บันทึกวานรวิทยา กว่า 6 ทศวรรษของ Jane Goodall ในรูปแบบดิจิทัล เปิดให้นักวิจัยเข้าถึงได้ครั้งแรก
Date Time: 11 พ.ย. 2568 18:35 น.
“Summary“
AWS และ JGI ร่วมมือแปลงข้อมูลงานวิจัยของ ดร.เจน กูดดอลล์ กว่า 65 ปี สู่ระบบดิจิทัล
- โครงการใช้เทคโนโลยี AI จาก Amazon Bedrock และ SageMaker ด้วยงบประมาณ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- เป้าหมายคืออนุรักษ์ข้อมูลงานวิจัยและเปิดโอกาสให้นักวิจัยทั่วโลกเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น
- โครงการจะแปลงบันทึกงานวิจัยลายมือ ฟิล์ม และสื่อประวัติศาสตร์ให้เป็นดิจิทัล
- ข้อมูลจะถูกจัดเก็บบนโครงสร้างคลาวด์ของ AWS และพัฒนาระบบ AI สำหรับการค้นหาข้อมูล
AWS ประกาศร่วมมือกับ Jane Goodall Institute (JGI) เดินหน้าโครงการครั้งประวัติศาสตร์ในการแปลงข้อมูล “งานวิจัยด้านวานรวิทยา” กว่า 6 ทศวรรของ ดร.เจน กูดดอลล์ (Jane Goodall) นักวานรวิทยา สู่ฐานข้อมูลดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยี AI ขั้นสูงจาก Amazon Bedrock และ Amazon SageMaker เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวิทยาศาสตร์ พร้อมเปิดโอกาสให้นักวิจัยทั่วโลกสามารถเข้าถึงข้อมูลอันทรงคุณค่านี้ได้อย่างสะดวกเป็นครั้งแรก
ภายใต้งบสนับสนุนกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 32 ล้านบาท ผ่านกองทุน Generative AI Innovation Fund AWS จะสนับสนุนการแปลงข้อมูลงานวิจัยของสถาบัน JGI ให้เป็นดิจิทัลอย่างครบวงจร รวมถึงสนับสนุนด้านบุคลากรและส่งเสริมการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในงานวิจัย
เป็นเวลากว่า 65 ปีที่ ดร.เจน กูดดอลล์ ศึกษาและสังเกตพฤติกรรมลิงชิมแปนซีและลิงบาบูนอย่างละเอียดผ่านการจดบันทึกด้วยลายมือ ฟิล์มบันทึกเหตุการณ์พิเศษ และข้อมูลจากการสังเกตการณ์ ซึ่งยังคงเก็บอยู่ในรูปแบบอนาล็อกในฐานข้อมูลต่างๆ ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงได้สะดวก และเสี่ยงต่อการสูญหายตามกาลเวลา
เปลี่ยนงานวิจัยหลายทศวรรษ ด้วยคลาวด์และ AI
โครงการนี้พัฒนาต่อยอดจากความร่วมมือกับบริษัท Ode ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบเพื่อการอนุรักษ์ ซึ่งจะช่วยให้สถาบัน JGI นำ AI มายกระดับงานวิจัย เปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้สถาบัน ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินงานสองส่วน คือ
1. แปลงบันทึกงานวิจัยจากลายมือสู่ดิจิทัล
โครงการนี้จะมุ่งแปลงบันทึกภาคสนามที่เขียนด้วยลายมือที่สะสมมากว่า 6 ทศวรรษ ให้เป็นดิจิทัลแบบมีโครงสร้างและค้นหาได้ง่าย รวมถึงบันทึกงานวิจัยลิงบาบูน เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ทั่วโลก นอกจากนี้ยังอนุรักษ์และแปลงฟิล์มและสื่อประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ปี 1960 เมื่อ ดร.กูดดอลล์ เดินทางมาถึง อุทยานแห่งชาติกอมเบ ประเทศแทนซาเนีย เป็นครั้งแรก
2. ยกระดับงานวิจัยด้านการอนุรักษ์สู่ยุคดิจิทัลด้วย AI
ข้อมูลของ JGI จะถูกย้ายไปยังโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของ AWS ที่ปลอดภัยและขยายขนาดได้ โครงการสนับสนุนการผสานข้อมูลหลายรูปแบบ เช่น ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS), ภาพถ่ายดาวเทียม, บันทึกวิจัยประวัติศาสตร์, วิดีโอ และเสียงบรรยากาศ เข้าด้วยกันในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ค้นหาข้อมูลย้อนหลังหลายทศวรรษได้รวดเร็วและง่ายดาย
รายงานระบุว่า ทีมงานจะพัฒนาระบบ AI ที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของ JGI เพื่อให้สามารถค้นหาข้อมูลด้วยภาษาธรรมชาติและสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับนักวิจัยทั่วโลกเพื่อวิเคราะห์และอ้างอิงข้อมูลในรูปแบบใหม่ โครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการอนุรักษ์มรดกทางวิชาการของ ดร.กูดดอลล์ พร้อมสร้างเครื่องมือทันสมัยให้กับนักวิจัยและนักอนุรักษ์รุ่นใหม่ เพื่อสานต่อภารกิจอันสำคัญของเธอ
การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลนี้จะช่วยเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการอนุรักษ์และการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจากบันทึกและวิดีโอที่เคยเข้าถึงได้ยาก ข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บบนโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ของ AWS ที่มีความปลอดภัยและสามารถขยายได้ ช่วยให้นักวิจัยสามารถสืบค้น วิเคราะห์ และเปรียบเทียบข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) และเสียงจากธรรมชาติ ได้ในที่เดียว
“การแปลงข้อมูลเหล่านี้ให้เป็นดิจิทัลคือการสานต่อเจตนารมณ์ของ ดร.กูดดอลล์ ที่เชื่อในพลังของการแบ่งปันความรู้ การวิจัยแบบเปิดและการอนุรักษ์โดยชุมชน” ดร.ลิเลียน พินทีย์ (Lilian Pintea) รองประธานฝ่ายวิทยาศาสตร์การอนุรักษ์ JGI-USA กล่าว
ตลอดกว่า 65 ปีของการทำงาน Dr. Jane Goodall ได้อุทิศชีวิตเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของลิงชิมแปนซีและลิงบาบูน รวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ผลงานของเธอไม่เพียงเปลี่ยนแปลงวงการวานรวิทยา แต่ยังปลุกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับผู้คนทั่วโลก
ที่มาข้อมูล AWS
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -
Author
