เปลี่ยนสัญญาณไฟอัตโนมือกว่า 500 แยกเป็นอัตโนมัติ กทม. เร่งติดตั้ง “Adaptive Control” คุมไฟจราจร

Tech & Innovation

Digital Transformation

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เปลี่ยนสัญญาณไฟอัตโนมือกว่า 500 แยกเป็นอัตโนมัติ กทม. เร่งติดตั้ง “Adaptive Control” คุมไฟจราจร

Date Time: 7 พ.ค. 2568 10:24 น.

Video

เกิดอะไรขึ้นกับ Clubhouse เคยมีทั้งเงินทุน ทั้งกระแส แต่ทำไมไปไม่ถึงไหน ? | Digital Frontiers EP.37

Summary

  • กทม. เร่งเปลี่ยนระบบสัญญาณไฟจราจรอัตโนมือในกรุงเทพฯ กว่า 500 แยก เป็นอัตโนมัติ ดึงเทคโนโลยี “Adaptive Control” ปรับสัญญาณไฟตามปริมาณการจราจร คำนวณปริมาณรถและคำนวณว่าจะปล่อยรถอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นำร่อง 72 แยก ตามแนวถนนสุขุมวิท แนวถนนเพชรบุรี แนวถนนพระรามสี่ แนวถนนพหลโยธิน และบริเวณย่านสีลม โดยมีแผนจะติดตั้งเพิ่มอีก 200 แยก ในปีหน้า

วานนี้ (5 พ.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง ลงพื้นที่บริเวณถนนสุขุมวิท 101/1 ส่องระบบสัญญาณไฟจราจรอัตโนมัติ “Adaptive Control” ปรับสัญญาณไฟตามปริมาณการจราจร

นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันสัญญาณไฟจราจรในกรุงเทพมหานครมีประมาณ 500 แยก ซึ่งเป็นระบบอัตโนมือ คือ ให้ตำรวจเป็นคนกดสัญญาณไฟตามสภาพการจราจรที่เห็น หรือตั้งเวลาไว้อย่างไรก็ตามเมื่อสัญญาณไฟเป็นสีแดงแล้วมีการนับถอยหลัง จะเป็นแบบตั้งเวลาไว้ ไม่ได้ปรับตามสภาพการจราจร ซึ่งแบบนี้บางครั้งรถโล่งแต่ยังเป็นไฟเขียวอยู่ แต่ฝั่งที่เป็นไฟแดงรถติดยาว หรือหากเป็นตำรวจกดเองก็อาจไม่เห็นสภาพการจราจรทั้งหมด

โดยกล่าวต่อว่าตอนนี้จึงมีการติดตั้งระบบ “Adaptive Control” โดยเป็นการใช้กล้องวัดปริมาณจราจร และใช้คอมพิวเตอร์คำนวณว่าจะปล่อยรถอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งขณะนี้ติดตั้งไปแล้ว 72 แยก ตามแนวถนนสุขุมวิท แนวถนนเพชรบุรี แนวถนนพระรามสี่ แนวถนนพหลโยธิน และบริเวณย่านสีลม โดยมีแผนจะติดตั้งเพิ่มอีก 200 แยก ในปีหน้า

ทั้งนี้ จากการนำร่องทดลองใช้ระบบ Adaptive Control พบว่า ในช่วงที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วนการจราจรดีขึ้นประมาณ 15% ส่วนในชั่วโมงเร่งด่วนอยู่ระหว่างเก็บข้อมูลกับทางตำรวจ อาจมีบางแยกที่รถติดหนักมากก็ต้องใช้ตำรวจมากดสัญญาณไฟ ซึ่งต้องดูความเหมาะสมประสานทั้ง 2 ระบบควบคู่กัน

“การปรับสัญญาณไฟตามปริมาณรถ บางครั้งเราบอกล่วงหน้าไม่ได้เพราะเราไม่รู้ว่ารถจะหมดเมื่อไหร่ อาจจะเห็นแค่ 5 วินาทีสุดท้ายแต่ไม่เห็นทั้งช่วง แต่สิ่งสำคัญคือระเบียบวินัยจราจร เทคโนโลยีอะไรฉลาดแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้ถ้าคนไม่ปฏิบัติตามกฎ ไม่มีวินัยจราจร” ชัชชาติ กล่าว

อ้างอิงข้อมูล กทม.

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ