
Palo Alto Networks เผย 6 ความเสี่ยงหลักในยุค AI Economy ที่องค์กรต้องรับมือในปี 2569
ปี 2569 กำลังก้าวสู่ “ปีแห่งการป้องกัน” อย่างแท้จริง เมื่อโลกธุรกิจเร่งเข้าสู่เศรษฐกิจยุค AI พร้อมเผชิญความเสี่ยงรูปแบบใหม่ที่รุนแรงที่สุดเท่าที่ผู้เชี่ยวชาญเคยพบมา จากเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลระดับใหญ่และเครือข่ายองค์กรล่มทั้งระบบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัญหาเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากช่องโหว่ในซัพพลายเชน ขณะที่ผู้โจมตีก็พัฒนาความสามารถให้รวดเร็ว ซับซ้อน และแม่นยำมากกว่าเดิม
Palo Alto Networks ผู้นำระดับโลกด้าน AI และความปลอดภัยไซเบอร์ ชี้ว่า หากปี 2568 คือ “ปีแห่งความปั่นป่วน” จากคลื่นภัยไซเบอร์ที่พุ่งสูงไม่หยุด ปี 2569 จะเป็นปีที่องค์กรต้องตอบโต้กลับอย่างจริงจัง ขณะเดียวกันได้เผยแพร่รายงานคาดการณ์ “6 ความเสี่ยงใหญ่” ที่จะกำหนดกติกาใหม่ของความปลอดภัยในยุค AI Economy และเป็นเข็มทิศสำคัญให้ผู้นำองค์กรปรับยุทธศาสตร์ด้าน Cybersecurity ต่อจากนี้
ปี 2569 “ตัวตน” จะกลายเป็นสมรภูมิหลัก เมื่อ AI สามารถสร้าง Deepfake แบบเรียลไทม์จนแทบแยกไม่ออกว่าเป็นมนุษย์หรือร่างจำลอง อีกทั้งการเติบโตของเอเจนต์อัตโนมัติทำให้ Machine Identity พุ่งสูงถึงอัตรา 82:1 เมื่อเทียบกับมนุษย์ ความผิดพลาดเพียงคำสั่งเดียวอาจกระทบระบบอัตโนมัติทั้งองค์กร องค์กรจึงต้องหันไปใช้ระบบยืนยันตัวตนเชิงรุกที่ปกป้องมนุษย์ เครื่องจักร และ AI Agent พร้อมกัน
เมื่อ AI Agent กลายเป็นแรงงานอัจฉริยะที่ทำงาน 24 ชั่วโมง ความเสี่ยงรูปแบบใหม่จึงเกิดขึ้นทันที เพราะ AI เหล่านี้ได้รับสิทธิ์เข้าถึงระดับสูงเสมือน “กุญแจหลัก” ขององค์กร ทำให้เป็นเป้าหมายลำดับแรกของอาชญากร องค์กรจึงต้องใช้เครื่องมือกำกับดูแลสำหรับ AI โดยเฉพาะ เช่น Runtime Firewall และระบบควบคุมพฤติกรรมของเอเจนต์ เพื่อป้องกันไม่ให้ AI กลับมาทำร้ายระบบของตัวเอง
การโจมตีจะพุ่งเป้าไปที่ข้อมูลต้นทางที่ใช้ฝึก AI โดยอาศัยช่องว่างระหว่างทีม Data Science และทีม Security ที่ทำงานแยกส่วน ทำให้เกิดความเสี่ยงใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน องค์กรต้องใช้แพลตฟอร์มรวมศูนย์ เช่น DSPM (ระบบจัดการสถานะด้านความปลอดภัยของข้อมูล) และ AI-SPM (ระบบจัดการสถานะด้านความปลอดภัยของ AI) ควบคู่กับ Runtime Agents เพื่อปิดช่องโหว่และสร้างความโปร่งใสตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
กระแสเร่งใช้ AI เพื่อสร้างความได้เปรียบกำลังชนกับความจริงด้านกฎหมาย ปี 2569 มีแนวโน้มเป็นปีแรกที่ผู้บริหารระดับสูงถูกฟ้องจากเหตุ AI ทำผิดพลาด เพราะระบบควบคุมไม่เพียงพอ ทำให้องค์กรต้องสร้างโครงสร้างกำกับดูแลใหม่ เช่น Chief AI Risk Officer และเพิ่มบทบาท CIO ให้เป็นผู้นำด้าน AI Strategy เพื่อสร้างกลไกกำกับดูแลและระบบที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกเวลา
ความก้าวหน้าของควอนตัมคอมพิวเตอร์เร็วกว่าคาดอย่างมหาศาล ความเสี่ยงจากข้อมูลที่เก็บวันนี้อาจถูกถอดรหัสได้ในอีกไม่กี่ปี รัฐบาลต่าง ๆ เตรียมออกข้อบังคับด้านการเข้ารหัสควอนตัม ส่งผลให้องค์กรต้องเปลี่ยนสู่แนวคิด “ความคล่องตัวด้านการเข้ารหัส” ที่ปรับตามมาตรฐานใหม่ได้ตลอดเวลา
เมื่อเบราว์เซอร์เปลี่ยนเป็นแพลตฟอร์มปฏิบัติการที่รัน workflow เชื่อมข้อมูลทั้งองค์กรแบบเรียลไทม์ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะเมื่อปริมาณทราฟฟิกจาก GenAI พุ่ง 890% ภายในปีเดียว องค์กรจึงต้องย้ายสู่สถาปัตยกรรมความปลอดภัยบนคลาวด์แบบรวมศูนย์ที่ปกป้องตั้งแต่ในเบราว์เซอร์และรองรับ Zero Trust
ด้าน ดร.ธัชพล โปษยานนท์ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคอินโดจีน ของ Palo Alto Networks ชี้ว่า ไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญสู่ยุค Digital Realization ในขณะที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ AI เพิ่มความเร็วการโจมตีมากถึง 100 เท่า องค์กรไทยจึงต้องเลิกใช้เครื่องมือแยกส่วน และหันไปสู่ระบบความปลอดภัยแบบเชิงรุกที่ขับเคลื่อนด้วย AI และแพลตฟอร์มรวมศูนย์ เพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและสร้างคุณค่าสูงสุดในยุคที่ความเสี่ยงพัฒนาอย่างรวดเร็ว
อ่านรายงานเพิ่มเติม 6 Predictions for the AI Economy: 2026's New Rules of Cybersecurity
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -