LINE BK มีลูกค้าสินเชื่อ 8.5 แสนรายใน 5 ปี ใช้ข้อมูลพฤติกรรมคุมเสี่ยง หวังเพิ่มยอดอนุมัติจาก 10%

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

LINE BK มีลูกค้าสินเชื่อ 8.5 แสนรายใน 5 ปี ใช้ข้อมูลพฤติกรรมคุมเสี่ยง หวังเพิ่มยอดอนุมัติจาก 10%

Date Time: 17 ต.ค. 2568 11:15 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

ภายใน 5 ปี หลัง LINE BK รุกตลาดสินเชื่อผ่านแอปฯ มีลูกค้าสินเชื่อ 8.5 แสนราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาชีพอิสระ ล่าสุดเร่งใช้ “ข้อมูลพฤติกรรม” คุมความเสี่ยง หวังเพิ่มยอดอนุมัติจาก 10%

“เศรษฐกิจไม่ดี ธนาคารเลยไม่อยากปล่อยกู้”

หลายคนอาจมองว่านี่คือเรื่องจริง ซึ่งเบื้องหลังของคำนี้คือ เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี รายได้คนลดลง ความสามารถในการชำระหนี้ก็ต่ำลงจนทำให้ธนาคารก็กังวลมากขึ้นว่า ถ้าปล่อยสินเชื่อให้ไปแล้วจะกลายเป็นหนี้เสียหรือเปล่า

แต่ปัญหานี้อาจลึกกว่าที่คิด เพราะคนไทยส่วนใหญ่ยังขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินยากนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไม่มีเอกสารทางการเงินที่ยืนยันว่ามีรายได้สม่ำเสมอ, พ่อค้าแม่ค้าบางคนใช้เงินสด ไม่มี Statement, รายได้ไม่แน่นอน เป็นต้น กลับมาที่ปัญหาเดิมคือฝั่งธนาคาร เมื่อไม่มีข้อมูลรอบด้านพอก็ไม่กล้าให้สินเชื่อกับคนกลุ่มนี้ เรียกว่าถ้าเดินมาสมัครสินเชื่อสัก 10 คน จะผ่านการอนุมัติน้อยมากๆ

เหล่าลูกค้าที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงินเหล่านี้ จะถูกเรียกว่ากลุ่ม Underserved และกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจการเงินที่ต่างจากธนาคารแบบดั้งเดิม เช่น บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด หรือ LINE BK ที่ทำธุรกิจนี้มานานกว่า 5 ปี (เกิดจากความร่วมมือของ LINE Corporation และธนาคารกสิกรไทย)

“ธนา โพธิกำจร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE BK เล่าว่า ปัจจุบันมีลูกค้ารวม 8 ล้านคน มีลูกค้าส่วนสินเชื่อ 855,000 คน (สินเชื่อเฉลี่ยรายละ 43,000 บาท) ช่วงรายได้อยู่ที่ 15,000-30,000 บาท/เดือน ส่วนใหญ่ราว 47% เป็นกลุ่มอาชีพอิสระ ซึ่งตรงกับเป้าหมายของบริษัทฯ แต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันมียอดอนุมัติสินเชื่อที่ 10% ซึ่งทำให้สามารถคุมหนี้เสียไว้ที่ 3%

สาเหตุที่แม้จะมีคนสมัครมา 100 แต่มีคนผ่านการอนุมัติจนขอสินเชื่อได้ 10% ก็เพราะหลายคนมีความเสี่ยงสูง ไม่มีข้อมูลรายได้ที่ชัดเจน มีหนี้อยู่ในระดับสูงในหลายสถาบันการเงิน หรือมีพฤติกรรมการเงินที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น

แต่ LINE BK เชื่อว่าใน 90% ของคนที่กู้ไม่ผ่านยังมีคนที่เข้าเกณฑ์ขอสินเชื่อได้ ดังนั้นจะเร่งใช้ข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) มาช่วยคัดกรองให้ คนที่อาจไม่มีเอกสารทางการเงินครบถ้วน แต่ผ่านเกณฑ์สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น 

ตัวอย่างของ Alternative Data เช่น ข้อมูลพฤติกรรมในการแชท, ค่าน้ำค่าไฟว่าจ่ายตรงเวลาไหม และอื่นๆ ซึ่งทีมเทคโนโลยีหลังบ้านจะมีหน้าที่ค้นหาว่า ข้อมูลแบบไหน พฤติกรรมแบบไหน ที่จะมาช่วยวิเคราะห์ว่าคนๆ หนึ่งมีวินัย มีความสามารถในการจ่ายหนี้คืนได้ โดยระบบเหล่านี้ยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มอัตราการอนุมัติสินเชื่อจากปัจจุบันที่ระดับ 10% ให้สูงขึ้น

ในด้านความท้าทายของคุณภาพสินเชื่อยังคงอยู่ เพราะสถานการณ์ปัจจุบันเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ต่ำลง และเริ่มขยายสู่กลุ่มรายได้ 30,000-50,000 บาท/เดือนแล้ว ดังนั้น ธุรกิจสินเชื่อยังต้องวางแผนรับมือกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

ส่วนปีหน้าหากมีผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง Virtual Bank (ธนาคารไร้สาขา) เข้ามาเจาะกลุ่มลูกค้า Underserved เหมือนกัน แต่เชื่อว่า LINE BK สามารถแข่งขันได้จากประสบการณ์ที่ทำมาตลอด และเตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ ในด้านการออมเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

สุดท้ายนี้ ผลการดำเนินงานหลังปรับแผนและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง 5 ปี ธนาคาดว่าสิ้นปี 2568 จะเริ่มมีกำไร หลังจากที่ผ่านมาลงทุนในระบบหลังบ้าน เทคโนโลยีไปค่อนข้างมากจนทำให้มีบริการการเงินที่หลากหลายตั้งแต่เปิดบัญชีเงินฝาก โอน สแกนจ่ายด้วย QR ขอสินเชื่อ หรือซื้อประกัน ทั้งหมดทำได้ใน LINE แอปเดียว โดยตั้งเป้าหมายเป็น “Everyday Financial Partner” ให้กับลูกค้าจัดการเงินได้อย่างมั่นคง


อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ