
Apple ก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่มีการบริหารจัดการดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา จากการจัดอันดับประจำปีของสถาบันดรักเกอร์ โดยสามารถแซงหน้า Microsoft ที่ครองอันดับ 1 มาต่อเนื่อง 4 ปี
การจัดอันดับครั้งนี้มีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ติดอันดับต้นๆ หลายราย โดย NVIDIA อยู่อันดับ 2 Microsoft อันดับ 3 และ Intel อันดับ 4 ขณะที่ Alphabet บริษัทแม่ของ Google อยู่อันดับ 8 และ Adobe อันดับ 9
ส่วนบริษัทนอกวงการเทคโนโลยีที่ติดท็อป 10 ประกอบด้วย Mastercard ที่ก้าวกระโดดจากอันดับ 24 ในปีที่แล้วมาอยู่อันดับ 5 ตามด้วย Johnson & Johnson อันดับ 6 Procter & Gamble อันดับ 7 และ Philip Morris International อันดับ 10
สำหรับ Management Top 250 เป็นการจัดอันดับที่พัฒนาโดยสถาบันดรักเกอร์ร่วมกับ Wall Street Journal เพื่อประเมินประสิทธิภาพองค์กรใน 5 ด้านหลัก ได้แก่ ความพึงพอใจของลูกค้า การมีส่วนร่วมและการพัฒนาพนักงาน นวัตกรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม และความแข็งแกร่งทางการเงิน ครอบคลุมบริษัทในสหรัฐฯ 660 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NYSE หรือ Nasdaq
Apple โดดเด่นเป็นพิเศษด้านนวัตกรรม โดยได้คะแนนสูงถึง 99.9 คะแนน สูงที่สุดในบรรดาบริษัททั้งหมด และในกลุ่ม 25 อันดับแรก มีเพียง 4 บริษัทที่ได้คะแนนนวัตกรรมเกิน 90 คะแนน ได้แก่ Apple, Microsoft, Amazon และ Walmart โดยในปี 2024 Apple ได้เปิดตัว iPhone 16 รุ่นแรกที่มาพร้อมซอฟต์แวร์ AI ที่เรียกว่า Apple Intelligence
นอกจากนี้ Apple ยังทำผลงานโดดเด่นด้านการเงิน โดยได้อันดับ 2 รองจาก NVIDIA ซึ่งมีมูลค่าตลาดพุ่งสูงถึง 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน จากความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม Apple ได้กลับมาครองตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอีกครั้ง ด้วยมูลค่าตามตลาดของ Apple อยู่ที่ 3.85 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2567)
ทั้งนี้ จุดอ่อนของ Apple อยู่ที่ด้านการมีส่วนร่วมและการพัฒนาพนักงาน โดยได้คะแนนเพียง 62.7 คะแนน ต่ำที่สุดในบรรดาบริษัทท็อป 10 ทั้งหมด
อ้างอิง Business Insider , Drucker