
จากกระแสที่ประชาชนจำนวนมากแห่ไปสแกนม่านตาเพื่อแลกรับเหรียญดิจิทัล "Worldcoin" (WLD) ล่าสุด กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ ได้เปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่
บุกเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 109 จุดทั่วประเทศ เพื่อทลายเครือข่าย "ดีลเลอร์" ที่รับแลกเปลี่ยนเหรียญดังกล่าวเป็นเงินสดโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากพบว่ามีการเปิดจุดรับแลกอย่างแพร่หลาย อันเป็นความผิดตามกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีการซื้อขายโดยไม่ได้การรับรองจาก ก.ล.ต.
นอกจากนี้ ยังแสดงความเป็นห่วงต่อประชาชน โดยระบุว่าข้อมูลม่านตานั้น ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่ง การที่ประชาชนเข้าไปใช้บริการสแกนม่านตาเพื่อแลกรับเหรียญนั้น จึงเท่ากับเป็นการมอบการครอบครองข้อมูลสำคัญส่วนบุคคลนี้ให้แก่ผู้อื่น ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาว่าผิดกฎหมายละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่
พล.ต.ต. วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากไปสแกนม่านตาเพื่อรับโทเคนราว 50 WLD ต่อคน แล้วนำไปแลกเป็นเงินสดกับกลุ่มผู้รับซื้อในราคาตั้งแต่ 30 บาท ถึงสูงสุด 64 บาทต่อเหรียญ ตำรวจไซเบอร์จึงได้ดำเนินการจับกุม “ผู้ที่รับซื้อหรือเสนอขายเหรียญ” ที่ไม่มีใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต.
พฤติกรรมนี้ถือว่ามีความผิดตาม พรก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 มาตรา 66 มีระวางโทษจำคุก 2-5 ปี และปรับ 2-5 แสนบาท พร้อมค่าปรับรายวันอีกไม่เกินวันละ 1 หมื่นบาทหากยังฝ่าฝืน ปัจจุบันมีทั้งการจับกุมผู้กระทำผิดและอยู่ระหว่างการดำเนินการอีกหลายราย
พล.ต.ต. วิวัฒน์ ยังอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Worldcoin ว่าปี 2568-2569 มีการคาดการณ์ว่า AI อาจมีบทบาทเทียบเท่ามนุษย์จนแยกไม่ออก ตัว Worldcoin จึงสร้างขึ้นเพื่อใช้ยืนยันตัวตน แยกระหว่างมนุษย์กับปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยปรับใช้การสแกนม่านตามาระบุตัวตน แม้ว่าการสแกนม่านตาเปรียบเสมือน DNA ที่ไม่ซ้ำกัน แต่มีความกังวลว่าหาก AI พัฒนาถึงขีดสุดและได้ข้อมูลม่านตาไป อาจสามารถจำลองเป็นตัวตนของบุคคลนั้นได้แม้ว่าข้อมูล IRIS code ที่จัดเก็บในเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ จะไม่สามารถย้อนกลับเป็นภาพม่านตาได้ แต่ก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะรั่วไหลหรือไม่
ส่วนประเด็นการสแกนม่านตาของประชาชนนั้น สามารถทำได้หรือไม่ ขณะที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าขัดต่อกฎหมาย PDPA หรือไม่ แต่มองว่าข้อมูลม่านตานั้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับประชาชนในโลกแห่งอนาคต และที่สำคัญคือ "ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้" การที่ประชาชนเข้าไปใช้บริการสแกนม่านตาเพื่อแลกรับเหรียญนั้น จึงเท่ากับเป็นการมอบการครอบครองข้อมูลสำคัญส่วนบุคคลนี้ให้แก่ผู้อื่นไปแล้ว
ด้าน จอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวเสริมว่า ก.ล.ต. มีหน้าที่กำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาต และได้ติดตามตรวจสอบพบว่ามีบุคคลที่รับแลกเหรียญ Worldcoin เป็นการค้าปกตินอกศูนย์ซื้อขาย ซึ่งถือเป็นการกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต
การร่วมมือกับตำรวจไซเบอร์ครั้งนี้จะช่วยให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพและเป็นการป้องปรามการกระทำผิด พร้อมเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการทำธุรกิจกับผู้ไม่มีใบอนุญาต ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง ไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย และอาจพัวพันกับการฟอกเงิน โดยประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับใบอนุญาตหรือแจ้งเบาะแสได้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. หรือโทรสายด่วน 1207 กด 22
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้