทยาศาสตร์ตั้งแต่วัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็น The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy และ Foundation อีกทั้งยังได้ริเริ่มโครงการ “Mars Oasis” เมื่อตอนปี 2001 โดยได้ส่งพืชไปปลูกบนดาวอังคาร แต่พบว่าต้นทุนการเดินทางสูงเกินไป จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง SpaceX เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีจรวดที่ถูกลงและใช้ซ้ำได้

เป้าหมายสูงสุดของ Musk คือ การทำให้มนุษย์เป็น “เผ่าพันธุ์หลายดาวเคราะห์” หากนึกถึงภาพยนตร์เอเลี่ยนคือ เราจะเดินทางไปดาวเคราะห์ดวงไหนก็ได้ ใช้ชีวิตที่ไหนก็ได้ในอวกาศในอนาคต ทั้งนี้ Musk มองว่า นี่เป็นการป้องกันการสูญพันธุ์จากภัยคุกคาม เช่น สงครามนิวเคลียร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสถานการณ์ AI ที่ต่อไปอาจควบคุมไม่ได้

นอกจากนี้ Musk ยังไม่พอใจกับความล่าช้าของ NASA และต้องการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบัน SpaceX มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการขายหุ้นในตลาดเอกชนช่วงเดือนธันวาคม 2024 โดยที่ Musk ถือหุ้นอยู่ราว 42% อีกทั้ง SpaceX ยังกำลังอยู่ในช่วงพัฒนายาน Starship เพื่อนำมนุษย์ไปตั้งรกรากบนดาวอังคาร โดยตั้งเป้าว่าจะมีประชากร 1 ล้านคนบนดาวอังคารภายในปี 2050

หลังจากที่ SpaceX เริ่มก่อร่างขึ้นมา Elon Musk ก็ได้มาเริ่มต้นเส้นทางกับ “Tesla Motors” ในปี 2004 ด้วยการเข้าลงทุนและก้าวขึ้นเป็นประธาน ก่อนจะกลายเป็น CEO ในเวลาต่อมา บทบาทของ Musk มีส่วนสำคัญในการพลิกโฉมบริษัทให้กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

Tesla ก้าวสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 2010 โดยสามารถระดมทุนได้ 226 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) และในปี 2012 บริษัทได้เปิดตัว Tesla Model S ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยดีไซน์ล้ำสมัย สมรรถนะที่เหนือกว่ารถไฟฟ้าทั่วไป และเทคโนโลยีที่ช่วยให้ EV กลายเป็นกระแสหลัก นับจากนั้น Tesla ก็เดินหน้าปฏิวัติวงการยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทเติบโตอย่างมหาศาลและมีอิทธิพลระดับโลกในปัจจุบัน

นอกจากนี้ Elon Musk ยังให้ความสำคัญกับอนาคตของ AI และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อมนุษยชาติ ย้อนไปในปี 2015 เขาได้ร่วมก่อตั้ง "OpenAI" เพื่อสนับสนุนการพัฒนา AI อย่างปลอดภัยและมีจริยธรรม โดยตลอดช่วงปี 2002-2018 ทาง Musk ได้บริจาคเงินส่วนตัวและเงินจาก The Musk Foundation ให้กับ OpenAI ไปรวมกว่า 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เขาเองก็มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของบริษัท

ขึ้นแท่นมหาเศรษฐี เป็นไอคอนระดับโลก

Tesla คือหนึ่งในธุรกิจที่ได้สร้างประวัติศาสตร์ความมั่งคั่งให้กับ Elon Musk โดยในปี 2020 ได้กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ส่งผลให้ Elon Musk มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นทะลุ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ความสำเร็จของ Tesla ไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะในปี 2021 บริษัทสามารถทำมูลค่าตลาดแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Musk ก้าวขึ้นเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกแซงหน้า Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon โดยทั้งหมดนี้เป็นผลจากความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่ออนาคตของ Tesla

และข้อมูลเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2025 จาก Forbes พบว่า Elon Musk มีความมั่งคั่งสุทธิที่ 404,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังคงครองอันดับที่ 1 ของโลก

นอกจากนี้ Elon Musk ยังได้ขยายอาณาจักรธุรกิจไปอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปี 2016 ที่ได้ตั้ง "The Boring Company" เพื่อพัฒนาอุโมงค์สำหรับระบบขนส่งในเมือง เข้าซื้อกิจการ "SolarCity" เพื่อนำมาผสานเข้ากับ Tesla ในการพัฒนาโซลูชันพลังงานหมุนเวียน

ตั้ง “Neuralink” เป็นอีกหนึ่งโครงการวิจัยที่มีเป้าหมายในการพัฒนา Brain-Machine Interfaces หรือ BMI เป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อสมองกับคอมพิวเตอร์ผ่านอุปกรณ์ที่ฝังลงในร่างกาย แต่แนวคิดของ Neuralink ทำให้เหล่านักประสาทวิทยาหลายคนแสดงความกังขาต่อการวิจัยและข้อกล่าวอ้างของบริษัท โดยเมื่อปี 2022 บริษัทก็ได้เริ่มทดลองใช้งานกับมนุษย์แล้ว

อีกความน่าทึ่งในพฤติกรรมการซื้อธุรกิจของ Elon Musk คือ การเข้าซื้อ Twitter ด้วยมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น “X” และดำเนินการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่ง Forbes ได้ประเมินมูลค่า ณ เดือนสิงหาคม 2024 พบว่า มูลค่าของ X ลดลงเกือบ 70% จากตอนที่ Musk เข้าซื้อกิจการ

และเพื่อแข่งกับ OpenAI ที่เกิดขัดขาจากอุดมการณ์ที่ต่างกัน ส่งผลให้ Musk ได้เริ่มก่อตั้ง “xAI” เมื่อปี 2023 เป็นบริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI ที่มีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ OpenAI โดยเฉพาะ และต่อมาก็ได้เปิดตัว “Grok” แชตบอท AI ที่ถูกผสานเข้ากับ X ซึ่งปัจจุบัน Musk ถือหุ้นประมาณ 54% ของ xAI โดยในเดือนพฤศจิกายน 2024 นักลงทุนได้ประเมินมูลค่า พบว่า บริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทุกวันนี้ นอกจาก Elon Musk จะเป็นนักธุรกิจแล้วเขายังมีบทบาทสำคัญในทางการเมือง โดยที่ผ่านมาเขาได้สนับสนุนแคมเปญของ Donald Trump และเมื่อ Trump ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย ก็ได้แต่งตั้งให้ Musk มีตำแหน่งพิเศษทำงานใน "Department of Government Efficiency" หรือ "DOGE" ร่วมกับทำเนียบขาว

DOGE ภายใต้การบริหารโดย Musk ได้รับมอบหมายให้หาวิธีลดค่าใช้จ่ายและปรับลดกฎระเบียบต่าง ๆ ลงเพื่อให้ทางรัฐบาลทำงานได้มีศักยภาพมากขึ้น โดยตำแหน่งพิเศษที่ Musk ได้รับแต่งตั้งนี้ เปิดโอกาสให้ Musk สามารถทำงานให้กับรัฐบาลกลางสหรัฐโดยมีหรือไม่มีค่าตอบแทน เป็นระยะเวลาจำกัด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลได้ออกมายืนยันแล้วว่า Musk จะไม่ได้รับเงินเดือน

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ