“เงิน” คือ องค์ประกอบสำคัญในความต้องการแทบจะทุกส่วนของคนเรา ตราบใดที่เรายังมีความต้องการพื้นฐาน ฉะนั้นการวางแผนการเงินที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดี และบรรลุเป้าหมายชีวิตอย่างที่คาดหวังได้ แต่กระนั้นคนส่วนใหญ่มักมองว่า “การวางแผนการเงิน” เป็นเรื่องของ “คนรวย” และเป็นเรื่อง “ไกลตัว” แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้ว “เงิน” กลับมีความสำคัญมากกว่าที่ทุกคนคิด
ดังนั้นหากเอ่ยถึง “นักวางแผนทางการเงิน” ที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ชื่อของ “ก้อย วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ” ไม่มีใครไม่รู้จัก ด้วยสมญานามการเป็น “หญิงเหล็ก” ผู้ปลุกปั้นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด จนโด่งดังกลายเป็น บลจ.อันดับต้นๆของประเทศ อีกทั้งยังเป็นนักวางแผนการเงิน อดีตประธานกรรมการศูนย์วิจัยกสิกรไทย และในฐานะผู้เขียนหนังสือ “เงินไม่ใช่ทุกอย่าง แต่ทุกอย่างเริ่มต้นที่เงิน” ที่สอนการลงทุนให้กับคนทุกรุ่นทุกวัน
แน่นอนหลายคนอาจจะมีคำถามในใจว่าสิ่งที่เธอประสบความสำเร็จ และกลายมาเป็น “ก้อย วิวรรณ” เฉกเช่นทุกวันนี้มีเคล็ดลับอย่างไร “หน้าหนังสือ” เรื่องราวชีวิตของเธอคงจะไม่ธรรมดาเป็นแน่ และจะทำให้เหมือนเธอนั้นมีหลักการอย่างไรบ้าง?
เพราะด้วยมุมมองทางการเงิน บวกกับคำแนะนำจากผู้มากประสบการณ์อย่างพี่ก้อยได้สร้างความมั่งคั่ง และร่ำรวยให้กับนักลงทุนมาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งทุกครั้งที่มีโอกาส เธอมักจะตกปากรับคำเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้เรื่องเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน รวมทั้งจับปากกาเขียนหนังสือด้วยภาษา ง่ายๆ เพื่อให้ชาวบ้าน ทั่วไปสามารถนำไปใช้ได้จริง เพราะความเชื่อที่ว่า “คนเราทุกคนสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้ไม่สิ้นสุด ขอเพียงแต่ได้รับโอกาส” หรือแม้กระทั่งวลีเด็ดที่ว่า “การไม่ยอมเสี่ยงเลย เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง”
และอย่างที่ทุกคนรู้กันว่า การลงทุนมันต่างเวลา ต่างโอกาส เลียนแบบไม่ได้ แต่สิ่งที่เธอจะสามารถสอนเคล็ดลับที่เลียนแบบได้คือ
ทั้งหมดนี้ก็สอดคล้องกับสูตรลับความสำเร็จเด่นๆของเธอ ที่มักจะแชร์ให้พวกเราฟังเสมอนั่นคือ การเก็บออมในขณะที่เป็นพนักงานเงินเดือน ที่สร้างนิสัยการเก็บเงินอย่างสม่ำเสมอ โดยเธอเริ่มต้นลงทุนด้วยการเก็บออมเงิน เดือนละ 1,000 เป็นเวลา 24 เดือน จนมีเงินเก็บ 30,000 บาท ที่นำไปลงทุนต่อจากนั้นก็มีการลงทุนต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ทำให้มีเงินพอที่จะเกษียณได้ตั้งแต่อายุ 42 ปี แต่ก็ยังทำงานต่อ จนมีเงินพอ “ที่จะใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ จนกว่าจะจากโลกนี้ไป” ตามคำพูดของเธอ
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า “การวางแผนการเงิน” อย่างเหมาะสม จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1.ระยะเวลา ยิ่งออมยาว-ลงทุนยาว-ยิ่งเพิ่ม
2.จำนวนเงินที่ออม ยิ่งเก็บออมมาก เงินก็จะได้ก้อนใหญ่
3.อัตราผลตอบแทนจากการนำเงินออมไปลงทุน ยิ่งได้ผลตอบแทนสูงก็ยิ่งได้เงินเยอะขึ้น
และสิ่งสำคัญที่เธอมักจะเน้นย้ำคือต้อง “ออมก่อนใช้” หัดออมโดยเริ่มจาก 10-20% ของรายรับ หรือหากมีโบนัสก็ออมเพิ่ม เพื่อให้มีเงินฉุกเฉินรองรับ 6 เดือน นำเงินออมไปลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงย และอย่าลืมที่จะจัดพอร์ตลงทุนตามความเหมาะสมของตัวเอง ซึ่งจะทำให้เรามีความสุขในการใช้ชีวิตจากการเงินที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย
ด้วยเพราะ การวางแผนทางการเงิน เป็นเรื่องสำคัญในยุคปัจจุบัน ถ้าเงินเราหมด แต่เรายังไม่เสียชีวิต นั่นคือหายนะ ดังนั้นแม้ว่าเราจะมีรายได้สูง รวยเร็ว แต่ก็ต้องบันทึกรายรับ-รายจ่าย วางแผนการเงินให้เป็น และเรียนรู้การลงทุนด้วย และตรงจุดนี้เองก็ทำให้เราทุกคนได้แง่คิดที่ว่า “การวางแผนที่ดี” จะช่วยลดโอกาสใน “การล้มเหลว” ได้นั่นเอง.