ซอฟต์พาวเวอร์เมืองระยอง

Sustainability

ESG Strategy

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ซอฟต์พาวเวอร์เมืองระยอง

Date Time: 14 มิ.ย. 2568 05:01 น.

Summary

กระบวนการฟื้นภูมิปัญญาผ้าตากะหมุก ไม่ใช่แค่การเปิดศูนย์เรียนรู้ แต่ได้ผ่านกระบวนการทำงานทั้งหมด 5 ด้าน คือ สืบสาน, รักษา, ต่อยอด, สร้างนวัตกรรม และสร้างการรับรู้ ส่งเสริมคุณค่าจากภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยบริษัทได้ร่วมสนับสนุนศูนย์อนุรักษ์ผ้าพื้นถิ่นระยอง ทั้งด้านการจัดแสดงนิทรรศการ พัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการสร้างรายได้ ให้กลุ่มทอผ้าท้องถิ่น

Latest

สร้างคนเพื่อธุรกิจยั่งยืน

คอลัมน์ Sustainable together ได้ร่วมคณะไปทัวร์จังหวัดระยองกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ผู้นำด้านวัสดุศาสตร์ระดับโลก ที่นอกจากเข้าไปลงทุนโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่แล้ว ยังได้มีการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่ยั่งยืน ที่ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากทุนก้อนใหญ่ หรือโครงการระดับชาติ

แต่เริ่มต้นได้จากทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในชุมชน เพราะเมื่อได้รับแรงสนับสนุนที่เหมาะสม ธุรกิจในชุมชนก็สามารถผลักดันให้กลายเป็นพลังทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน

น.ส.ภรณี กองอมรภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ องค์กรสัมพันธ์ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า บริษัทได้เข้าไปช่วยพัฒนาศูนย์อนุรักษ์ผ้าพื้นถิ่นระยอง หรือ “ผ้าตากะหมุก” ผ้าทอพื้นถิ่นที่เคยเกือบจะสาบสูญ ให้ถูกปลุกชีพขึ้นมาอีกครั้ง

ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้มองว่า “ระยอง” เป็นเพียงแค่ที่ตั้งโรงงาน แต่คือ “บ้าน” ที่ต้องเติบโตไปด้วยกัน เพื่อทำให้ระยองไม่ได้มีแค่ทะเล บ้านเพ หรือเกาะเสม็ด แต่ยังมีซอฟต์พาวเวอร์ ภูมิปัญญาผ้าทอพื้นถิ่นคือ “ผ้าตากะหมุก” ที่กลับสูญหายไปเกือบ 80 ปี จนกระทั่งคนรุ่นใหม่ ได้ค้นคว้าและรื้อฟื้นลวดลายผ้าโบราณนี้ขึ้นมาอีกครั้งจากผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน จนได้รับการประกาศให้เป็นลายผ้าประจำจังหวัดระยองอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2565

“กระบวนการฟื้นภูมิปัญญาผ้าตากะหมุก ไม่ใช่แค่การเปิดศูนย์เรียนรู้ แต่ได้ผ่านกระบวนการทำงานทั้งหมด 5 ด้าน คือ สืบสาน, รักษา, ต่อยอด, สร้างนวัตกรรม และสร้างการรับรู้ ส่งเสริมคุณค่าจากภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยบริษัทได้ร่วมสนับสนุนศูนย์อนุรักษ์ผ้าพื้นถิ่นระยอง ทั้งด้านการจัดแสดงนิทรรศการ พัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการสร้างรายได้ ให้กลุ่มทอผ้าท้องถิ่น พร้อมนำผ้าตากะหมุกมาเป็นของขวัญองค์กรสำหรับผู้บริหารและลูกค้า โดยคงลวดลายดั้งเดิม เพื่อสะท้อนรากเหง้าวัฒนธรรมท้องถิ่น”

สิ่งที่เกิดขึ้นกับผ้าตากะหมุกในวันนี้ คือ การเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมของซอฟต์พาวเวอร์ระดับชุมชน จากช่างทอผ้าไม่กี่คนในบ้านเพ ที่ปัจจุบันขยายการสร้างอาชีพไปยัง 6 กลุ่มผู้ประกอบการใน 4 อำเภอ คือ อำเภอเมืองระยอง, บ้านฉาง, ปลวกแดง และเขาชะเมา และมีการถ่ายทอดความรู้ให้ผู้พิการ นักเรียน และกลุ่มแม่บ้าน

“มีการต่อยอดไปสู่การออกแบบผ้าที่มีลวดลายของตนเอง และกางเกงซอฟต์พาวเวอร์ “ลายยองฮิ” ที่ต่อยอดจากกระแส “กางเกงช้าง” โดยหยิบเอาไฮไลต์ความเป็นระยองจากคำขวัญประจำจังหวัดมาไว้บนลายผ้าสุดเก๋ ตัดเย็บโดยคนในชุมชนที่เคยตกงานช่วงโควิด-19 เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความภาคภูมิใจไปพร้อมๆกัน”

บริษัทได้เข้าไปแนะนำนวัตกรรมในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารพิษให้กับคนในชุมชน ตั้งแต่กระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่ปลูกฝ้ายในท้องถิ่น ย้อมด้วยสีธรรมชาติจากต้นไม้ประจำถิ่นของระยอง ไปจนถึงการทอผ้าและตัดเย็บ กลายเป็นระบบเศรษฐกิจชุมชนที่เชื่อมโยงกับทุกคนในพื้นที่

ล่าสุด ผ้าตากะหมุกของระยองได้รับการยอมรับในระดับโลก เมื่อบริษัทได้ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย จัดแสดงนิทรรศการ Weaving Our Stories โดยมี “อแมนด้า พึ่งโพธิปักขิยะ” ศิลปินเชื้อสายไทย—อเมริกัน นำผ้าพื้นถิ่นระยองสร้าง สรรค์เป็นงานศิลปะร่วมสมัย และนำไปจัดแสดงถึงประเทศสหรัฐฯ เพื่อเฉลิมฉลอง 190 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ เมื่อปีที่ผ่านมา

นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการใช้ ซอฟต์พาวเวอร์ที่ไม่จำเป็นต้องดำเนินการ ผ่านโครงการขนาดใหญ่ เพียงแต่ต้องมีคนในพื้นที่ที่เชื่อในสิ่งที่ทำว่าทำได้จริง มีคุณภาพมาตรฐาน และภาคธุรกิจที่พร้อมให้การสนับสนุน.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ