KKP ผนึก GSAM “บริหารความมั่งคั่ง” ดัน AUM ทะลุ 1 ล้านล้าน

Personal Finance

Wealth Management

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

KKP ผนึก GSAM “บริหารความมั่งคั่ง” ดัน AUM ทะลุ 1 ล้านล้าน

Date Time: 16 มิ.ย. 2568 09:36 น.

Video

เมื่อเด็ก ป.6 (11 ขวบ) สร้างรายได้ "หลักแสน" แซงหน้าคนทำงาน! l Money Secret EP.12

Summary

กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Goldman Sachs Asset Management (GSAM) บริษัทจัดการลงทุนชั้นนำของโลก ขยายธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง

Latest


ภาพรวมเศรษฐกิจไทย แม้จะเติบโตในระดับต่ำ แต่การฟื้นตัวแบบ “K-Shape” ทำให้ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) กลับยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้สถาบันการเงินทั้งไทยและต่างชาติต่างเข้ามาแข่งขันในตลาดนี้อย่างคึกคัก

ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า แต่ละสถาบันการเงินประกาศความร่วมมือทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละโมเดลก็มีความแตกต่างกันไป เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทย ยังคงเป็นที่น่าจับตามองและมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก

ล่าสุด กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partnership) กับ Goldman Sachs Asset Management (GSAM) บริษัทจัดการลงทุนชั้นนำของโลก  การจับมือกันครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการนำเสนอโซลูชันระดับโลกที่ครบวงจรเพื่อนักลงทุนไทย

ณฤทธิ์ โกสาลาทิพย์ กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าสายงานที่ปรึกษาและบริหารการลงทุนลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เส้นทางของ KKP ในตลาดทุนนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1972  สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการเปิดกว้างและร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกมาโดยตลอด สำหรับความร่วมมือกับ GSAM ในครั้งนี้ KKP มั่นใจว่าจะเป็นความร่วมมือระยะยาว ที่สร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาการเติบโตของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ซึ่งที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 16% ต่อปี (CAGR) ตลอด 20 ปี จนปัจจุบันมี AUM รวมกว่า 895,000 ล้านบาท  และคาดว่าจะทะลุ 1 ล้านล้านบาทได้ภายในปีนี้

"แม้ภาพรวม GDP ของประเทศจะเติบโตช้า แต่การเติบโตในลักษณะ K-Shape ทำให้ธุรกิจ Wealth Management ซึ่งโฟกัสที่กลุ่มบนยังคงเติบโตได้ดี เราเห็นความต้องการลงทุนที่ยังแข็งแกร่ง และยังมี Wealth นอกระบบอีกมาก ที่กำลังจะย้ายเข้ามาสู่สินทรัพย์ทางการเงินมากขึ้น ความร่วมมือนี้จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ทำให้การเติบโตของเรายั่งยืนไปอีกอย่างน้อย 5-10 ปีข้างหน้า" ณฤทธิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทย ถูกสนับสนุนด้วยปัจจัยหลัก ดังนี้

1.นักลงทุนในประเทศตระหนักถึงคุณค่าของการกระจายความเสี่ยงระหว่างประเทศมากขึ้น
2.การโอนความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่น มีบทบาทมากขึ้นในธุรกิจครอบครัวและการบริหารความมั่งคั่ง
3.ภาษีรายได้ต่างประเทศมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อวิธีที่นักลงทุนเลือกลงทุน
4.แนวโน้มการลงทุนทางเลือก (Alternative Investment) ในการบริหารความมั่งคั่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น
5.ประเทศไทยเป็นที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ สำหรับธุรกิจต่างชาติในภูมิภาค

ณฤทธิ์ เล่าว่า เป้าหมายของ KKP คือ การเป็น “Best Global private bank for Thai Investors” หรือ Private Bank ระดับโลกที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนชาวไทย ซึ่งต้องพึ่งพาความร่วมมือจากพาร์ทเนอร์ที่ทำงานกันอย่างเหนียวแน่น และเป็นความร่วมมือระยะยาวที่ทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์มากที่สุด 

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ KKP ตัดสินใจทำงานร่วมกับ GSAM นั้น ณฤทธิ์ ระบุว่า มาจากแนวคิดแบบ Open Architecture ที่ตรงกัน ช่วยให้การทำงานเปิดกว้างโดยเฉพาะในการเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดีที่สุดให้นักลงทุน

สำหรับขอบเขตความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ GSAM จะครอบคลุม 3 แกนหลัก ได้แก่

  1. Advisory - การทำงานร่วมกันเพื่อให้คำแนะนำการลงทุนที่ครอบคลุมและทันต่อสถานการณ์ทั่วโลก
  2. Multi-Asset Strategy DPM - การพัฒนากลยุทธ์การลงทุนที่จัดสรรในสินทรัพย์ทุกประเภท เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
  3. Institutional Business - การขยายบริการไปยังกลุ่มลูกค้าสถาบัน

หนึ่งในส่วนสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้ คือการร่วมพัฒนาบริการ Discretionary Portfolio Management (DPM) หรือบริการบริหารพอร์ตลงทุนซึ่งใช้แนวทางการจัดพอร์ตอย่างมีระบบ ปรับเปลี่ยนสัดส่วนและทางเลือกตามภาวะตลาด เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนและความเสี่ยงที่เหมาะสม ถือเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักลงทุนในยุคที่ความผันผวนทางเศรษฐกิจและตลาดโลกมีความถี่และรุนแรงมากขึ้น

ด้าน ซาบรีนา แกน Managing Director, Goldman Sachs Asset Management (GSAM) กล่าวเสริมว่า GSAM มองเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทย ซึ่งนักลงทุนกำลังมองหาโอกาสการลงทุนในระดับโลกมากขึ้น ความร่วมมือนี้ซึ่งผสานศักยภาพด้านการลงทุนระดับโลกของ GSAM เข้ากับความเชี่ยวชาญในประเทศไทยของ KKP จะเปิดโอกาสให้เราร่วมกันนำเสนอทางเลือกการลงทุนที่แตกต่างให้แก่นักลงทุนในประเทศไทยได้

ที่ผ่านมา KKP มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 16% สูงกว่าตลาดโลกที่เติบโตต่อปีราว 4-6%  การร่วมมือกับ KKP ครั้งนี้ จะช่วยยกระดับการให้บริการ และนำเสนอผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มระดับโลกของ GSAM มากขึ้นด้วย

GSAM จะทำหน้าที่ให้บริการที่ปรึกษาการลงทุนด้านกลยุทธ์การลงทุนแบบหลากหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset Strategy) ให้แก่ KKP เพียงรายเดียวเท่านั้นในประเทศไทย ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง ทั้งสองฝ่ายยังอยู่ระหว่างการหารือถึงความร่วมมือในด้านอื่นเพิ่มเติม รวมถึงการที่ KKP อาจจะจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่นที่บริหารจัดการโดย GSAM

ปัจจุบันภูมิทัศน์ของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักลงทุนให้ความสำคัญกับการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น คนรุ่นใหม่เริ่มมีบทบาทในการบริหารความมั่งคั่งของครอบครัว และความสนใจในสินทรัพย์ทางเลือกกำลังเพิ่มสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน ประเด็นด้านภาษีของเงินลงทุนในต่างประเทศและการแข่งขันจากผู้เล่นต่างชาติก็ส่งผลต่อแนวทางการจัดพอร์ตของนักลงทุนไทย ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง KKP และ GSAM จึงเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันเหมาะสม เพื่อช่วยให้นักลงทุนไทยก้าวผ่านความซับซ้อนของโลกการเงิน และสร้างพอร์ตการลงทุนที่แข็งแรง มั่นคง และก้าวไกลในระดับสากล

นอกจากนี้ ในมุมมองของ GSAM ประเทศไทยมีศักยภาพในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางทางการเงิน (Financial Hub) แห่งใหม่ของภูมิภาคในอนาคต นอกเหนือจากฮ่องกงและสิงคโปร์ ปัจจัยสำคัญคือสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่เอื้ออำนวย ซึ่งปัจจุบันทำให้นักลงทุนไทยสามารถออกไปลงทุนในต่างประเทศได้ง่ายขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดอื่นในเอเชียแปซิฟิก (APAC)


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ