
ตลาดคริปโตฯ กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเช้าวันศุกร์ (11 ก.ค.) มีการเคลื่อนไหวอย่างแข็งแกร่ง Bitcoin ได้ทำสถิติราคาสูงสุดใหม่พุ่งแตะระดับ 116,000 ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อ สถิติเดิมทำไว้ที่ระดับ 111,970.17 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา
การปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งนี้เกิดจากปัจจัยสำคัญหลายประการ ได้แก่ การปรับ Risk-on Sentiment ของนักลงทุน ที่เริ่มหันกลับมาเสี่ยงภัยมากขึ้น หลังจากที่ตลาดหุ้นเทคโนโลยีในอเมริกาทำสถิติสูงสุดใหม่ ความมั่นใจของนักลงทุนกระจายไปสู่ตลาดคริปโต ทำให้เงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้มีการปิดพอร์ต Short Position ขนาดใหญ่ โดยข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่า มีการ Liquidate ตำแหน่ง Short มูลค่า 318 ล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมง ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึง Margin Call ที่เกิดขึ้นเมื่อราคาพุ่งขึ้นเหนือระดับที่นักเทรดคาดการณ์ การซื้อกลับเพื่อปิดพอร์ต Short ส่งผลให้เกิด Short Squeeze ที่ผลักดันราคาขึ้นไปอีก กล่าวคือ เมื่อราคาบิทคอยน์พุ่งสูงขึ้น นักเทรดที่เดิมพันว่าราคาจะลงต้องรีบซื้อบิทคอยน์กลับมาเพื่อปิดพอร์ต การกระทำนี้ยิ่งผลักดันให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก
ขณะที่ตลาด Altcoin ซึ่งมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ Bitcoin ได้รับประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นครั้งนี้ โดย Ethereum Solana Dogecoin รวมถึง Cardano ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามเช่นกัน แสดงให้เห็นถึง Risk-on Appetite ที่กระจายไปทั่วตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
ส่วนในตลาดหุ้น หุ้นกลุ่มคริปโตได้รับแรงหนุนเช่นกัน โดยหุ้นบริษัทขุดบิทคอยน์ Mara Holdings และ Riot Platforms ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2% ขณะที่แพลตฟอร์มเทรดคริปโต Coinbase และ Robinhood เพิ่มขึ้น 4% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอุตสาหกรรมคริปโตฯ
การเติบโตของ Bitcoin ในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่:
การไหลเข้าของกองทุน Bitcoin ETF มีเงินทุนไหลเข้าหลายพันล้านดอลลาร์ ช่วยให้ราคาอยู่เหนือระดับ 100,000 ดอลลาร์มาเป็นเวลากว่า 60 วันติดต่อกัน แสดงถึงการยอมรับจากนักลงทุนสถาบัน
การซื้อสะสมของบริษัทเอกชน ในไตรมาส 2 บริษัทเอกชนมีปริมาณซื้อบิทคอยน์เกินกว่าการไหลเข้าของ ETF สะท้อนถึงการยอมรับบิทคอยน์เป็น Treasury Asset
ความคืบหน้าด้านกฎระเบียบ สภาคองเกรสสหรัฐฯ มีความคืบหน้าในการออกกฎหมายเกี่ยวกับ Stablecoin ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสินทรัพย์ดิจิทัล
อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของ Bitcoin ครั้งนี้เริ่มต้นเมื่อวันพุธ ขณะที่ตลาดหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดใหม่ แสดงถึงการกลับมาของ Risk-on Sentiment ในตลาดการเงินโดยรวม
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ด้วยการสนับสนุนจากการซื้อขนาดใหญ่ของสถาบันการเงิน และแนวโน้มเชิงบวกด้านกฎระเบียบ บิทคอยน์มีแนวโน้มที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกในช่วงครึ่งหลังของปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และนโยบายการเงินยังคงเอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยง
อ้างอิง TradingView , CNBC