ดีเดย์ 2 ธ.ค. 68 ! ธปท.คุมเข้มธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และลิสซิ่ง สรุป 10สิทธิใหม่ได้ลดดอกเบี้ยจริงหรือ

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ดีเดย์ 2 ธ.ค. 68 ! ธปท.คุมเข้มธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และลิสซิ่ง สรุป 10สิทธิใหม่ได้ลดดอกเบี้ยจริงหรือ

Date Time: 2 ธ.ค. 2568 10:23 น.

Video

เช็กให้ชัวร์ คุณอาจกำลัง "พลาด" โอกาสประหยัดภาษีหลายหมื่น! | Thairath Money Night Stand EP.22

Summary

เมื่อ ไฟแนนซ์รถ เปลี่ยนมือผู้คุม! ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศใช้ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน กำกับธุรกิจเช่าซื้อ อย่างเต็มตัวตั้งแต่ 2 ธ.ค. 68 สรุป 10 ใจความสำคัญคนซื้อรถได้ประโยชน์ยังไงบ้าง?

วันนี้ (2 ธ.ค. 2568) ถือเป็น "ดีเดย์" ครั้งสำคัญ ของวงการเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพราะนับเป็นการเริ่มต้น การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี! ตามที่ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 54/2568 ลงนามโดย “วิทัย รัตนากร” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย 

ซึ่งกำหนดให้ธุรกิจการให้เช่าซื้อและการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เป็นธุรกิจทางการเงินอย่างเต็มตัว โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  นั่นหมายความว่า ธุรกิจเช่าซื้อทุกแห่งจะถูกยกระดับให้เป็น "ธุรกิจทางการเงิน" และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. อย่างเป็นทางการตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 

โดยการเปลี่ยนมือผู้คุมครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนหน่วยงาน แต่คือสัญญาณของการ ปรับโครงสร้างดอกเบี้ย และการกำหนดมาตรฐานการให้บริการครั้งสำคัญ 


อย่างไรก็ตาม คำถามสำคัญคือ แล้วคนที่มีภาระผ่อนรถอยู่ หรือกำลังจะเช่าซื้อรถใหม่ จะได้รับประโยชน์และสิทธิคุ้มครองที่เข้มข้นขึ้นจากประกาศใหม่นี้อย่างไรบ้าง Thairath Money สรุปให้ดังนี้ 

10 ประโยชน์และสิทธิคุ้มครองใหม่ สำหรับคนเช่าซื้อรถ ภายใต้การกำกับของ ธปท.

  • เปลี่ยนผู้กำกับ : ธุรกิจเช่าซื้อได้ถูกยกระดับมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. โดยตรง จากเดิมที่อิงกับกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคทั่วไป ทำให้การกำกับดูแลมีความเข้มข้นและเป็นมาตรฐานด้านการเงินมากขึ้น
  • มาตรฐานกฎหมายที่สูงขึ้น: การอยู่ใต้ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 ทำให้บริษัทลิสซิ่งต้องปฏิบัติตาม มาตรฐานความมั่นคงทางการเงิน เช่นเดียวกับสถาบันการเงินอื่น ๆ ซึ่งลดความเสี่ยงที่บริษัทจะประสบปัญหาและกระทบต่อลูกค้า
  • คาดหวังดอกเบี้ยที่เป็นธรรม: ธปท. มีอำนาจเต็มในการพิจารณาและ กำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อ ที่เหมาะสมกับภาวะตลาด ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่การกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมแก่ผู้บริโภคมากกว่าเดิม
  • สัญญาที่โปร่งใสและเป็นธรรม: สัญญาเช่าซื้อจะต้องมีความชัดเจนและเป็นไปตาม มาตรฐานความเป็นธรรมทางการเงิน ของ ธปท. ซึ่งจะช่วยลดข้อความกำกวมหรือเงื่อนไขที่เอาเปรียบผู้บริโภค
  • กลไกร้องเรียนที่รวดเร็ว: ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนปัญหาที่เกี่ยวกับธุรกิจเช่าซื้อได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ของ ธปท. โดยตรง ซึ่งเป็นช่องทางเฉพาะที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการปัญหาทางการเงิน
  • สิทธิในการปิดบัญชีที่ชัดเจน: ข้อกำหนดเกี่ยวกับการ ไถ่ถอนหรือปิดบัญชีก่อนกำหนด จะถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และผู้เช่าซื้อจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระอย่างชัดเจนตามหลักเกณฑ์ของ ธปท.
  • การกำกับดูแลการทวงถามหนี้: ธปท. จะเข้ามามีบทบาทในการควบคุมและกำหนดแนวทางปฏิบัติที่รัดกุมและ เป็นธรรมในการทวงถามหนี้ เพื่อป้องกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากบริษัท
  • การเปิดเผยข้อมูลต้นทุนทั้งหมด: บริษัทลิสซิ่งจะถูกบังคับให้ เปิดเผยค่าธรรมเนียมและต้นทุนทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับการเช่าซื้ออย่างละเอียดและชัดเจน ตามมาตรฐานการกำกับดูแลธุรกิจการเงิน
  • ส่งเสริมการปรับโครงสร้างหนี้: บริษัทลิสซิ่งจะถูกกระตุ้นหรือกำหนดให้มี ช่องทางและความยืดหยุ่นในการช่วยเหลือและปรับโครงสร้างหนี้ สำหรับลูกหนี้ที่มีปัญหาทางการเงิน ตามแนวทางของสถาบันการเงิน
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือและความมั่นคง: การที่ธุรกิจลิสซิ่งถูกจัดเป็น "ธุรกิจทางการเงิน" จะช่วย สร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับผู้ประกอบการ และส่งผลดีต่อเสถียรภาพของระบบสินเชื่อรถยนต์โดยรวมในระยะยาว

ทั้งนี้ จากก่อนเปิดเผยของ ธปท. ก่อนหน้านี้ พบว่า ปัจจุบันมีนิติบุคคลที่ทำธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งฯ ในประเทศไทย ราว 3,000 ราย ซึ่งมีพอร์ตสินเชื่อตั้งแต่ 1,000 ล้านบาท สูงถึง 60 ราย 

ซึ่งในราชกิจจานุเบกษาฉบับล่าสุด ยังระบุว่า ธปท.จะอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ใช้ชื่อหรือคำแสดงชื่อในธุรกิจทางการเงินตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 ได้เป็นการทั่วไป ยกเว้นคำว่า "ธนาคาร" "เงินทุน" "บริษัทเครดิตฟองซิเอร์" หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกัน โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป


ที่มา : ธปท. , ราชกิจจานุเบกษา 

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https:// www.facebook.com/ThairathMoney





Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ