
Apple รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2025 (สิ้นสุดวันที่ 28 ธันวาคม 2024) ชี้ บริษัททำรายได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยธุรกิจกลุ่มบริการ (Services) ทำเงินได้สูงขึ้น อีกทั้งยังทำกำไรได้เพิ่มขึ้นกว่า 7% เมื่อเทียบกันกับปีก่อน ส่งผลให้หุ้นของ Apple เด้งขึ้นมา 3%
แต่ยอดขาย iPhone ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และรายได้จากตลาดจีนลดลงกว่า 11.1% มีผลมาจากสินค้าคงคลังที่ลดลง ตลอดจนความล่าช้าในการเปิดตัว Apple Intelligence ที่รองรับภาษาจีน
โดยผลประกอบการ Apple เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของ LSEG สำหรับไตรมาสนี้สิ้นสุดวันที่ 28 ธันวาคม 2024 มีดังนี้
กำไรสุทธิของไตรมาสนี้อยู่ที่ 36,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.1% จาก 33,920 ล้านดอลลาร์สหรัฐของปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ที่ 46.9% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แซงหน้าสถิติเก่า 46.6% ในไตรมาสมีนาคม 2024 และ Apple คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นไตรมาสมีนาคมนี้จะอยู่ระหว่าง 46.5% - 47.5%
Apple ระบุว่า เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะกระทบรายได้โดยรวมประมาณ 2.5% และหากตัดผลกระทบจากค่าเงินออกไป อัตราการเติบโตจะใกล้เคียงกับไตรมาสธันวาคมที่ 6% ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าไตรมาสมีนาคมที่จะถึง Apple จะมีรายได้รวมที่ประมาณ 95,460 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับไตรมาสนี้ จะเห็นว่า งานบริการ หรือ Services ที่ประกอบไปด้วยบริการอย่างเช่น Subscription ตลอดจนการเปิดให้ใช้สิทธิ์ License มีรายงานรายได้ที่ 23,120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ด้าน Tim Cook ซีอีโอของ Apple ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทมีผู้สมัครใช้บริการมากกว่า 1 พันล้านบัญชี ซึ่งรวมถึงบริการของ Apple เอง อย่างเช่น Apple TV+ และ iCloud ตลอดจนการสมัครสมาชิกแอปฯ ของบุคคลที่สามผ่าน App Store
แม้ว่ารายได้โดยรวมของ Apple จะเพิ่มขึ้น แต่ยอดขาย iPhone กลับลดลงเมื่อเทียบแบบปีต่อปี โดยไตรมาสธันวาคมเป็นไตรมาสแรกที่ iPhone 16 วางขายเต็มไตรมาส อีกทั้ง Apple ยังได้เปิดตัวระบบ AI ใหม่ภายใต้ชื่อ Apple Intelligence
การพลาดเป้ารายได้ iPhone หากลองเทียบกับการคาดการณ์ของ LSEG ถือว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2023 เนื่องจากติดปัญหาการผลิต iPhone 14 ในจีน
อีกทั้งยอดขายในจีนก็ร่วงลงเช่นกัน ซึ่ง Apple มีรายได้จากจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และไต้หวันรวมกันที่ 18,510 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงราว 11.1% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดตั้งแต่ไตรมาสเดียวกันของปี 2023 ที่ลดลง 12.9%
Tim Cook เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่ายอดขาย iPhone ในประเทศที่สามารถใช้ Apple Intelligence ได้มีแนวโน้มดีกว่าตลาดที่ยังไม่มี ซึ่งปัจจุบันระบบ AI ของ Apple ใช้งานได้เพียงในบางประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ และยังไม่รองรับภาษาจีน พร้อมระบุว่า Apple มีแผนจะเพิ่มการรองรับภาษาอื่นในเดือนเมษายนปีนี้ รวมไปถึงเวอร์ชันภาษาจีนแบบ Simplified Chinese ด้วย
นอกจากนี้ Tim Cook ยังได้กล่าวถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขายในจีน ว่ามาจากการลดลงของสินค้าคงคลังในจีน การที่ Apple Intelligence ยังไม่เปิดตัว และการรอให้รัฐบาลจีนออกมาตรการสนับสนุน ที่ Cook มองว่าเมื่อมาตรการนี้ออกมา ยอดขายจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
ที่มา: CNBC
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney