รู้ก่อนโอน! เปิดทริกโกงบัตรคอนฯ ของเหล่ามิจฉาชีพ พร้อมวิธีแก้ไขเมื่อถูกหลอก

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

รู้ก่อนโอน! เปิดทริกโกงบัตรคอนฯ ของเหล่ามิจฉาชีพ พร้อมวิธีแก้ไขเมื่อถูกหลอก

Date Time: 27 ต.ค. 2568 16:08 น.

Video

อย่ากลัว! วิกฤติใหญ่ยังไม่เกิด หาโอกาสลงทุน กับ กวี ชูกิจเกษม | Thairath Money Night Stand EP.21

Summary

Thairath Money เปิดทริคมิจฉาชีพตีเนียนเป็นเพื่อนร่วมด้อม หลอกขายบัตรคอนเสิร์ต พร้อมแนะ 3 ทริครู้ทัน-ป้องกันกลโกง ไม่ให้เราต้องเสียทั้งเงินและความรู้สึกไปแบบฟรี ๆ ก่อนเจอศิลปินที่รัก

อยากกดบัตรคอนเสิร์ต ต้องลุ้นว่าจะโดนโกงไหม?

จะไปคอนเสิร์ตสักครั้ง ไม่ง่ายเลยเพราะเหล่าแฟนคลับต้องเจอกับ ‘ราคาบัตรคอนเสิร์ต’ ที่พุ่งสูงจนแทบเอื้อมไม่ไหว ต้องฝ่าฟันเหล่าคนที่กดบัตรหลักพันมาขายอัปเป็นหลักหมื่น แถมยังต้องคอยระวังมิจฉาชีพที่พร้อมจะโกงเงินเราอีกด้วย

จากมิตรร่วมด้อม สู่มิจฉาชีพ เราจะรับมือได้ยังไง?

การโกงเงินในโลกออนไลน์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงการกดบัตรคอนเสิร์ต แม้ว่านี่จะเป็นสงครามระหว่างแฟนคลับ แต่มิจฉาชีพก็ฉวยโอกาสนี้มาสร้างเรื่องให้แฟนคลับ ทั้งมาตีเนียนเป็นเพื่อนร่วมด้อมหรือร้านกดบัตรเพื่อมาโกงเรา

แฟน ๆ ของหลายด้อมที่มีอีเวนต์หรือคอนเสิร์ตช่วงนี้ต้องเจอกับมิจฉาชีพอย่างหนัก ไม่ว่าจะด้อม BlackPink, ด้อม PLAVE หรือด้อมเขมจิราต้องรอด เนื่องจากแฟนคลับบางส่วนที่กดบัตรไม่ทันต้องหาวิธีซื้อบัตรต่อ จนหลายคนที่พลาดโดนโกงเงินไป ว่าแต่มิจฉาชีพออนไลน์กลุ่มนี้ใช้เทคนิคอะไรกันบ้าง

  • หลอกว่ามีบัตรที่กดมาเกิน: มีมิจฉาชีพที่ปั้นแอคเคานต์ให้เหมือนเป็นแฟนคลับด้อมเดียวกัน ก่อนจะโพสต์หลอกว่ามีบัตรที่เกินมา หรือไม่สะดวกไปแล้วและจะขายต่อ ถ้าเผลอโอนเงินให้ก็กลายเป็นเหยื่อไป
  • ตีเนียนเป็นเจ้าของบัตร: มิจฉาชีพไม่ได้มีบัตรคอนฯ อยู่ในมือ แต่ไปหลอกเอาข้อมูลจากคนที่อยากขายบัตรจริงมาหลอกผู้เสียหายต่อ เช่น รูปบัตรประชาชน, รูปบัตรคอนเสิร์ต เป็นต้น
  • ทำทีว่าอยู่ต่างจังหวัดเพื่อให้นัดรับยาก: ลองสังเกตดูว่าคนที่ขายบัตรพยายามหลีกเลี่ยงการนัดรับบัตรหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่มิจฉาชีพมักจะใช้ทริค “ผมอยู่ไกล เดินทางลำบาก” หรือ “ไม่สะดวกนัดรับค่ะ” เพื่อให้เราโอนเงินไปให้อย่างเดียว
  • หลอกให้จ่ายมัดจำก่อน: เป็นอีกทริกที่มิจฉาชีพใช้โดยหลอกให้โอนมัดจำก่อนครึ่งหนึ่งและนัดรับตามสถานที่ต่าง ๆ เช่นหน้างาน ก่อนจะหนีหายไปพร้อมกับเงินมัดจำที่เหยื่อโอนไป
  • เร่งให้เรารีบซื้อก่อนบัตรหมด: ฉวยโอกาสจากความชอบของแฟนคลับ อัปราคาบัตรและเร่งให้เรารีบซื้อ-รีบโอน โดยโกหกว่ามีหลายคนสนใจเพื่อให้เรารู้สึกว่านี่คือโอกาสที่ต้องรีบคว้าไว้เพื่อจะได้ไปดูคอนเสิร์ตศิลปินในดวงใจ

แต่หลังจากที่เราโอนเงินไปแล้ว มิจฉาชีพจะยังไม่หนีหายไปไหน เพราะพวกเขาจะตีเนียนชวนคุยเหมือนเป็นเพื่อนด้อมเดียวกัน ชอบศิลปินคนเดียวกันเพื่อผูกมิตร และมักจะนัดรับบัตรในวันงาน เพื่อให้เรารู้ตัวได้ช้าที่สุด

3 เช็กให้รอดพ้นมิจฉาชีพ

ทริกโกงของมิจฉาชีพนั้นยังมีมากมาย อาจทำให้หลายคนระแวงการซื้อบัตรคอนฯ แล้วแบบนี้เราจะมีวิธีสังเกตเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอกได้ยังไงบ้าง?

  • เช็กก่อนโอน: อย่าเชื่อแค่รูปที่เจ้าของบัตรส่งมา ต้องขอหลักฐานยืนยันตัวตน เช่น รูปถ่ายคู่บัตรในท่าที่กำหนด และนำชื่อ/เลขบัญชีไปเช็กประวัติโกงในเว็บไซต์ blacklistseller.com หรือโซเชียลก่อนโอนเงิน
  • เช็กบัตรคอนฯ ให้เป็น: ศึกษารูปแบบ/จุดสังเกตของบัตรจริงเอาไว้ก่อน และดูว่าเลขที่นั่งซ้ำกับที่คนอื่นโพสต์ขายหรือไม่ เพื่อป้องกันบัตรปลอมหรือการแอบอ้างรูปคนอื่นมาขาย เช่น ตรวจ QR barcode บนบัตรด้วยแอปฯ QR scanner หรือจะนำไปสแกน barcode ที่หน้าประตูทางเข้าหน้างานแสดงเพื่อความชัวร์ก็ได้
  • นัดรับก่อนจ่ายเงิน ชัวร์สุด: แม้จะดูยุ่งยาก แต่นี่คือวิธีที่ปลอดภัยที่สุด คือได้เห็นบัตรจริงกับมือก่อนจ่ายเงิน ถ้าคนขายบริสุทธิ์ใจจริง การนัดรับคือวิธีที่แฟร์และสบายใจทั้งสองฝ่าย

ถ้าโดนโกงไปแล้ว ทำยังไงดี?

เมื่อมิจฉาชีพตัวร้ายที่ได้เงินเราไปแล้วจะหายตัวไป แต่ร่องรอยการโกงยังคงอยู่ เราควรไปแจ้งความให้เร็วที่สุด เพื่ออายัดเงินที่เราโอนไปได้ทันเวลา หนึ่งในวิธีแจ้งความที่เร็วที่สุดคือ โทรหาสายด่วนตำรวจไซเบอร์ 1441 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งความผ่านเว็บไซต์ https://thaipoliceonline.com/ ก็ได้ แต่ต้องทำภายในเวลา 3 เดือนนับตั้งแต่ที่รู้ว่าโดนโกง ถ้าใครยังกังวลสามารถโทรปรึกษาและขอแนะนำได้ที่เบอร์ 081-866-3000

หากใครมีแอปพลิเคชันทางรัฐ ก็สามารถติดต่อได้ทั้งธนาคารและแจ้งความออนไลน์ หรือถ้าใครสะดวกสามารถไปแจ้งความที่สถานีตำรวจได้เลย เช่น ถูกหลอก โอนเงินตอนอยู่ที่ไหน ก็เข้าแจ้งความในพื้นที่ได้เลย ไม่ว่าจะแจ้งความในช่องทางไหน เราต้องรวบรวมหลักฐานและเอกสารต่างๆ ได้แก่

  • เอกสารบัตรประชาชนของผู้เสียหาย/คนแจ้งความ
  • หลักฐานเกี่ยวกับมิจฉาชีพ เช่น เพจหรือโพสต์ที่ขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, IG หรือ X, ข้อมูลผู้ขาย (ถ้ามี)
  • หลักฐานการโอนเงิน เช่น สลิปโอนเงิน, Statement (รายการเดินบัญชี)
  • หลักฐานในการติดต่อซื้อขายสินค้า เช่น ข้อความแชท
  • หลักฐานอื่น ๆ

หลังจากแจ้งความออนไลน์ และติดต่อธนาคารแล้ว (ตรงนี้บัญชีมิจฉาชีพที่เราโอนเงินไปจะถูกอายัด 72 ชม.) สิ่งที่เราต้องได้มาคือ ธนาคารจะออก BANK CASE ID เพื่อนำไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในท้องที่ ทางตำรวจจะออกเอกสารให้เราไปยื่นกับธนาคารอีกครั้งเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด และอายัดบัญชีปลายทางที่เราโอนเงินได้นานยิ่งขึ้น

แม้จะเสียเงิน และเสียเวลา แต่การป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพไปทำผิดต่อไป อาจเป็นอีกทางที่ช่วยลดอาชญากรรมกลุ่มนี้ลง

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ “การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ