เส้นทาง Zhong Shanshan ก่อนจะเป็นคนรวยที่สุดในจีน เป็นมาทุกอย่างแล้ว ทั้งคนงานก่อสร้าง ยันนักข่าว

Personal Finance

Wealth Management

Tag

เส้นทาง Zhong Shanshan ก่อนจะเป็นคนรวยที่สุดในจีน เป็นมาทุกอย่างแล้ว ทั้งคนงานก่อสร้าง ยันนักข่าว

Date Time: 15 พ.ย. 2568 18:51 น.

Video

เก็บเงินก็ยาก ลงทุนก็เสี่ยง คนไทยรอดจากความจนยาก? กับ ดร.บุรินทร์ อดุลวัฒนะ | Thairath Money Night Stand EP.17

Summary

จง สานสาน เกิดปี 1954 เติบโตในจีน ช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมต้องออกจากโรงเรียน ทำงานหลากหลายอาชีพ

  • ก่อตั้ง Yangshengtang ธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ ก่อนขยายสู่ Nongfu Spring น้ำดื่มธรรมชาติที่ประสบความสำเร็จ
  • Nongfu Spring เน้นการตลาดเรื่องความเป็นธรรมชาติ และมีชา Oriental Leaf ที่ประสบความสำเร็จ
  • Beijing Wantai Biological ธุรกิจวัคซีนและชุดตรวจโรค เป็นอีกหนึ่งเสาหลักความสำเร็จ
  • Wantai พัฒนาวัคซีน HPV และชุดตรวจโควิด-19 สร้างกำไรมหาศาล และเข้าตลาดหลักทรัพย์

Latest


จีน ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของโลก มหาอำนาจของโลกที่กำลังแข่งขันอย่างดุเดือดกับสหรัฐอเมริกาในทุก ๆ ด้านเพื่อขึ้นเป็นเบอร์ 1 โดยมีหนึ่งในนโยบายที่จีนเร่งผลักดันอย่างหนักก็คือด้านเทคโนโลยี การพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศเพื่อปากท้องของประชาชน และเพื่อให้แข่งขันได้

ความน่าสนใจคือ ภาพของสหรัฐอเมริกา เทคโนโลยีคือเครื่องมือที่ดันให้เศรษฐีกลายเป็นมหาเศรษฐี จะเห็นว่าบุคคลที่รวยลำดับแรก ๆ ของโลกมาจากโลกเทคทั้งสิ้น แต่ในทางกลับกัน ผู้ที่รวยที่สุดในจีนกลับไม่ได้มาจากธุรกิจเทค แต่เป็นชายเจ้าของธุรกิจที่สร้างมันขึ้นมาจากความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ นั่นคือ น้ำและสุขภาพ บุคคลที่ว่านั่นก็คือ “Zhong Shanshan” มหาเศรษฐีที่สามารถโค่น Jack Ma เจ้าพ่อเทคฯ ลงได้ และขึ้นมาเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศ

เส้นทางของ Zhong Shanshan เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบคนสำเร็จจากจีน ที่เริ่มต้นมาจากศูนย์จนถึงหมื่นล้าน จากเด็กที่ถูกบีบให้ออกจากโรงเรียน เพราะความขัดแย้งในประเทศ ล้มลุกคลุกคลานทำงานหลายอย่าง ตั้งแต่เป็นคนงานก่อสร้าง ก่อนจะกลับมาเรียนและเข้าสู่สายงานสื่อสารมวลชน เบนสายมาทำงานขาย ก่อนจะลงมือสร้างธุรกิจของตัวเองที่ตอนเริ่มก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในทันที

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่เจอมาหลายความท้าทาย ผ่านมาหลายบทบาท บทความนี้ Thairath Money คอลัมน์ How to Make Money จะพาไปเจาะลึกทำความรู้จักชายที่ชื่อว่า “Zhong Shanshan” เจ้าของ Nongfu Spring และ Beijing Wantai Biological สองขาธุรกิจที่สร้างความมั่งคั่งให้เขาได้มหาศาล ผ่านเส้นทางการใช้ชีวิตในช่วงวัยต่าง ๆ ที่บอกได้เลยว่าชีวิตที่ผ่านมาของเขาไม่ธรรมดาจริง ๆ 


วัยเด็กที่ยากลำบาก

ย้อนกลับไป Zhong Shanshan เกิดเมื่อปี 1954 และเติบโตขึ้นมาในเมืองหางโจว ประเทศจีน เป็นเด็กชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่บ้านไม่ได้มีฐานะร่ำรวย ไม่ได้เป็นหัวกะทิแถวหน้าแต่อย่างใด และเหมือนชีวิตจะไม่เคยราบรื่น เพราะในช่วงปี 1966-1976 ระหว่างที่เขากำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยม เป็นช่วงเดียวกันกับเหตุการณ์ปฏิวัติวัฒนธรรม พ่อแม่ของ Zhong Shanshan ที่ถูกมองว่าเป็น “ปัญญาชน” ถูกกดดันอย่างหนัก จึงต้องหลบลี้หนีภัย ทำให้เขาต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน และไม่ได้กลับเข้าระบบการศึกษาไปพักใหญ่

เส้นทางชีวิตในระหว่างที่ไม่ได้เรียนนั้นราว 10 ปี เขาต้องออกไปทำงานใช้แรงแทบทุกอย่างเพื่อประคองชีวิตและช่วยเหลือครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง งานก่ออิฐ ไปจนถึงงานช่างไม้ และหลังจากยุติปฏิวัติวัฒนธรรม เมื่อจีนกลับมาเปิดให้มีการสอบเข้าเรียนอีกครั้งในปี 1977 เขาก็พยายามสอบเข้าอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งตัดสินใจไปสมัครมหาวิทยาลัยวิทยุและโทรทัศน์เจ้อเจียง (Zhejiang Radio & TV University) หรือที่รู้จักในชื่อ Open University of China ในสาขาภาษาจีน

ในช่วงวัยเด็กจนถึงวันเรียนนี้ ชีวิตของ Zhong Shanshan ผ่านอะไรมามากมาย จนบางส่วนกลายเป็นแรงผลักดันและหล่อหลอมมาเป็นแนวทางการบริหารงานของเขาในปัจจุบันที่บางครั้ง “ลุย” ไปก่อน ไม่พึ่งประสบการณ์ในห้องเรียนเท่ากับประสบการณ์จากชีวิตจริง


ล้มเหลวมาหลายครั้ง

หลังเรียนจบในระดับมหาวิทยาลัยออกมา เขาก็เดินหน้าทำงานในสนามสื่อสารมวลชน เป็นผู้สื่อข่าวอยู่ที่หนังสือพิมพ์ Zhejiang Daily ตลอดระยะเวลา 5 ปีของการทำงานสายข่าว เขาได้ฝึกฝนเรื่องการสื่อสาร ค้นหาข้อมูล ตลอดจนศิลปะการเล่าเรื่องให้ทรงพลังและน่าเชื่อถือ การสร้าง Storytelling ที่ต่อมากลายเป็นกลยุทธ์หลักของธุรกิจ

กระทั่งช่วงปลายทศวรรษ 1980 เขาได้ตัดสินใจก้าวออกจากวงการสื่อ เพื่อหันมาทำงานกับธุรกิจอย่างจริงจัง เขาผันตัวมาเป็นเซลล์ขายเครื่องดื่ม ให้กับบริษัทเครื่องดื่มชื่อดัง Wahaha ของ Zong Qinghou ผู้ประกอบการระดับตำนานที่มาจากหางโจวเช่นเดียวกับเขา และต่อมาบริษัทนี้เองก็กลายมาเป็นคู่แข่งสำคัญของ Nongfu Spring ในอนาคต

ที่ Wahaha ได้กลายเป็นสนามประลองไหวพริบและทักษะด้านธุรกิจของเขาอย่างจริงจัง เพราะไม่ใช่แค่การขายเพื่อแค่ให้ได้ยอด แต่เป็นการเก็บเกี่ยวความรู้ทุกด้านของการทำธุรกิจเครื่องดื่ม ตั้งแต่โครงสร้างเครือข่ายการกระจายสินค้า ความท้าทายของงานขาย พฤติกรรมผู้บริโภค ไปจนถึงการมองเห็นจุดอ่อนของสินค้าของผู้นำตลาด

เมื่อเข้าสู่ปี 1988 ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในจีน ประเทศกำลังฟื้นฟูเข้าสู่ช่วงรุ่งเรืองอีกครั้ง Zhong Shanshan ที่มองเห็นโอกาสเลยตัดสินใจลาออกจากงานขาย เดินหน้าสู่ไห่หนาน ที่ตอนนั้นเพิ่งถูกประกาศให้เป็นมณฑลและพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อไปทำธุรกิจของตัวเอง

เขาลงมือปั้นธุรกิจอยู่หลายอย่าง ตั้งแต่ขายเห็ด ขายกุ้ง ไปจนถึงขายเต่า แต่ก็ล้มไม่เป็นท่า จนทำให้เขาได้เรียนบทเรียนราคาแพงเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานและความเสี่ยงของสินค้าที่เน่าเสียง่าย เขายังเคยเปิดหนังสือพิมพ์ชื่อ Pacific Post แต่ก็ต้องปิดตัวลงในที่สุด

จนในที่สุดความสำเร็จแรกก็มาถึงในปี 1993 เขาก่อตั้งบริษัทชื่อว่า “Yangshengtang” เน้นไปที่ผลิตภัณฑ์สุขภาพและอาหารเสริม ตามความหมายของชื่อบริษัทที่แปลว่า “หอแห่งการบำรุงชีวิต” ตามปรัชญาที่เขาต้องการจะสร้างธุรกิจที่จะดูแลสุขภาพของผู้คนได้

ธุรกิจนี้จึงกลายเป็นเสาหลักสำคัญ ให้ต่อมาเกิดมาเป็น “Nongfu Spring” ในปี 1996 ธุรกิจน้ำดื่มเพื่อสุขภาพที่คนสามารถเข้าถึงได้ทุกวัน และเข้าซื้อ “Beijing Wantai Biological” ในปี 2001 เป็นธุรกิจการแพทย์ที่จะดูแลสุขภาพในเชิงลึก


เสาหลักที่ 1 – Nongfu Spring

ปี 1996 ที่ Zhong Shanshan เดินทางกลับมาบ้านตัวเองที่หางโจวอีกครั้ง พร้อมกับต่อยอดธุรกิจออกไป ก่อตั้งและจดทะเบียนบริษัทน้ำดื่มชื่อ “Zhejiang Thousand-Island Lake Yangshengtang Drinking Water” ขึ้นมา แต่ชื่อยาวเกินไป ภายหลังเลยเปลี่ยนมาเป็น “Nongfu Spring” ที่รู้จักกันทุกวันนี้

ในช่วงนั้นตลาดน้ำดื่มถูกครอบครองโดย Wahaha ที่ผลิตน้ำขายที่เรียกว่า “น้ำบริสุทธิ์” ซึ่งก็คือน้ำที่กลั่นออกมาจากแหล่งน้ำประปา แต่ฝั่งของ Nongfu Spring เริ่มตีตลาดด้วยการกลั่นน้ำธรรมชาติจากทะเลสาบพันเกาะ (Qiandao Lake)

จุดเปลี่ยนสำคัญของทั้งตลาด คือ ตอนที่ Nongfu Spring ประกาศกร้าวว่า บริษัทจะเลิกกำจัดแร่ธาตุธรรมชาติออกจากน้ำ ก็คือจะคงรักษาแร่ธาตุจากน้ำที่มาจากแหล่งธรรมชาติไว้ เพราะดีต่อสุขภาพกว่า ในขณะที่น้ำกลั่นนั้นไม่ดีต่อร่างกาย ไอเดียนี้โดนใจผู้บริโภคจีนยุคนั้นที่เริ่มกังวลเรื่องความปลอดภัยอาหารและคุณภาพน้ำ ทำให้ Nongfu Spring กลายเป็นตัวเลือกที่ใช่กว่าทันที 

สโลแกนในยุคแรก ๆ ของ Nongfu Spring จะเน้นไปที่การขายความเป็นธรรมชาติ ความสดใหม่ โดยมีวลีติดหูอย่าง “เรามิได้ผลิตน้ำ เราเป็นเพียงคนขนส่งของธรรมชาติ” (我们不生产水,我们只是大自然的搬运工) สิ่งนี้ทำให้บริษัทดูเป็นผู้รับใช้ธรรมชาติมากกว่าเป็นแค่โรงงานน้ำยักษ์ใหญ่ เป็นผู้ทำหน้าที่ขนส่งน้ำบริสุทธิ์จากแหล่งกำเนิดไปถึงมือผู้ดื่ม จนสร้างความเชื่อใจและความผูกพันกับผู้บริโภคมหาศาล 

ต่อมาเขาเร่งไปขอสิทธิในการสำรวจและใช้แหล่งน้ำคุณภาพสูงทั่วประเทศถึง 12 แห่ง เช่น ทะเลสาบพันเกาะ ทะเลสาบว่านลวี่ และภูเขาฉางไป่ โดยกลยุทธ์นี้มีสองเป้าหมาย ก็คือ ทำให้คำว่า “น้ำธรรมชาติ” มีหลักฐานจริง ไม่ใช่แค่คำโฆษณา และลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์ภายนอก จนฝ่ายนั้นหมดอำนาจต่อรอง

Nongfu Spring ขยายอาณาจักรผ่านการแตกไลน์สินค้าออกไปหลายรูปแบบ ทั้งน้ำผลไม้ เครื่องดื่มวิตามิน ชา กาแฟ ซึ่งหนึ่งในความสำเร็จสำคัญ คือ ชาไร้น้ำตาลแบรนด์ Oriental Leaf ที่คิดค้นมาตั้งแต่ปี 2011 แต่ช่วงนั้นคนจีนยังคงติดหวานจากแบรนด์ดั้งเดิม ทำให้แบรนด์นี้ขาดทุนมานาน กระทั่งปี 2023 ความไม่หวานเลยของชายี่ห้อนี้ก็ครองใจคนจีนได้สำเร็จ เนื่องจากคนหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้บริษัทมีรายได้จากเครื่องดื่มชาที่นำโดย Oriental Leaf ของ Nongfu Spring พุ่ง 83.3% แตะกว่า 12,600 ล้านหยวน


เสาหลักที่ 2 – Beijing Wantai Biological

แม้ Nongfu Spring จะเป็นหน้าเป็นตาของอาณาจักร แต่ความสำเร็จของ Zhong Shanshan ไม่ได้ยืนอยู่บนเสาเดียว เสาที่สองที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “Beijing Wantai Biological Pharmacy Enterprise” บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านวัคซีนและชุดทดสอบโรคก่อตั้งตั้งแต่ปี 1991

ต่อมาในปี 2001 เขาได้ใช้บริษัทแม่ Yangshengtang เข้าไปซื้อหุ้นส่วนใหญ่ กระทั่งปี 2020 เขาถือหุ้นมากถึง 75% โดยธุรกิจนี้เป็นการต่อยอดโดยตรงจากแนวคิดของบริษัทเดิม Yangshengtang ที่เชื่อในปรัชญา “การดูแลชีวิต” และยังสามารถทำกำไรได้สูง เติบโตแรง ผ่านการขับเคลื่อนด้วย R&D

ธุรกิจของ Wantai แบ่งออกเป็นสองสายหลัก คือ ชุดตรวจวินิจฉัย (IVD) และวัคซีน และยังร่วมพัฒนากับพันธมิตรวิจัยระดับประเทศ อย่างเช่น Xiamen University จนออกมาเป็นพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูง และมีมูลค่าสูง

ความสำเร็จที่สำคัญของ Wantai คือ วัคซีน HPV แบบไบวาเลนต์ ที่สามารถป้องกันได้ 2 สายพันธุ์ ได้รับอนุมัติเป็นวัคซีน HPV ที่ผลิตในจีนตัวแรกที่ผ่านเกณฑ์ จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เพราะได้ทำลายตลาดผูกขาดของบริษัทยาต่างชาติที่ครอบครองตลาดจีนมานานลงได้

และอีกครั้ง เมื่อวัคซีน Cecolin 9 หรือวัคซีน 9-valent HPV ของ Wantai ผ่านการอนุมัติ เป็นวัคซีนป้องกัน 9 สายพันธุ์ตัวแรกที่ผลิตในจีน และเป็นตัวที่สองของโลกรองจาก Gardasil 9 ของ Merck ซึ่งการได้รับอนุมัตินี้หมายถึง Wantai ไม่ได้เป็นแค่ผู้เล่นระดับประเทศ แต่กำลังท้าทายผู้นำโลกอย่างแท้จริง

อีกหนึ่งชัยชนะของธุรกิจนี้ คือช่วงโควิด-19 ที่ชุดตรวจโควิดขายดีเป็นพลุแตกจนทำให้บริษัทมีกำไรมหาศาล กระทั่งบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ตอนปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงพอดีกับการระบาด หลังเข้าตลาดไม่นาน ราคาหุ้นพุ่งทะลุ 2,500% ส่งผลให้ Zhong Shanshan ที่ถือหุ้นอยู่ 75% ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน

และต่อมาไม่กี่เดือนหลังจากนั้น เขาก็นำ Nongfu Spring เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงตามไปติด ๆ ซึ่งในวันแรกที่เทรดราคาหุ้นพุ่งขึ้นทันที 85% พอสิ้นปี 2020 มูลค่าบริษัทขยายเพิ่มอีก 66.72% และก็ทำให้เขาขึ้นแท่นเบอร์ต้น ๆ ของประเทศแบบในทันที

ในวัน IPO ของ Nongfu Spring เขาสามารถแซงหน้า Jack Ma แห่ง Alibaba และ Pony Ma จาก Tencent ขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศจีน และพอถึงมกราคม 2021 มูลค่าทรัพย์สินของเขาพุ่งไปถึง 91,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นแท่นติดอันดับ 6 ของคนที่รวยที่สุดในโลกในเวลานั้น

ปัจจุบันนี้ Zhong Shanshan ยังคงติดลิสต์คนรวยอันดับต้นของโลก ด้วยความมั่งคั่งสุทธิกว่า 78,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังคงรักษาตำแหน่งบุรุษที่รวยที่สุดในจีน


ที่มา: Forbes, Nongfu Spring, SCMP [1][2], MAGNAV, Entrepreneur, The Guardian


ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney




Author

Thanthida Thongphet

Thanthida Thongphet
Digital Economy & Future of Finance