
บิตคอยน์ (Bitcoin) ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งเมื่อคืนนี้ (วันที่ 5 ตุลาคม) หลังได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นของสินทรัพย์อื่น อย่างเช่น ทองคำ ดัชนีหุ้น AI ทั่วโลก บวกกับบรรยากาศการลงทุนที่ได้รับอิทธิพลจากภาวะชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ และกระแสเชิงบวกในช่วง “Uptober” หรือชื่อเล่นของเดือนตุลาคมที่นักลงทุนคริปโตฯ มักเชื่อว่าเป็นเดือนแห่งการขึ้นราคา
จากข้อมูลบน CoinMarketCap พบว่า บิตคอยน์ได้ทำมูลค่าสูงสุดใหม่ที่ 125,559.21 ดอลลาร์สหรัฐ ทะลุสถิติเดิมที่เคยทำไว้เมื่อ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยแรงหนุนหลักมาจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่กำลังฟื้นตัว และ กระแสเงินที่ไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF อย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนยังคาดการณ์อีกว่า หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ทำการชัตดาวน์ไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Assets) เนื่องจากความไม่มั่นคงทางการคลังของสหรัฐฯ ทำให้เกิดสิ่งที่นักลงทุนบางกลุ่มเรียกว่า “Debasement Trade” หรือการที่นักลงทุนหันไปแสวงหาทรัพย์สินเพื่อป้องกันค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
ซึ่งปัจจัยที่หนุนราคา คือ “Uptober” คำที่นักเทรดคริปโตฯ ใช้เรียกเดือนตุลาคม เพราะในอดีตบิตคอยน์มักทำผลงานได้ดีในเดือนนี้ถึง 9 ครั้งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ความเชื่อเรื่อง Uptober ยิ่งกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ตามรายงานของ Bloomberg ทาง Joshua Lim หัวหน้าฝ่ายตลาดของบริษัทนายหน้าคริปโตฯ FalconX ระบุว่า “เมื่อสินทรัพย์หลายประเภท ทั้งหุ้น ทองคำ และแม้แต่ของสะสมอย่างการ์ดโปเกมอน ต่างก็ทำสถิติสูงสุดใหม่ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่บิตคอยน์จะได้อานิสงส์จากแนวคิดเรื่องดอลลาร์กำลังอ่อนค่า”
ราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้บิตคอยน์ปรับขึ้นมาแล้ว 30% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ที่ออกนโยบายสนับสนุนตลาดคริปโตฯ มาต่อเนื่องเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากบริษัทมหาชน (Public Companies) ที่ได้เลือกบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ในงบดุล หรือที่เรียกว่า “Bitcoin Treasury Strategy” จนแนวทางนี้ได้แผ่ขยายไปถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น อย่างเช่น Ether ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังได้รับอิทธิพลจากความร้อนแรงในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะจากหุ้น AI ที่ทำให้ดัชนีหุ้นปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่อีกครั้ง บวกกับแรงหนุนของราคาทองคำที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลก ท่ามกลางแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่ลดลงและความกังวลเงินเฟ้อที่ยังไม่จางหาย
Geoff Kendrick หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของธนาคาร Standard Chartered กล่าวว่า “ภาวะชัตดาวน์ในครั้งนี้มีผลกระทบจริง” และยังมีคาดการณ์ด้วยว่า ในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ปิดทำการนี้ บิตคอยน์จะยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง พร้อมเสริมว่า “บิตคอยน์ในตอนนี้อยู่ในสถานะที่ต่างจากเดิม เมื่อเทียบกับช่วงชัตดาวน์ระหว่างปี 2018-2019 ซึ่งในเวลานั้นความเคลื่อนไหวของบิตคอยน์ยังไม่ได้สอดคล้องกับสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดหลักเหมือนเช่นปัจจุบัน”
ที่มา: Bloomberg
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney