ไม่ได้แค่ขาย หมู ไข่ ไก่ แต่ใส่ใจความยั่งยืน เบทาโกรตั้งเป้าแพ็คเกจ Eco-Friendly 100% ในปี 73

เบทาโกร (Betagro) บริษัทผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเกษตรอุตสาหกรรมครบวงจร สานต่อพันธกิจด้านความยั่งยืนผ่านกิจกรรม Betagro Saijai Cooking Academy ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2

โดยในครั้งนี้มีเชฟแตง ปิยภาณี โฉมงาม ร่วมสร้างสรรค์เมนูผ่านวัตถุดิบหลักอย่าง อกไก่จากเอสเพียว (S-Pure) ปรุงร่วมกับวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยนานาชนิด หวังยกระดับอาหารไทยในฐานะซอฟต์พาวเวอร์ พร้อมกับการสร้างระบบนิเวศทางอาหารที่มีความยั่งยืน

เบทาโกรได้ริเริ่มดำเนินงานด้านความยั่งยืน ผ่านสโลแกน “Betagro Saijai” มาตั้งแต่ปี 2566 ผ่านโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น โครงการ Betagro Saijai Protect Forest Community ที่มีเป้าหมายแก้ไขปัญหามลพิษ PM 2.5 และการเผาป่า โดยบริษัทได้บริจาคอุปกรณ์ป้องกันไฟป่ามูลค่ากว่า 5.6 ล้านบาท สนับสนุนป่าชุมชน 10 แห่งทั่วประเทศ

เมื่อในปี 2567 เบทาโกรได้บรรลุความสำเร็จครั้งสำคัญในการได้รับการจัดอันดับ SET ESG Ratings 2024 ในระดับสูงสุดคือ AAA ในปีแรกที่เข้ารับการประเมิน และเป็นหนึ่งใน 56 บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับอันดับสูงสุดนี้ รวมถึงได้รับการยกระดับสถานะเป็น CAC Change Agent ระดับ 3 ดาว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในการเข้าร่วมโครงการต่อต้านคอร์รัปชัน (Thailand Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption)

และการจัดตั้ง Betagro Ventures (BV) หน่วยงานที่ดำเนินการด้านกลยุทธ์ของเบทาโกร ที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่ออาหารที่ยั่งยืน ผ่าน 3 บทบาท ได้แก่ 

• Venture Capital : การลงทุนในกองทุนและบริษัทเทคโนโลยีภายนอก

• Venture Incubation : การบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพภายในองค์กร เช่น Wing Man และ FOODIUM

• Venture Growth : การพัฒนาธุรกิจที่มีศักยภาพ เช่น แพลตฟอร์มบริหารจัดการฟาร์มอัจฉริยะ FARMSK 

อย่างไรก็ตาม เบทาโกรได้วางเป้าหมายด้านความยั่งยืนตามกรอบการดำเนินการ ESG ภายในระยะเวลา 2573 - 2613 ดังนี้

• ลดการใช้ยาปฏิชีวนะลง 50% ภายในปี 2613

• บรรลุการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly Packaging) 100% ภายในปี 2573

• ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มากกว่า 20% ในปี 2573

โดยทางเบทาโกรให้ความเห็นว่า การดำเนินงานด้านความยั่งยืนถือเป็นหมุดหมายสำคัญของทุกธุรกิจที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงร่วมกัน และมีความสำคัญอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมอาหารที่ต้องคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

อีกทั้ง เบทาโกรมีฐานลูกค้าและตลาดในต่างประเทศที่อาศัยเกณฑ์วัดระดับเรื่องความยั่งยืน โดยบริษัทได้ขยายธุรกิจแบบครบวงจรไปยังตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ กัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งแต่ละประเทศมีจุดเด่นด้านการดำเนินงานที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ความยั่งยืน 

• กัมพูชา : ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรเต็มรูปแบบ คือ โรงงานอาหารสัตว์ ฟาร์มปศุสัตว์ และโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญคือ ลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน การติดตั้ง Solar Rooftop และการใช้รถยกไฟฟ้า เพื่อลดการปล่อย CO2 ในโรงงาน 

• ลาว : มุ่งเน้นการผลิตและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์ การทำฟาร์มปศุสัตว์ และมีช่องทางค้าปลีกผ่าน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารในระดับภูมิภาค

• เมียนมา : มีการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในเมียนมา และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์ต่างๆ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในตลาดท้องถิ่น 

การดำเนินงานทั้งหมดนี้เพื่อตอกย้ำการลงมือปฏิบัติด้านความยั่งยืนของบริษัทในอุตสาหกรรมอาหารที่มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้โดยตรง และเบทาโกรเล็งเห็นความยั่งยืนเป็นรากฐานสำคัญในการเติบโตระยะยาวของบริษัท

ติดตามข่าวสารด้าน Sustainability ได้ที่นี่ https://www.thairath.co.th/money/sustainability       

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney