แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน 4 Mindset การเงิน อย่ารอโอกาส อย่าช้าที่จะลงมือ

เคยสงสัยไหมว่าอะไรทำให้บางคนกลายเป็นเศรษฐีได้ ทั้งที่จุดเริ่มต้นอาจไม่ได้แตกต่างจากตัวของเราเลย? การจะประสบความสำเร็จในด้านการเงินนั้นจะต้องผ่านการวางแผนอย่างดี เพราะระหว่างทางคุณอาจจะต้องเจอกับกับดักทางการเงินที่หากก้าวพลาดอาจทำให้ชีวิตเปลี่ยน ซึ่งการที่จะบรรลุเป้าหมายของตนเองได้นั้นจะต้องเริ่มจากการมีวินัย และมีวิธีคิดที่ดีก่อน แต่วิธีคิดแบบไหนล่ะที่จะทำให้ “รวย” และประสบความสำเร็จได้?

ถอด 4 แนวคิดที่จะทำให้การเงินของคุณดีขึ้น

แซม โดเกน ผู้ก่อตั้ง Financial Samurai  เผยว่า สิ่งสำคัญในการออมเงินและการบริหารการเงินไม่ใช่แค่เก่ง หรือดวงดี แต่ต้องมีทัศนคติที่ดีด้วยเช่นกัน เพราะการประสบความสำเร็จได้นั้นต้องเริ่มจากสิ่งง่าย ๆ อย่างปรับความคิดให้ดีก่อนวางระเบียบการเงินของตัว แต่คนเกือบ 93% กลับมองข้ามมันไปเพราะคิดว่ามันไม่สำคัญ แต่วันนี้ Thairath Money ได้รวบรวม 4 วิธีคิดแบบใหม่ที่จะทำให้โลกการเงินของคุณดีมากยิ่งขึ้น

1. ออมและลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
CNBC กล่าวว่า เราไม่จำเป็นต้องรอเวลาที่ "สมบูรณ์แบบ" ในการลงทุน คนที่ประสบความสำเร็จด้านการเงินหลายคนมองว่าการรอเวลาอาจหมายถึงจำนวนเม็ดเงินที่ค่อย ๆ สูญเสียไปอย่างน่าเสียดาย พวกเขาจึงคิดและลงมือทำทันที ในขณะที่คนส่วนใหญ่ปล่อยให้ความกลัวเป็นตัวกําหนดการตัดสินใจทางการเงินของพวกเขา และเลือกที่จะกักตุนเงินสดแทนที่จะลงทุนมากกว่า จึงอาจทำให้พลาดโอกาสในการลงทุนไป

แต่ในขณะเดียวกัน การออมและการลงทุนเป็นที่มีความสําคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน เนื่องจากความผันผวนของตลาดหุ้น ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ สงครามการค้า และความกลัวว่าเศรษฐกิจจะถดถอยมากกว่าเติบโต ทําให้เกิดความลังเลในหมู่ผู้คนที่อยากลงทุน ดังนั้นการมีเงินออมจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสร้างความมั่นคงให้กับการเงินของเราได้ในยุคปัจจุบัน 

2. สร้างรายได้หลายช่องทาง

การพึ่งพาแหล่งรายได้เพียงแหล่งเดียว เช่น งานประจําอาจเป็นการเคลื่อนไหวที่มีความเสี่ยง ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความมั่นคงในการทํางาน ดังนั้นการมีอาชีพเสริมจึงเหมาะกับปัจจุบัน ยิ่งคุณมีแหล่งรายได้มากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้นเท่านั้น

เศรษฐีที่ประสบความสำเร็จหลายคนไม่มีได้ทำแค่อาชีพเดียวเท่านั้น แต่พวกเขายังมีรายได้จากช่องทางอื่น ๆ เช่น

• เงินปันผลจากหุ้น
• รายได้ค่าเช่าจากอสังหาริมทรัพย์
• กําไรจากธุรกิจเสริม
• ค่าลิขสิทธิ์จากทรัพย์สินทางปัญญา
• กําไรจากหุ้นและการลงทุนภาคเอกชน
• ดอกเบี้ยจากพันธบัตรหรือเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง
• งาน Freelance หรืองานที่เป็นผู้ให้คําปรึกษากับผู้คน

รายได้หลายกระแสทําหน้าที่เป็นเครือข่ายความปลอดภัยทางการเงิน เช่น หากวันหนึ่งคุณตกงานโดยไม่คาดคิด ธุรกิจสำรองและอาชีพเสริมจะช่วยพยุงการเงินให้ไปต่อได้ในวันที่การเงินสะดุด

3. เปลี่ยนแนวคิดเพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเอง

การมีแนวคิดที่ดีจะส่งผลให้การเงินของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะมันจะช่วยให้เราสามารถจัดลําดับความสําคัญของกิจกรรมในการสร้างความมั่งคั่งมากกว่าความสุขในระยะสั้น เช่น เอาเงินเดือนก้อนแรกไปจัดระเบียบให้ดีแทนที่จะเอาไปซื้อรถที่อาจสร้างหนี้ให้ตัวเอง หรือ แทนที่จะใช้จ่ายกับการช้อปปิ้งในสิ่งที่ไม่เป็นจำเป็น แต่บางคนคิดว่าจะเอาเงินก้อนนี้ไปวางแผนการเงินสำหรับการเกษียณอายุแทนจะดีกว่า

แต่ในขณะเดียวกัน การใช้เงินเพื่อซื้อความสุขให้กับตัวเองก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะหากวางแผนการเงินมากเกินไปอาจก่อให้เกิดความรู้สึกอึดอัดใจต่อตัวของเราเอง แต่สิ่งที่ควรทำคือระวังการใช้เงินเกินตัวเพราะแม้เงินจะสามารถซื้อความสุขได้แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น แต่หนี้ที่มาจากการใช้เงินเกินตัวอาจติดหลังเราไปในระยะยาว

4. คิดและลงมือทำ
สิ่งที่สำคัญมากพอ ๆ กับการลงมือทำ คือการมีความคิดที่เชื่อมั่นในตัวเอง แทนที่จะตั้งคำถามว่า “ทำไมฉันไม่รวยเหมือนคนอื่น” ให้เปลี่ยนเป็น “ทำยังไงเราถึงจะรวยแบบเขาได้” เช่นเดียวกับคนที่ประสบความสำเร็จทางการเงินหลายคนเริ่มต้นจากความคิดที่เป็นแรงผลักดัน และนำแรงบันดาลใจเหล่านั้นมาลงมือทำ กล้าเจอกับความเสี่ยง และจัดระเบียบการเงินของตัวเองเสมอ  ดังนั้นแนวคิดที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จด้านการเงินแบบเศรษฐีคนอื่น ๆ คือการเริ่มจากเปลี่ยนความคิดแล้วลงมือ

ที่มา: CNBC

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney