
อัตราการปฏิเสธสินเชื่อบ้านสูงถึง 70% สำหรับบ้านราคา 1-2 ล้านบาท
สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยของไทย กำลังเผชิญกับภาวะวิกฤติที่หนักหน่วงที่สุดในรอบสองทศวรรษ จาก อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) ที่พุ่งสูงขึ้น ได้กลายเป็นปัจจัยบีบคั้นสำคัญที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เข้าสู่ภาวะ "ต่ำที่สุด" ในรอบ 20 ปี
ท่ามกลางปัญหาทางเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนที่ท่วมท้น ผู้ประกอบการถึงกับต้องเผชิญกับเรื่องที่น่าตกใจ เมื่อพบว่า แม้แต่ "ดารา" ที่มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านบาท เดินดูบ้านมาแล้วกว่า 8 โครงการ กลับยังไม่สามารถขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านได้!
“สุนทร สถาพร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด ได้แชร์ข้อมูลในงานสัมนา “ถอดรหัสฟื้นตลาดอสังหาฯ 2026” โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่สะท้อนความเข้มงวดของธนาคารอย่างชัดเจน ซึ่งระบุว่า ปัจจุบันยอด Reject Rate (ธนาคารปฎิเสธสินเชื่อ) สำหรับบ้าน/คอนโดฯ ระดับราคา 1-2 ล้านบาท พุ่งสูงถึง 70% ส่วนตลาดอื่นๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 40%
พร้อมแชร์ว่า กรณี ดารา - นักแสดง ที่รายได้สูงถึงเดือนละ 1 ล้านบาท แต่กลับกู้ไม่ผ่านนั้น มาจากความเข้มงวดของธนาคารในการประเมิน "ความสม่ำเสมอของรายได้" โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระ (Freelancer) ที่ไม่มีสลิปเงินเดือน มักถูกประเมินความมั่นคงต่ำกว่าพนักงานประจำ ทำให้ต้องเตรียมเอกสารยืนยันสถานะทางการเงินและหลักฐานการเสียภาษีที่ชัดเจนอย่างยิ่ง และมีโอกาสถูกปฏิเสธสูง
สถานการณ์การปฏิเสธสินเชื่อในอัตราที่สูงนี้ สะท้อนถึงความเปราะบางของกำลังซื้อกลุ่มชนชั้นกลางและผู้มีรายได้ปานกลาง ที่มีรายได้ประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในการซื้อที่อยู่อาศัย
สำหรับแรงผลักดันหลักที่ทำให้ธนาคารต้องใช้เกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด Thairath Money เจาะข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า มาจากระดับหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยที่สูงถึง 90% ของ GDP ซึ่งสร้างความเปราะบางต่อเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ ซึ่งปัญหาด้านความสามารถในการชำระหนี้ (Ability to Pay Failures) แบ่งออกเป็น 3 ประเด็นหลัก
ขณที่ “อิสระ บุญยัง” ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ฯ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลภาพรวมที่น่ากังวล โดยชี้ว่าตลาดอสังหาฯ ขณะนี้อยู่ในภาวะ “ต่ำที่สุด” ในรอบ 20 ปี ทั้งในแง่ของยอดเปิดตัวโครงการใหม่, การโอนกรรมสิทธิ์, และยอดขอสินเชื่อใหม่ เรียกว่า "แย่กว่าช่วงน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 และช่วงโควิด ปี 2564"
ทั้งนี้ “อิสระ” ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา Reject Rate ที่สูง โดยเรียกร้องให้ ธปท. และธนาคารพาณิชย์ร่วมมือกัน
ข้อเสนอ "ซื้อบ้านแก้หนี้"
พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า การรับมือกับอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัยจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารพาณิชย์ด้วย ขณะที่รัฐบาล กระตุ้นตลาดได้ ด้วยการขยายมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน ค่าจดจํานอง และ สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยตํ่าผ่านธนาคารของรัฐ รวมไปถึงการกําหนดมาตรการคํ้าประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยร่วมด้วย
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https:// www.facebook.com/ThairathMoney