อินโดฯ สั่งปรับ Google 12.6 ล้านเหรียญ  ฐานผูกขาดชำระเงินใน Play Store บีบนักพัฒนาแอปไร้ทางเลือก

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

อินโดฯ สั่งปรับ Google 12.6 ล้านเหรียญ ฐานผูกขาดชำระเงินใน Play Store บีบนักพัฒนาแอปไร้ทางเลือก

Date Time: 23 ม.ค. 2568 16:33 น.

Video

บุกโรงงานญี่ปุ่น ทัวร์ Glico ยักษ์ใหญ่อาหาร 3 แสนล้านเยน | BrandStory EP.27

Summary

ทางการอินโดนีเซียคุมเข้มบิ๊กเทคไม่หยุดหลังปัดดีลใหญ่ระหว่าง Apple ล่าสุดสั่งปรับ Google เป็นเงิน 12.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดระบบชำระเงินของ Google Play Store หลังสอบสวนยาวตั้งแต่ปี 2022

Latest


หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของอินโดนีเซีย (KPPU) สั่งปรับ Google ข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านผูกขาดจำนวนเงิน 202,500 ล้านรูเปียห์หรือประมาณ 12.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมสั่งให้ยุติการใช้ Google Play Billing ใน Google Play Store

ตามข้อมูลของหน่วยงานระบุว่า การซื้อผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลทั้งหมดใน Google Play Store ต้องผ่านระบบ GPB พร้อมกันนี้แพลตฟอร์มยังห้ามการชำระเงินด้วยวิธีอื่นนอกเหนือจาก GPB อีกด้วย ทำให้ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันที่ต้องอยู่บนระบบ Google ไม่มีทางเลือก

Google Play Store เป็นแอปสโตร์เพียงแห่งเดียวที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าในอุปกรณ์ Android ทั้งหมด โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% ในอินโดนีเซียซึ่งมีประชากร 280 ล้านคนและกำลังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจดิจิทัลที่เติบโต โดย Google Search มีส่วนแบ่งการตลาดในอินโดนีเซียประมาณ 95.16% ในอินโดนีเซีย ณ เดือนมกราคม 2024 ตามข้อมูลของ Statista ขณะที่เครื่องมือค้นหาอื่นๆ เช่น Bing, Yahoo!, DuckDuckGo และ Yandex ครองส่วนแบ่งที่เหลือ

รายงานระบุว่า ทางการได้เริ่มทำการสอบสวนแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่ไม่เป็นธรรมของ Google ในปี 2022 หลังมีข้อเรียกร้องว่า Google ใช้ความโดดเด่นทางการตลาดผูกขาดระบบชำระเงินและจำกัดให้ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันในอินโดนีเซียต้องชำระเงินด้วยระบบ Google Play Billing (GPB)

การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลการผูกขาดทั่วโลกได้สอบสวน Google ในลักษณะเดียวกัน Google ถูกตรวจสอบและสั่งปรับเนื่องจากละเมิดแนวทางปฏิบัติที่ต่อต้านการแข่งขันในหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา

หน่วยงานระบุว่า นักพัฒนาแอปในอินโดนีเซียจำเป็นต้องใช้ระบบการชำระเงินของ Google ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 15% ถึง 30% ซึ่งสูงกว่าระบบชำระเงินอื่นๆ นอกจากนี้หากแอปฯ ใดไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด แอปฯ เหล่านั้นอาจเสี่ยงต่อการถูกลบออกจาก Google Play Store การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของอินโดนีเซีย

ทั้งนี้นอกจากการสั่งปรับแล้วหน่วยงานต่อต้านการผูกขาดของอินโดนีเซีย (KPPU) ได้ขอให้ Google อนุญาตให้ผู้พัฒนาแอปฯ ทุกคนสามารถเข้าร่วมโปรแกรม User Choice Billing (UCB) และต้องให้ส่วนลดค่าบริการขั้นต่ำ 5% เป็นเวลา 1 ปี

แดเนียล โคเฮน โฆษกของ Google กล่าวในแถลงการณ์ทางอีเมล ระบุว่า ที่ผ่านมาบริษัทให้การสนับสนุนนักพัฒนาซอฟต์แวร์ชาวอินโดนีเซียผ่านโครงการที่หลากหลาย โดยยืนยันว่าบริษัทนำเสนอแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยพร้อมกับการเข้าถึงทั่วโลก นอกจากนี้ยังยืนยันว่าบริษัทเปิดตัวเลือกการเรียกเก็บเงินที่ช่วยให้มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากระบบการเรียกเก็บเงินของ Google Play

อย่างไรก็ตามด้านของ Google มีแผนที่จะอุทธรณ์คำตัดสิน โดยอ้างว่า แนวทางปฏิบัติของบริษัทส่งเสริมระบบนิเวศแอปของอินโดนีเซียที่มีการแข่งขันสูง ซึ่ง Google มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกฎหมายของอินโดนีเซียและจะร่วมมือกับ KPPU และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อไปตลอดกระบวนการ

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิงข้อมูลจาก Techcrunch 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ