ในยุคที่คนกำลังยกย่องคนรวย รักคนมีเงิน ยังมีคนอีกหนึ่งกลุ่มที่ยกให้ "ความรวย" เป็นเรื่องน่ากลัว จนฝังรากลึกกลายเป็นอาการ “Plutophobia” หรือ อาการหวาดกลัวเงินและความมั่งคั่งอย่างไร้เหตุผล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความผิดปกติด้านความวิตกกังวลที่มีผลต่อทั้งตัวบุคคลและสังคมโดยรอบ อาการนี้มักจะมีผลมาจากภาพลักษณ์เชิงลบของคนรวย ที่ถูกสื่อหรือสังคมบางกลุ่มวาดภาพไว้ว่า “โลภ โกง ไม่ซื่อสัตย์” หรือ “ไม่เข้าใจคนธรรมดา” จนฝังลึกกลายเป็นความวิตกกังวล จนบางรายอาจถึงขั้นยอมจนเพื่อหลีกเลี่ยงความมั่งคั่งอย่างจงใจ ซึ่งอาจขัดขวางโอกาสเติบโตในอาชีพและความมั่นคงในอนาคต
เชื่อไหมว่าในยุคนี้ที่สังคมกำลังยกย่องคนรวย รักคนมีเงิน และวัดความสำเร็จกันด้วยทรัพย์สินและรายได้ ยังมีคนอีกหนึ่งกลุ่มที่มองว่า “ความรวย” นี้เป็นเรื่องน่ากลัว จนฝังรากลึกกลายเป็นอาการที่เรียกว่า “Plutophobia” หรืออาการหวาดกลัวเงินและความมั่งคั่งอย่างไร้เหตุผล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความผิดปกติด้านความวิตกกังวล (Anxiety Disorder) ที่มีผลต่อทั้งตัวบุคคลและสังคมโดยรอบ
Plutophobia ไม่ใช่แค่การไม่ชอบคนรวย แต่คือ ความกลัวแบบไม่มีเหตุผลที่ฝังรากลึก บางคนอาจกลัวการมีเงิน กลัวการเข้าใกล้คนรวย หรือแม้แต่กลัวสถานการณ์ที่จะทำให้ตัวเองรวยขึ้นก็เป็นได้ โดยผู้ที่มีภาวะนี้มักพยายามหลีกเลี่ยงเงิน คนรวย หรือโอกาสทางการเงินอย่างถึงที่สุด เพราะยิ่งเข้าใกล้ยิ่งเครียด ยิ่งวิตก ซึ่งอาการจะเด่นชัดเมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่กลัว และในบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นมีอาการคล้าย Panic Attack
สิ่งที่ทำให้คนบางคนมีแนวโน้มพัฒนาเป็นโรคนี้ได้ มักเริ่มต้นจากภาพลักษณ์เชิงลบของคนรวย ที่ถูกสื่อหรือสังคมบางกลุ่มวาดภาพไว้ว่า “โลภ โกง ไม่ซื่อสัตย์” หรือ “ไม่เข้าใจคนธรรมดา” รวมถึงประวัติศาสตร์ในอดีตที่ชนชั้นปกครองกดขี่ประชาชน เช่น ราชวงศ์หรือเผด็จการในยุคก่อน อาจฝังแนวคิดในระดับจิตใต้สำนึกว่าความมั่งคั่งคืออำนาจที่อันตราย
โดยคนที่เป็น Plutophobia อาจมีอาการดังต่อไปนี้:
อย่างไรก็ตาม “Plutophobia ไม่ใช่ความอิจฉา” เชื่อว่าหลายคนอาจสับสนระหว่าง ความอิจฉากับ Plutophobia แต่ความต่างคือ คนอิจฉาอยากมีเหมือนคนอื่น ขณะที่คนกลัวความรวยนั้น กลัวความรวยอย่างแท้จริง ไม่ต้องการเข้าใกล้มัน และไม่ได้รู้สึกว่าตนเองขาดหรือด้อย เพียงแค่ต้องการอยู่ให้ไกลที่สุด
ถึงแม้จะไม่มีคำตอบตายตัว แต่ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้มีทั้งจากพันธุกรรม (เช่น มีประวัติโรควิตกกังวลในครอบครัว) หรือสิ่งแวดล้อม เช่น เติบโตมาในบ้านที่เชื่อว่าคนรวยไม่ดี หรือมีประสบการณ์เลวร้ายเกี่ยวกับการเงิน เช่น เคยถูกโกง ถูกหลอกเรื่องการเงิน หรือรู้สึกถูกกดจากผู้มีอำนาจ
อีกสาเหตุสำคัญคือ ผลกระทบจากวัฒนธรรมและสื่อ ที่บางครั้งเน้นนำเสนอไปที่ความเหลื่อมล้ำ ทำให้ผู้คนรู้สึกว่า “ความมั่งคั่งคือตัวร้าย” ของเรื่อง ขณะที่ชนชั้นล่างกลายเป็นเหยื่อ หรือผู้เสียเปรียบอยู่เสมอ
นอกจากนี้ โลกโซเชียลยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด Plutophobia อีกด้วย โดยภาพลักษณ์ของคนดังในวงการการเมืองหรือฮอลลีวูดที่ใช้เงินในทางที่ไม่น่าชื่นชม หรือข่าวเรื่องคอร์รัปชัน อาจเป็นการตอกย้ำว่า “ความรวยนำไปสู่ความเลว” ซึ่งยิ่งเสริมแนวคิดเชิงลบเกี่ยวกับเงินและอำนาจ จนพัฒนาเป็น Plutophobia โดยไม่รู้ตัว
แม้จะไม่มียารักษาโดยตรงแต่ Plutophobia สามารถบรรเทาได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น
แม้จะฟังดูขัดแย้งกับความเป็นจริงในโลกปัจจุบันที่ผู้สรรเสริญเยินยอกับความมั่งคั่ง แต่อาการของ Plutophobia นี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดูร้ายแรงไม่ใช่น้อย เพราะเป็นอาการที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตจริง ผู้ป่วยบางรายอาจถึงขั้นยอมจน เพื่อหลีกเลี่ยงความมั่งคั่งอย่างจงใจ ซึ่งอาจขัดขวางโอกาสเติบโตในอาชีพ และความมั่นคงในอนาคต การยอมรับ เข้าใจ และรักษาอย่างเหมาะสม คือทางออกสำหรับผู้ที่เผชิญความกลัวนี้อยู่
ที่มา: Klarity.Health
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney