โสดดี ไม่มีภาระ งานวิจัยเผยอีก 5 ปี 45% ของผู้หญิงเลือกเป็นโสดมากขึ้น หาเงินได้เท่าไรใช้เปย์ตัวเอง

Personal Finance

Wealth Management

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

โสดดี ไม่มีภาระ งานวิจัยเผยอีก 5 ปี 45% ของผู้หญิงเลือกเป็นโสดมากขึ้น หาเงินได้เท่าไรใช้เปย์ตัวเอง

Date Time: 14 มี.ค. 2568 15:09 น.

Video

อธิบายทีเดียวว่า ทำไมฟองสบู่ AI จะไม่แตกซ้ำรอยดอทคอม? | Digital Frontiers EP.51

Summary

ภายในปี 2030 ผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 25-44 ปีประมาณ 45% จะเลือกที่จะไม่มีบุตรและเป็นโสด ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งนี้มีผลมาจากบรรทัดฐานทางสังคมเปลี่ยนไป ผู้หญิงจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวเองและความก้าวหน้าในอาชีพมากกว่าบทบาทครอบครัวแบบดั้งเดิม

Latest


พลวัตของสังคมยุคใหม่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง “บทบาท” และ “ความคาดหวังทางเพศ” หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ ผู้หญิงจำนวนมากขึ้นเลือกที่จะเป็นโสดและเลือกที่จะไม่มีลูกในช่วงวัยทำงาน ซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญมากของชีวิต

จากผลการศึกษาล่าสุดของ Morgan Stanley คาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 ผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 25-44 ปีประมาณ 45% จะเลือกที่จะไม่มีบุตรและเป็นโสด ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับทศวรรษที่ผ่านมา

ในอดีตภาพจำของผู้หญิงคือเมื่อมีการแต่งงาน บทบาทของการเป็นแม่มักถูกมองว่าเป็นบทบาทหลักของผู้หญิง แต่เมื่อบรรทัดฐานทางสังคมเปลี่ยนไป ผู้หญิงจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวเองและความก้าวหน้าในอาชีพมากกว่าบทบาทครอบครัวแบบดั้งเดิม ซึ่งสิ่งนี้กำลังพลิกโฉมทั้งโครงสร้างเศรษฐกิจและรูปแบบการทำงานในปัจจุบัน

Morgan Stanley ยังได้เผยสถิติข้อมูลน่าสนใจอีกด้วยว่า ปัจจุบันผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการใช้จ่ายในสหรัฐฯ โดยพวกเธอมีส่วนช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และตามข้อมูลจากศูนย์วิจัย Center for American Progress และจากผลสำรวจของ MRI-Simmons พบว่า ผู้หญิงเป็นผู้ซื้อหลักใน 72% ของครัวเรือนในประเทศ

ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงยังมีอัตราการจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสูงกว่าผู้ชาย และยังเป็นผู้หารายได้หลักในเกือบ 30% ของครัวเรือนที่แต่งงานแล้ว และเกือบ 40% ของครัวเรือนทั้งหมดในสหรัฐฯ อีกด้วย

ทำไมผู้หญิงถึงเลือกที่จะโสด?

จากการศึกษาของ Morgan Stanley ชี้ให้เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนว่า ผู้หญิงจำนวนมากขึ้นเลือกที่จะชะลอหรือหลีกเลี่ยงการแต่งงานและการมีลูก การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นการเบี่ยงเบนจากความคาดหวังของคนรุ่นก่อนที่มักแต่งงานตั้งแต่ช่วงอายุ 20 ต้น ๆ และมีลูกในเวลาไม่นานหลังจากนั้น

เบื้องหลังแนวโน้มนี้มีหลายปัจจัย ทั้งจากการเปลี่ยนแปลงของค่านิยมทางสังคม ความต้องการมีอิสรภาพทางการเงิน และความมุ่งมั่นในการเติบโตด้านอาชีพ ปัจจุบันผู้หญิงให้ความสำคัญกับการสร้างเส้นทางอาชีพ การพัฒนาทักษะ และการวางรากฐานชีวิตที่มั่นคงก่อนจะตัดสินใจเรื่องการแต่งงานหรือการมีลูก ซึ่งผู้หญิงมองว่าข้อดีของการเป็นโสดมีดังนี้

  • ความก้าวหน้าในอาชีพ: มีเวลาและสมาธิมากขึ้นในการพัฒนาอาชีพ ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานที่สูงขึ้น
  • อิสรภาพทางการเงิน: สามารถบริหารจัดการการเงินส่วนตัวได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร
  • อิสรภาพส่วนบุคคล: สามารถใช้ชีวิตตามใจชอบ เช่น เดินทางท่องเที่ยว หรือพัฒนาตัวเอง โดยไม่ต้องมีภาระครอบครัว
  • มีความยืดหยุ่น: ตัดสินใจเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย การทำงาน หรือการเดินทางได้อย่างอิสระและทันที
  • ได้พัฒนาตนเอง: มีเวลามากขึ้นในการเรียนรู้ ดูแลตัวเอง และพัฒนาศักยภาพส่วนบุคคล
  • การมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจ: ผู้หญิงที่ทำงานมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และมีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
  • หลุดพ้นจากบทบาทเพศแบบดั้งเดิม: มีอิสระจากบทบาทภรรยาและแม่ ช่วยให้สามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นตัวของตัวเอง
  • ไม่ต้องกังวลความสัมพันธ์แบบแย่ ๆ: เนื่องจาก Toxic Relationship คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงที่ต้องรับบทภรรยาไม่สามารถหลุดพ้นได้ เนื่องจากความกังวลในการใช้ชีวิตและสร้างรายได้
  • สมดุลชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว: จัดการสมดุลระหว่างงานและชีวิตได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องรับผิดชอบงานครอบครัว
  • ลดความเครียดจากครอบครัว: ไม่ต้องเผชิญความเครียดจากการดูแลคู่สมรสหรือการเลี้ยงลูก
  • โอกาสในการทำลายกรอบความคิดแบบเหมารวม: ช่วยลดอคติหรือภาพจำเกี่ยวกับบทบาทของผู้หญิงในสังคม

ที่ผ่านมา แม้สังคมจะมีพัฒนาการทั้งในด้านมุมมองต่อผู้หญิงและแนวโน้มการทำงานของสาวโสด แต่บ่อยครั้งที่ผู้หญิงที่ยังโสดหรือไม่มีลูกยังคงเผชิญกับการเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน เช่น ช่องว่างระหว่างรายได้ โอกาสที่ไม่เท่าเทียม และอคติเกี่ยวกับความมุ่งมั่นต่อบทบาทครอบครัว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้หญิงจำนวนมากขึ้นกำลังเข้าสู่ตลาดแรงงาน และบางกลุ่มก็ประสบความสำเร็จในสายอาชีพ จนหลายคนกลายเป็นผู้หารายได้หลักของครอบครัว ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องการแต่งงานและการมีลูก

นอกจากนี้ ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยยังคงโสดไปจนถึงช่วงอายุ 30-40 ปี หรือแม้แต่ผู้ที่แต่งงานแล้วหลายคนก็เลือกที่จะหย่าร้างหรือไม่แต่งงานใหม่อีก ซึ่งแตกต่างจากคนรุ่นก่อนที่มักมองว่าการแต่งงานคือพันธะตลอดชีวิต

พลังสาวโสด จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างไรให้สังคม?

ในอดีตที่ผ่านมา เหตุผลที่ทำให้มีมุมมองว่าทำไมผู้หญิงที่แต่งงานถึงมีรายได้น้อยกว่า เป็นเพราะงานส่วนใหญ่ที่ทำนั้น เป็นงานที่ผู้หญิงไม่ได้รับค่าจ้าง และต้องอาศัยการเลี้ยงดูจากสามี แต่เมื่อเวลาผ่านไปแนวคิดนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว จากรายงานของ London School of Economics และ Sage Journal พบว่า ผู้หญิงโสดจะมีความสุขมากกว่า มีชีวิตที่ยาวนานขึ้น และสร้างเงินสร้างอาชีพได้มากขึ้น

นอกจากนี้ พลังของสาวโสด ยังถูกมองว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมในวงกว้างได้อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น

  • ปฏิรูปนโยบาย Work-Life Balance: รัฐบาลและองค์กรสามารถออกนโยบายที่ก้าวหน้ามากขึ้น เช่น การกำหนดเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น ทางเลือกในการดูแลเด็กที่ดียิ่งขึ้น และการลาคลอดที่ครอบคลุม เพื่อสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิง ไม่ว่าจะมุ่งเน้นด้านอาชีพหรือครอบครัว
  • ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ: การผลักดันให้ลดช่องว่างระหว่างรายได้ของหญิงและชาย และส่งเสริมโอกาสที่เท่าเทียมกัน ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้หญิงสามารถเลือกเส้นทางชีวิตได้อย่างเป็นอิสระ ยอมรับความหลากหลายของรูปแบบ
  • การใช้ชีวิต: บรรทัดฐานทางสังคมควรปรับเปลี่ยนไปสู่การยอมรับว่า คุณค่าของผู้หญิงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแต่งงานหรือการเป็นแม่ และการเลือกที่จะโสดหรือไม่มีลูกก็เป็นการตัดสินใจส่วนตัวที่มีคุณค่าเช่นกัน
  • การสนับสนุนสำหรับผู้หญิงโสด: ควรมีการสร้างระบบสนับสนุนทางสังคมและชุมชนสำหรับผู้หญิงโสดที่ไม่มีลูก โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เพื่อให้พวกเธอสามารถเข้าถึงการดูแลและการมีเพื่อนร่วมชีวิตได้
  • รณรงค์ให้ความรู้: การให้ความรู้ผ่านแคมเปญการศึกษาเพื่อรื้อทำลายภาพเหมารวม และส่งเสริมให้สังคมเคารพทางเลือกชีวิตของผู้หญิง ไม่ว่าจะเลือกครอบครัว อาชีพ หรือทั้งสองอย่างร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้หมายถึงการสนับสนุนให้ผู้หญิงเลือกที่จะอยู่เป็นโสดเพียงอย่างเดียว เพราะอย่าลืมว่าในอนาคตโลกของเรายังต้องพึ่งพาคนรุ่นใหม่ ๆ ที่จะเกิดมา แต่เราควรจะเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้เลือกด้วยตัวเองว่า ควรจะโสด ควรจะสร้างครอบครัว หรือควรจะมีลูกไหม

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ