
อัตราการว่างงานสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มจบปริญญาตรี มีผู้ว่างงาน 18.9% จากข้อมูล สศช.
เหมือนว่าวิธีเอาตัวรอดในยุคนี้ ไม่ได้อยู่ที่การ “ประหยัดให้สุด” อีกต่อไป แต่คือการ “หาเงินเพิ่ม” ควบคู่กับ “ลดหนี้เสี่ยง” ให้เร็วที่สุดด้วย เพราะหลายปัจจัยกำลังกดดันรายได้ของคนไทย จนเกิดช่องว่างระหว่างรายได้ และ รายจ่ายกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากเทรนด์ ลดคน - ลดชั่วโมงทำงาน ในภาคธุรกิจไทยเริ่มเด่นชัดจากภาวะเศรษฐกิจที่โตต่ำต่อเนื่อง อัตราการว่างงานในระบบประกันสังคม ม.33 และ ม.39 สูงขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2568 โดยเฉพาะกลุ่มอายุน้อยที่จบปริญญาตรีขึ้นไป ซึ่งมีสัดส่วนว่างงานพุ่งขึ้น มาอยู่ที่ 18.9%
ข้อมูลจาก สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ล่าสุด ยังสะท้อนภาพเดียวกัน ว่าปัจจุบันมีผู้ว่างงานสูงถึง 310,000 คน
ขณะที่ค่าจ้างเฉลี่ยของอาชีพอิสระในไตรมาส 3/2568 ลดลงถึง 2.9% ส่งผลให้ค่าจ้างแรงงานโดยรวมลดลง และยิ่งบีบความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชน
สอดคล้องกับรายงานของ SCB EIC (ธนาคารไทยพาณิชย์) ในหัวข้อ “ซื้อง่าย จ่ายไหวไหม?” ที่สะท้อนปัญหา รายได้ลด - รายจ่ายสูง และภาระหนี้ที่หนักขึ้นของคนไทยอย่างชัดเจน
จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,631 คน พบว่า รายได้เฉลี่ยครัวเรือนช่วงครึ่งแรกปี 2568 ลดลงจาก 29,502 บาท/เดือน (ปี 2566) เหลือ 28,151 บาท/เดือน
รายได้ที่ลดลง ทำให้แม้กลุ่มรายได้ปานกลาง - สูง ซึ่งส่วนใหญ่ยังชำระหนี้ได้ปกติ เริ่มมีความกังวลเรื่องภาระหนี้เพิ่มขึ้น และขยับเข้าใกล้ “กลุ่มเสี่ยงผิดนัดชำระ” มากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกดดันต่อการบริโภคในช่วงต่อไป
ในขณะที่กลุ่มรายได้น้อยเผชิญปัญหารุนแรงกว่า ทั้งเข้าไม่ถึงสินเชื่อ และ เข้าถึงมาตรการช่วยแก้หนี้ได้น้อยกว่า เนื่องจาก “ไม่เข้าเงื่อนไข”ตัวเลขชี้ชัดว่า
ผู้ที่เข้าถึงสินเชื่อยากเหล่านี้ ส่วนใหญ่ยังเข้าไม่ถึงมาตรการช่วยเหลือจากรัฐหรือสถาบันการเงิน เพราะ ไม่เข้าเกณฑ์, ขั้นตอนซับซ้อน หรือไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร
ในระยะปานกลาง SCB EIC ประเมินว่า 1 ใน 3 ของครัวเรือนไทยที่มีหนี้ จะยังหลุดพ้นจากปัญหา “รายได้ไม่พอรายจ่าย” ไม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่
จะเห็นได้ว่า ปัญหาเหล่านี้ยิ่งชัดเจนขึ้นในบริบทเศรษฐกิจไทยปัจจุบัน หนี้ครัวเรือนสูงแก้ยาก, เศรษฐกิจโตช้า, รายได้เพิ่มไม่ทันรายจ่าย และ “หนี้นอกระบบ” ที่ยังไม่มีแนวโน้มถูกจัดการจริงจัง
ทำให้โจทย์ใหญ่ของรัฐบาล คือ การออกแบบมาตรการช่วยเหลือที่ ตรงจุดและเข้าถึงง่ายขึ้น เช่น
ขณะเดียวกัน ในฝั่งลูกหนี้เองก็ต้อง “เปลี่ยนพฤติกรรมการเงิน” ควบคู่กัน ไม่ว่าจะเป็น
ทั้งหมด เพื่อให้ครัวเรือนสามารถ “ฟื้นตัว” ได้จริงในสภาวะที่รายได้ยังไม่กลับมา และค่าครองชีพยังปรับขึ้นต่อเนื่อง
ที่มา : สภาพัฒน์ , SCB EIC ,กระทรวงแรงงาน
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https:// www.facebook.com/ThairathMoney