
เมื่องานคือส่วนหนึ่งของชีวิต… แต่ถ้าทำงานจนเสียชีวิตล่ะ
ใครๆ ก็ต้องทำงานเพื่อสร้างรากฐานชีวิตที่มั่นคง แต่งานเติบโต หลายคนสุขภาพอาจถดถอยลงไปเรื่อยๆ จนเกิดคำถามว่า ถ้าเราเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากการทำงาน สิทธิประโยชน์ เงินกองทุนที่เราลงไปจะต้องติดตามอย่างไร?
การบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการทำงานนั้นเป็นเหตุสุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้นได้ คนข้างหลังเมื่อเผชิญกับความสูญเสีย จะต้องจัดการกับความรู้สึก และวางแผนเรื่องอื่นๆ อีกมาก ซึ่งกรณีที่ลูกจ้างที่มีประกันสังคมเสียชีวิตจากการทำงานนั้น เบื้องต้นมีสิทธิประโยชน์ คือ
กองทุนนี้อยู่ภายใต้สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงานที่ระบุว่า คุ้มครองเราตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน (แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เริ่มทำงานวันแรกแล้วบริษัทฯ นำส่งเข้าประกันสังคมต้องเช็กให้ดี) เบื้องต้นมีส่วนสำคัญ ได้แก่
1. ค่าทำศพ ได้รับ 50,000 บาท
2. ค่าทดแทน ได้รับ 70% ของค่าจ้างรายเดือน ไม่เกิน 14,000 บาทต่อเดือน (ค่าจ้างสูงสุด 20,000 บาท) เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยจ่ายให้กับผู้มีสิทธิตามกฎหมาย
แต่ไม่ใช่ทุกคนจะได้เงินก้อนนี้ไป สำนักงานประกันสังคม ระบุ 8 ประเภทผู้มีสิทธิตามกฎหมาย ซึ่งทุกราย จะได้รับส่วนแบ่งเท่า ๆ กัน คือ
1. มารดา
2. บิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย
3. สามีหรือภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมาย
4. บุตรที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
5. บุตรที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปี ที่ยังศึกษาไม่สูงกว่าปริญญาตรี
6. บุตรที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปี และทุพพลภาพหรือจิตฟั่นเฟือน
7. บุตรของลูกจ้างที่เกิดภายใน 310 วัน นับตั้งแต่วันที่ลูกจ้างเสียชีวิต
8. หากไม่มีบุคคลข้างต้น มอบให้แก่ผู้อยู่ในอุปการะก่อนลูกจ้างเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนที่จำเป็นที่สุดคือ 2 เคสนี้นายจ้างต้องยื่นเรื่องภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ทราบการประสบอันตราย/เจ็บป่วยของลูกจ้าง และผู้มีสิทธิตามกฎหมายต้องยื่นภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันที่เสียชีวิต
นอกจากนี้ ยังมีเงินบำเหน็จชราภาพที่ทายาทจะได้รับเพิ่มเติม แต่จะได้รับเงินเท่าใดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของทางสำนักงานประกันสังคม ที่ยกตัวอย่างว่าทายาทสามารถรับเงินได้ 3 กรณี
กรณีที่ 1 กรณีรับเงินบำนาญชราภาพ ต่อมาเสียชีวิตภายใน 60 เดือน (นับจากเดือนที่รับบำนาญ)
ทายาทได้รับเงินบำเหน็จ = จำนวนเงินบำนาญชราภาพที่ได้รับเดือนสุดท้ายก่อนเสียชีวิต x จำนวนเดือนที่เหลือจนครบ 60 เดือน
กรณีที่ 2 กรณีผู้ประกันตนกลับไปเป็นผู้ประกันตน และต่อมาเสียชีวิต (ได้รับเงินบำนาญไม่เกิน 60 เดือน)
ทายาทได้รับเงินบำเหน็จ = จำนวนเงินบำนาญชราภาพที่ได้รับก่อนกลับไปเป็นผู้ประกันตน x จำนวนเดือนที่เหลือจนครบ 60 เดือน
กรณีที่ 3 แบ่งเป็น 2 กรณี
- กรณีรับเงินชราภาพก่อนบังคับใช้กฎกระทรวง แต่ยังไม่ครบ 60 เดือน
ทายาทได้รับเงินบำเหน็จ = เดือนที่เหลือจนครบ 60 เดือน
- กรณีรับเงินชราภาพมาแล้วเหลือน้อยกว่า 10 เดือน
ทายาทได้รับเงินบำเหน็จ = เงินบำนาญชราภาพที่ได้รับเดือนสุดท้ายก่อนเสียชีวิต x 10 เท่า
สำหรับกรณีเสียชีวิตในที่ทำงาน (อันเกิดจากการทำงาน) สิทธิประโยชน์/เงินทดแทนที่ลูกจ้างมักได้รับจากบริษัท คือ
1. ค่ารักษาพยาบาล
หากลูกจ้างได้รับการรักษาพยาบาลก่อนเสียชีวิต ซึ่งมีสาเหตุมาจากการทำงาน นายจ้างมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามกฎหมาย
2. เงินค่าทำศพ
ตามกฎหมายระบุว่านายจ้างจะต้องจ่ายค่าทำศพให้กับผู้ที่จัดการศพของลูกจ้างในอัตรา 100 เท่าของอัตราสูงสุดของค่าจ้างขั้นต่ำ เช่น ในบางบริษัทที่ลูกจ้างเสียชีวิตโดยเกิดจากการทำงาน จะได้รับเงินช่วยเหลือจากบริษัทราว 100,000 บาท พร้อมกับพวงหรีด เป็นต้น
นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่การเสียชีวิตเท่านั้น แต่หาก “ได้รับบาดเจ็บ/เจ็บป่วย/ทุพพลภาพ/สูญเสียอวัยวะจากการทำงาน” ก็สามารถรับเงินทดแทนจากกองทุนเงินทดแทน ซึ่งครอบคลุมทั้งจ่ายค่ารักษาพยาบาล (ตามยอดจริง) ไม่เกิน 65,000 บาท, กรณีบาดเจ็บรุนแรง หรือเรื้อรังที่รักษาที่โรงพยาบาลรัฐ ขอจ่ายเพิ่มได้จนสิ้นสุดการรักษา แต่หากเป็นโรงพยาบาลเอกชน ขอจ่ายเพิ่มได้ไม่เกิน 1,000,000 บาท
ตามกฎหมายแล้ว เมื่อลูกจ้างเจ็บป่วย นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างได้รับการรักษาพยาบาลทันทีได้ทั้งสถานพยาบาลภาครัฐ และเอกชน โดยแบ่งเป็น 2 กรณี ได้แก่
1. นายจ้างสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ก่อน
2. กรณีเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลในความตกลงของกองทุนเงินทดแทน ให้นายจ้างส่งแบบ กท.44 โดยนายจ้างและลูกจ้างไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาล ซึ่งจะเรียกเก็บจากกองทุนเงินทดแทนภายในวงเงินที่กำหนด
สุดท้ายนี้ แม้การทุ่มเทให้กับหน้าที่การงานจะเป็นเรื่องที่ดี แต่สุขภาพของเราก็เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แต่เราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าในวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับชีวิตและการทำงานของเรา ดังนั้น การรู้เรื่องสิทธิที่เราควรจะได้รับไว้ก่อนจึงดีกว่า เพื่อวางแผนให้คนที่อยู่ข้างหลังเราสบาย ไม่ต้องแบกค่าใช้จ่ายหนักเกินไปหลังจากไม่มีเรา
ที่มา: กรมแรงงาน สำนักงานประกันสังคม [1] [2], ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney