SCBX ตั้งเป้า 75% ของรายได้จะมาจาก AI ภายใน 2027 พร้อมเปิดตัว White Paper ด้าน AI ชี้ 4 เทรนด์ใหญ่

Tech & Innovation

Digital Transformation

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

SCBX ตั้งเป้า 75% ของรายได้จะมาจาก AI ภายใน 2027 พร้อมเปิดตัว White Paper ด้าน AI ชี้ 4 เทรนด์ใหญ่

Date Time: 9 พ.ค. 2568 10:42 น.

Video

อย่ากลัว! วิกฤติใหญ่ยังไม่เกิด หาโอกาสลงทุน กับ กวี ชูกิจเกษม | Thairath Money Night Stand EP.21

Summary

SCBX ประกาศเปิดตัวรายงาน “SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence” สมุดปกขาวด้าน AI นำเสนอความเปลี่ยนแปลงและแนวทางในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทในหลายด้านของชีวิตมนุษย์ โดยมุ่งเน้นไปที่การเตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจที่จะปรับตัวไปสู่การเป็น AI-First Organization พร้อมกับเปิดภาพการพัฒนาด้าน AI ของ SCBX เองที่ดำเนินมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

Latest


เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) ประกาศเปิดตัวรายงาน “SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence” สมุดปกขาวด้าน AI นำเสนอความเปลี่ยนแปลงและแนวทางในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทในหลายด้านของชีวิตมนุษย์ โดยมุ่งเน้นไปที่การเตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจที่จะปรับตัวไปสู่การเป็น AI-First Organization พร้อมกับเปิดภาพการพัฒนาด้าน AI ของ SCBX เองที่ดำเนินมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ตั้งเป้ารายได้ 75% จาก AI

กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Chief Innovation Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX ขึ้นกล่าวบนเวทีเปิดตัวสมุดปกขาวถึงการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ AI-First Organization ด้วยการสร้าง AI Innovation Ecosystem ภายใต้การทำงานของ 3 ส่วนหลัก คือ SCBX ในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ SCB10X วางโครงสร้างพื้นฐาน และ DataX สเกลพร้อมวางตลาด โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 2027 ว่า

  • 75% ของรายได้จะต้องมาจากการใช้งาน AI
  • 75% ของกระบวนการทำงานจะต้องอัตโนมัติหรือทำงานด้วย AI
  • 15% ของทาเล้นต์จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI

ซึ่งตลอดที่ผ่านมา นอกจากจะพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่อย่าง Typhoon LLM แล้ว SCBX ยังเดินหน้าจับมือกับสถาบันวิจัยต่าง ๆ เพื่อทำการศึกษาวิจัยและตั้งเป้าที่จะเผยแพร่ผลงานไปในระดับโลก

นอกจากนี้ ภายใต้ SCBX Innovation Lab ก็ได้ทำการนำ AI มาปรับใช้ให้สอดประสานกระบวนการทำงานของเครือ SCBX ให้ดำเนินการอย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงการนำ AI มาใช้ในงานธนาคาร การเงิน ตลอดจนบริการลูกค้า

เปิด 4 แนวโน้มใหญ่แห่งโลก AI ปี 2025

ดร.ทุตานนท์ สินธุประสิทธิ์ R&D and Innovation Lab Lead บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX ขึ้นนำเสนอรายงานจาก SCBX ชี้ให้เห็น 4 ACT หลัก ที่คาดว่าจะพลิกอนาคตเศรษฐกิจและเทคโนโลยี พร้อมยกกรณีศึกษาจริง สู่การเติบโตอย่างมีวิสัยทัศน์ในยุคที่ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่กลายเป็น “ผู้ร่วมงาน”

  • ACT I: ศึกสองสายพันธุ์ AI – Open หรือ Closed ใครจะครองอนาคต?

ในวันที่โลก AI กำลังแบ่งเป็น 2 ขั้วหลัก คือ “โมเดลแบบเปิด” ที่ให้ใครก็สามารถเข้ามาพัฒนาและต่อยอดได้ กับ “โมเดลแบบปิด” ที่ถูกควบคุมโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้า เช่น OpenAI หรือ Anthropic จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อปี 2023 ในตอนที่มีโมเดลแบบเปิดเปิดตัวออกมากว่า 149 โมเดลภายในปีเดียว เพิ่มจากสัดส่วนเพียง 33% ในปี 2021 เป็น 65% ภายในเวลาไม่กี่ปี

ภาพจากรายงาน SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence
ภาพจากรายงาน SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence

โมเดลอย่าง DeepSeek R1 ที่เป็นแบบเปิด สามารถทำคะแนนด้านการเข้าใจภาษาสูสีกับ GPT-4 ของ OpenAI แต่ใช้ต้นทุนเพียง 1.37 ดอลลาร์ต่อ 1 ล้านโทเคน เทียบกับ GPT-4 ที่ต้องใช้ถึง 112.5 ดอลลาร์ แถมยังใช้เวลาแค่ 15 ชั่วโมงในการสร้างโมเดล

แม้โมเดลปิดจะยังเหนือกว่าในงานเฉพาะทาง เช่น การเข้าใจบริบทยาวหรือประมวลผลที่ซับซ้อน แต่โมเดลแบบเปิดกำลังไล่จี้ติดแบบไม่กะพริบตา ทั้งด้านประสิทธิภาพ ความโปร่งใส และความยืดหยุ่นในการนำไปปรับใช้งานเฉพาะกิจ

  • ACT II: Tiny Titans – โมเดลเล็กแต่ใจใหญ่

ถ้ายุคก่อนใครใหญ่ใครอยู่ ยุคนี้คือ “ใครเล็ก ใครเร็ว ใครรอด” เพราะ AI ขนาดเล็กกำลังแสดงพลังให้โลกเห็นว่า ขนาดไม่ใช่ทุกอย่างอีกต่อไป

โมเดลเล็กแบบเฉพาะทาง (Small Models) กลายเป็นเรื่องที่กำลังมาแรง เพราะสามารถทำงานได้เฉพาะจุด ใช้พลังงานน้อย ต้นทุนต่ำ และสามารถทำงานบนอุปกรณ์ปลายทางอย่างมือถือหรือแท็บเล็ตได้ทันที ยกตัวอย่าง Phi-4 ของ Microsoft ที่ใช้พารามิเตอร์แค่ 14B แต่สามารถเอาชนะโมเดลใหญ่ระดับ Gemini Pro ได้ในบางการทดสอบอีกด้วย

ภาพจากรายงาน SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence
ภาพจากรายงาน SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence

อีกด้านหนึ่ง โมเดลแบบ Multimodal หรือ AI ที่เข้าใจทั้งภาพ เสียง ข้อความพร้อมกัน ก็เริ่มถูกใช้งานจริง ยกตัวอย่างเช่น ผลงานที่ SCBX ใช้เทรนพนักงานขายผ่าน Smart RM Training ที่สร้างสถานการณ์สมจริงด้วยเสียงพูดแบบเรียลไทม์ หรือในภาคการแพทย์ก็เริ่มใช้ AI อ่านภาพ MRI ควบคู่กับการวิเคราะห์ข้อมูลข้อความ เพื่อช่วยแพทย์ตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น

  • ACT III: AI แบบ Agent – ไม่ใช่แค่รอคำสั่ง แต่เดินเรื่องเองได้

AI ในปี 2025 จะไม่ใช่แค่ “เครื่องมือที่รอให้มาใช้งาน” แต่จะกลายเป็น “ผู้ช่วยที่ลุกขึ้นมาทำงานแทนเรา” ผ่านแนวคิดที่เรียกว่า Agentic AI หรือ AI ที่มี “บทบาทเชิงรุก” ตั้งแต่คิด วิเคราะห์ ตัดสินใจ และลงมือทำ

ภาพจากรายงาน SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence
ภาพจากรายงาน SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence

สิ่งที่น่าสนใจคือ Agent เหล่านี้สามารถโต้ตอบแบบสองทางพร้อมกัน (Simultaneous Two-Way Communication) ไม่ต้องรอคนสั่งตลอดเวลา เช่น ระบบ AI ในบริการลูกค้าหรือแชทบอท สามารถฟังคำถาม วิเคราะห์สถานการณ์ แล้วตอบกลับได้แบบมืออาชีพทันที

โดยทาง SCBX ก็ได้เริ่มนำ Agent มาใช้งานจริง อย่างเช่น ใช้จำลองการเป็นลูกค้าผ่านการโต้ตอบด้วยเสียง โต้ตอบกับพนักงานได้เสมือนลูกค้า โดยไม่ต้องใช้คนฝึกจริง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนแต่เพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างชัดเจน

  • ACT IV: AGI ใกล้กว่าที่คิด – เมื่อ AI เริ่ม “คิดได้” แบบมนุษย์

เป้าหมายสูงสุดของวงการ AI ไม่ใช่แค่สร้างโมเดลที่ตอบคำถามได้ แต่คือการสร้าง “AI ที่คิด วิเคราะห์ และเข้าใจโลกเหมือนมนุษย์” หรือที่เรียกว่า AGI (Artificial General Intelligence)

ภาพจากรายงาน SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence
ภาพจากรายงาน SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence

แต่การจะไปถึงตรงนั้นยังคงเป็นที่ถกเถียง บางฝ่ายเชื่อว่า “ยิ่งใหญ่ ยิ่งดี” ให้เพิ่มพารามิเตอร์ สร้างโมเดลขนาดยักษ์ ส่วนอีกฝ่ายชี้ว่า ควรให้โมเดล “ใช้เวลาคิดนานขึ้น” (Test-time Compute) เพื่อให้เหตุผลได้แม่นยำมากขึ้น แทนที่จะหวังพึ่งความใหญ่เพียงอย่างเดียว

ปัญหาคือ ข้อมูลคุณภาพสูงกำลังจะหมดโลกในปี 2026 ต้นทุนการฝึกโมเดลก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งค่าไฟและฮาร์ดแวร์ จึงต้องมีการเปลี่ยนแนวคิดใหม่ เช่นการสร้างโมเดลเล็กที่ “คิดเป็น” โดยไม่จำเป็นต้อง “ตัวใหญ่” นั่นเอง

นอกจากนี้ ทาง SCBX ยังได้นำเสนอกรณีศึกษาการประยุกต์ใช้ AI ในหลากหลายภาคส่วน อาทิ:

  • Typhoon Thai LLM: โมเดลภาษาไทยที่ถูกนำไปใช้ในหลายภาคส่วน อย่างเช่น โรงพยาบาลศิริราช โดยศูนย์สารสนเทศและนวัตกรรมข้อมูลศิริราช (SiData+) ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการความรู้ภายในองค์กร ลดภาระงานของบุคลากร และยกระดับการดูแลผู้ป่วย ตลอดจนใช้ในการพัฒนาแชทบอทกฎหมาย เพื่อให้คำตอบที่แม่นยำและทันเวลาครอบคลุมกฎหมายไทย 35 ด้าน และความร่วมมือกับ TDRI ในการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดแรงงานและทักษะที่กำลังเป็นที่ต้องการ เพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบายและการพัฒนาแรงงาน
  • AI Voice Trainer: เสริมศักยภาพทีมขายประกันด้วยการฝึกอบรมแบบส่วนตัวจาก AI ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  • แพลตฟอร์มที่ปรึกษาทางการเงินด้วย Agentic AI: ช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถให้คำแนะนำที่ปรับเปลี่ยนตามสภาวะตลาดได้แบบเรียลไทม์

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลด SCBX AI Outlook 2025 ฉบับเต็มได้ที่เว็บไซต์ https://www.scbx.com/th/scbx-exclusive/ai-outlook-2025/ 

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ