
Eric Trump ลูกชายคนที่ 2 ของประธานาธิบดี Donald Trump ของสหรัฐอเมริกา ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีไปหมาด ๆ หลังเอาบริษัท American Bitcoin Corp. บริษัทขุดบิตคอยน์ที่ตัวเองเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเข้าตลาด Nasdaq เป็นวันแรก และเปิดให้ซื้อขายครั้งแรกเมื่อเช้าวันพุธที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา
โดยมูลค่าของหุ้น ABTC เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในการเปิดตัวซื้อขายในตลาด จนทำให้มูลค่าหุ้นตามสัดส่วนที่ Eric Trump ถืออยู่พุ่งขึ้นไปแตะที่มูลค่า 950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ จุดสูงสุด
จากรายงานของ Forbes ชี้ว่า Eric Trump ที่ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของบริษัท (Chief Strategy Officer) ถือครองหุ้นอยู่ที่ราว 73 ล้านหุ้น โดยอ้างอิงจากเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC)
หุ้นของ American Bitcoin พุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ 14.52 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นในวันแรกที่เข้าซื้อขายในตลาด Nasdaq ก่อนจะย่อตัวลงมาปิดที่ 8.04 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นราว 16.5% ณ สิ้นวัน
และในช่วงที่ราคาหุ้นกำลังพุ่งขึ้นนั้น ทาง Eric Trump ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน X ส่วนตัวว่า “ช่างเป็นเช้าที่ดีจริง ๆ !!” พร้อมกับใส่อีโมจิรูปไฟสองอัน
Asher Genoot ประธานกรรมการบริหารของ American Bitcoin กล่าวในการให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทมี Eric Trump และ Donald Trump Jr. ลูกชายอีกคนของประธานาธิบดี Donald Trump เป็นเจ้าของอยู่ประมาณ 20%
จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้มูลค่าหุ้นที่ทั้งสองถืออยู่ ณ ราคาปิดตลาด รวมกันอยู่ที่ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคำนวณจากจำนวนหุ้นทั้งหมด 908.6 ล้านหุ้นที่ American Bitcoin แจ้งในเอกสารที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 2 กันยายน
ธุรกิจของ American Bitcoin มุ่งเน้นไปที่การขุดและเก็บสะสมคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ขนาดมหึมาในการแก้ปัญหาเพื่อปลดล็อกบิตคอยน์
โดยบริษัทมีโรงงานในทั้งในรัฐเท็กซัส อัลเบอร์ตา และไนแอการาฟอลส์ นิวยอร์ก ซึ่งเป็นพื้นที่พลังงานมีราคาถูก และยังได้จัดซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์มากกว่า 16,000 เครื่องในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ตามข้อมูล ณ วันที่ 1 กันยายน 2025 บริษัทมีการถือครองบิตคอยน์อยู่ที่จำนวน 2,443 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ ราคาปัจจุบัน แต่พบว่า บิตคอยน์เกือบทั้งหมดของ American Bitcoin จำนวน 2,234 BTC ถูกใช้เป็นหลักประกันกับบริษัทที่จัดหาคอมพิวเตอร์ให้
อย่างไรก็ตาม American Bitcoin ที่มีรายงานว่าปัจจุบันมีพนักงานประจำเพียง 2 คนเท่านั้น กลับมีมูลค่าบริษัทตามการประเมินอยู่ที่ประมาณ 7,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
ในช่วงที่ผ่านมา สองพี่น้องลูกชายตระกูล Trump ได้ทำข้อตกลงทางธุรกิจหลายอย่าง แถมยังผลักดันให้ Donald Trump เข้าสู่โลกคริปโตฯ ทั้งการเปิดตัวเหรียญมีมของประธานาธิบดีและภริยาไปในช่วงพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง อีกทั้งยังเปิดตัว World Liberty Financial Inc. เมื่อต้นปีที่แล้ว ซึ่งร่วมก่อตั้งโดย Eric และ Donald Trump Jr. และก็ยังมีชื่อของประธานาธิบดีเป็น “ผู้ร่วมก่อตั้งกิตติมศักดิ์” อีกด้วย
สำหรับ World Liberty Financial Inc. เป็นบริษัทการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ที่ออกโทเคน WLFI ซึ่งก่อนการเปิดตัวเหรียญไม่นาน บริษัทได้ประกาศว่าจะมีโทเคนหมุนเวียนในระบบที่ราว 25,000 ล้านเหรียญ โดยอุปทานทั้งหมดราว 100,000 ล้านเหรียญ
แต่ทั้งนี้ โทเคนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถซื้อขายได้ และจำนวนมากถูกถือครองโดยบุคคลภายใน จากข้อมูลบนเว็บไซต์ของโครงการระบุว่า ครอบครัวทรัมป์เป็นผู้ควบคุมเหรียญ WLFI มากกว่า 20,000 ล้านโทเคนทั้งทางตรงและทางอ้อม
และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา World Liberty Financial ยังได้เปิดตัว “USD1” เหรียญ Stablecoin ที่อ้างอิงมูลค่ากับดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ด้านประธานาธิบดี Donald Trump เองก็ยังได้ลงนามในกฎหมายใหม่เมื่อเดือนกรกฎาคม เพื่อกำหนดกรอบการกำกับดูแลสำหรับ Stablecoin ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากอุตสาหกรรมอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การที่ครอบครัว Trump เข้ามาลงทุนในคริปโตฯ ก็ได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จาก ส.ส. พรรคเดโมแครตและกลุ่มเฝ้าระวังด้านจริยธรรมของรัฐบาลเกี่ยวกับประเด็นผลประโยชน์
ด้านนักวิจารณ์มองว่า ครอบครัว Trump กำลังเร่งทำกำไรจากคริปโตฯ ในขณะที่ประธานาธิบดีกำลังผ่อนคลายกฎระเบียบและการบังคับใช้กฎหมายต่ออุตสาหกรรมนี้
แต่ด้าน Eric Trump ลูกชายของประธานาธิบดี กลับออกมาปัดคำวิจารณ์ถึงความเกี่ยวข้องของ Donald Trump ในธุรกิจ American Bitcoin ที่เพิ่งเข้าตลาด โดยกล่าวว่า “มันบ้าไปแล้ว พ่อของผมไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้อย่างสิ้นเชิง ท่านกำลังบริหารประเทศ ท่านไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม”
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney