Adobe มีหนาว CapCut แอปฯ ตัดคลิปสั้น เจ้าของเดียวกับ TikTok กำลังแย่งตลาด เพราะใช้ง่ายกว่า

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

Adobe มีหนาว CapCut แอปฯ ตัดคลิปสั้น เจ้าของเดียวกับ TikTok กำลังแย่งตลาด เพราะใช้ง่ายกว่า

Date Time: 30 ก.ค. 2567 14:58 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

CapCut แอปฯ ตัดต่อวิดีโอยอดนิยม อาจถูกจำกัดการใช้งานในสหรัฐฯ หน่วยงานกำกับจับตาใกล้ชิดต่อเนื่องจากการแบน TikTok หลังยอดใช้งานเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ด้าน Adobe หนึ่งในผู้สร้างแอปฯ ตัดต่อวิดีโอรายใหญ่ กังวลถูกแย่งสัดส่วนผู้ใช้

Latest


แท้จริงแล้ว CapCut แอปพลิเคชันตัดต่อวิดีโอยอดนิยมที่หลายคนใช้ เป็นของ ByteDance บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จีน ที่เราคุ้นเคยในฐานะบริษัทแม่ TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งแบนอยู่นั่นเอง  

บทความที่เกี่ยวข้อง 

ไม่แปลกที่ CapCut จะกลายเป็นแอปฯ ใหม่ที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด และอาจถูกนับเป็นหนึ่งในภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติรวมกับ TikTok นอกจากนี้ หากถามว่าทำไมหน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ ถึงมอง CapCut เป็นภัย ยังมีปัจจัยหลักจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะครีเอเตอร์และผู้ใช้งาน TikTok ในสหรัฐฯ ที่นิยมใช้ CapCut ในการตัดต่อวิดีโอ 

CapCut เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 ในรูปแบบแอปพลิเคชันบนมือถือด้วยอินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย มีเอฟเฟกต์ให้ใช้งานหลากหลาย และใช้งานได้จริงมากกว่าหลายแอปฯ ในท้องตลาด นอกจากนี้ แอปฯ ยังมีเทมเพลตที่ช่วยให้ผู้ใช้แมตช์ฟุตเทจวิดีโอ และส่งออกเนื้อหาที่เสร็จสมบูรณ์ไปยัง TikTok ได้ทันทีอีกด้วย 

ข้อมูลจาก Sensor Tower ระบุว่าในปีนี้ยอดผู้ใช้งาน CapCut บนมือถือ มีสัดส่วนกว่า 80% และมีผู้ใช้งานต่อเดือนมากกว่า 300 ล้านคน เติบโตเป็นอันดับหนึ่งทิ้งห่างแอปอื่นๆ Canva, InShot, Adobe Express และ Adobe Premiere Rush ที่มีผู้ใช้งานเพียง 2 ล้านคนเท่านั้น โดย Sensor Tower ยังได้ประมาณการว่า CapCut จะสามารถทำรายได้จากการใช้งานบนมือถือถึง 125 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ 

อย่างไรก็ตาม ด้านนักลงทุนแสดงความเห็นที่มีต่อตลาดผู้ใช้งานว่า ผู้ใช้อาจละทิ้งโปรแกรมตัดต่อที่มีความซับซ้อนในการใช้งาน ซึ่งอาจจะจำกัดสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์เท่านั้น แม้จะมีเครื่องมือหรือองค์ประกอบสำหรับการผลิตผลงานสำหรับงานวิดีโอขั้นสูงมากกว่า แต่ผู้ใช้อาจหันไปใช้งานโปรแกรมที่ใช้ง่ายกว่า โดย CapCut เป็นตัวเลือกที่นักตัดต่อวิดีโอเลือกใช้  

นอกจากนี้ CapCut ยังมีแผนขยายเป้าหมายไปสู่ผู้ใช้ระดับมืออาชีพมากขึ้น โดยเปิดตัว CapCut Desktop Version ทั้งในระบบปฏิบัติ Windows และ Mac พร้อแพ็กเกจโปรสำหรับธุรกิจขนาดเล็กในราคา 9.99 ดอลลาร์ หรือราว 360 บาทต่อเดือน 

ความนิยมที่เพิ่มขึ้นและการขยายขอบเขตในการใช้งานของ CapCut อาจสร้างความกังวลให้กับ Adobe ในฐานะผู้พัฒนา Premiere Pro และ After Effects สืบเนื่องจากที่ Adobe ก็กำลังพัฒนา Premiere เวอร์ชันที่เล็กลงสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่สามารถรันบนเว็บเบราว์เซอร์ และยังดึงดูดใจด้วยฟีเจอร์ GenAI ความพยายามในการพัฒนาโปรแกรมตัดต่อวิดีโอแบบครบวงจรบนมือถืออาจต้องหยุดชะงักลง เนื่องจาก CapCut เข้ามามีบทบาทมากขึ้น  

ทั้งนี้ แม้ว่าทีมพัฒนา CapCut จะแยกจาก TikTok แต่พนักงานในสหรัฐฯ ใช้พื้นที่สำนักงานร่วมกันในลอสแอนเจลิส อย่างไรก็ตาม การแบน CapCut ร่วมกับ TikTok เพิ่ม อาจส่งผลกระทบต่อเหล่าครีเอเตอร์ และปิดทางเลือกสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำวิดีโอ รวมไปถึงยังเป็นการจำกัดช่องทางในการสร้างรายได้ของหลายธุรกิจมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์เพื่อสู้คดีกับรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อในชั้นกฎหมาย  

อ้างอิง Bloomberg 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney 
 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ