บทเรียนชีวิต “เปา iHAVECPU” สู่เจ้าของธุรกิจพันล้าน และ "ภรรยา" ผู้พร้อมเป็นหลังบ้านที่แข็งแรง

กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่สำหรับ Thairath Money Campus Tour 2025 SEASON 2 ประเดิมเวทีแรกที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กับหัวข้อทอล์กสุดพิเศษ "คนดังลงทุนดี" ซึ่งได้คู่ชีวิตนักธุรกิจพันล้านอย่าง “เปา - พีรดนย์ เหมยากร” ผู้ก่อตั้ง iHAVECPU และ “โบ - นนทพร กิตติวราภรณ์” ภรรยาและผู้ดูแลการเงินคนสำคัญ

มาเปิดเบื้องลึกเบื้องหลังเส้นทางความสำเร็จที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ จากเด็กหนุ่มที่เคยไร้เป้าหมาย สู่การสร้างอาณาจักรคอมพิวเตอร์ที่ใครๆ ก็รู้จัก ซึ่งกลายเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่จุดประกายและเป็นแรงบันดาลใจให้นักศึกษาทั้งห้องประชุม

บนเวที “เปา iHAVECPU” ได้ถ่ายทอดปรัชญาการสร้างตัวที่ไม่เหมือนใคร ด้วยความเชื่อที่ว่าทุกคนสามารถเป็น "ดาวฤกษ์" ที่มีแสงสว่างในตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีต้นทุนชีวิตที่สูงส่ง

พร้อมเผยแนวคิดการทำงานแบบ "Active Income" ที่เน้นการลงมือทำเพื่อหาเงินให้เก่งกว่าใช้เงิน สะท้อนภาพลักษณ์ของนักธุรกิจสายลุย ผู้พร้อมเสี่ยงและทุ่มเททุกอย่างเพื่อเป้าหมาย

จุดที่น่าสนใจที่สุดของเวทีนี้ คือการปรากฏตัวของ “โบ นนทพร” ภรรยาและพาร์ทเนอร์คนสำคัญ ที่มาเผยบทบาทการเป็น "หลังบ้าน" ที่แข็งแกร่ง ผู้คอยกำกับดูแลความเสี่ยงทางการเงินทั้งหมด

เธอได้เล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่สามีทำกำไรจากตลาดฟิวเจอร์ได้หลายสิบล้านในเวลาไม่กี่วัน และความจริงที่ว่าเงินก้อนนั้นหายไปในพริบตาได้อย่างไร เรื่องราวของทั้งคู่จึงไม่ใช่แค่บทเรียนการสร้างธุรกิจ แต่คือภาพสะท้อนของการเป็นหุ้นส่วนชีวิตที่สมบูรณ์แบบ

ซึ่งฝ่ายหนึ่งเป็น "นักหา" ที่บุกตะลุยไปข้างหน้า และอีกฝ่ายเป็น "นักเก็บ" ที่คอยสร้างความมั่นคงอยู่เบื้องหลังได้อย่างลงตัว

จากจุดเปลี่ยนชีวิต สู่การสร้างตัวตน

จากชีวิตเด็กหนุ่มที่ไร้เป้าหมาย สู่การเป็นเจ้าของอาณาจักรคอมพิวเตอร์พันล้าน เรื่องราวของ เปา - พีรดนย์ เหมยากร ผู้ก่อตั้ง iHAVECPU และภรรยาคู่ชีวิต โบ - นนทพร กิตติวราภรณ์ ที่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จ คือบทพิสูจน์ว่าการสร้างตัวไม่ได้ขึ้นอยู่กับต้นทุนทางสังคม แต่เริ่มจากพลังของตัวเอง และการมีคู่คิดที่พร้อมจะเติมเต็มในส่วนที่ขาดหาย

เปา พีรดนย์ เล่าว่า ในช่วงวัยมหาวิทยาลัย ได้ใช้ชีวิตเต็มที่เหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญมาถึงตอนอายุ 25 ปี คือความรู้สึกที่ไม่อยากขอเงินพ่อแม่ ทำให้ตั้งปณิธานว่าต้องหาเงินเลี้ยงตัวเองให้รอดให้ได้

ตอนนั้นไม่ได้คิดไกลถึงการเป็นเศรษฐีร้อยล้านพันล้าน เพียงแค่อยากมีชีวิตรอด ไม่เป็นภาระให้ครอบครัวก็พอ หลังจากลองผิดลองถูก จนกลับไปช่วยธุรกิจโรงสีที่บ้านแล้วเจ๊ง ก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับการซื้อขายและประกอบคอมพิวเตอร์ นั่นคือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของ iHAVECPU

เขาเชื่อเสมอว่าทุกอย่างต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน เราต้องสร้างตัวเองให้เป็นเหมือน "ดาวฤกษ์" ที่มีแสงสว่างในตัวเอง ไม่ต้องรอพึ่งพาแสงจากใคร เมื่อเราสร้างคุณค่าและพัฒนาตัวเองจนเก่งจริง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะมีคนเห็นค่าและวิ่งเข้ามาหาเอง

เขาเล่าว่าสำหรับเด็กรุ่นใหม่ การแข่งขันจะสูงขึ้นมากในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาท อย่างไรก็ดี มองว่าควรใช้ AI เป็นแค่เครื่องมือเสริม ไม่ใช่แกนหลักในการทำงาน เพราะ AI ให้ได้แค่ข้อมูล แต่ให้ "ความรู้สึก" แบบที่มนุษย์คิดเองไม่ได้

การจะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีความแตกต่าง หาจุดเด่นของตัวเองให้เจอ และทุ่มเทกับมันจนเป็นผู้เชี่ยวชาญ เขายอมรับว่าตัวเขาเองไม่ได้เก่งทุกเรื่อง แต่ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการเรียนรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ จนสามารถพูดเรื่องสเปคและราคาได้ทันที

"จงทำในสิ่งที่ชอบ ถ้าสิ่งนั้นหาเงินได้ แต่ถ้ามันหาเงินไม่ได้ จงทำในสิ่งที่ไม่ชอบเพื่อหาเงิน แล้วเอาเงินนั้นไปใช้ในสิ่งที่ชอบ" นี่คือหลักการของ เปา iHAVECPU เขาเล่าว่าเขาเป็นคนใช้เงินเก่งและไม่เคยประหยัด แต่มีกฎคือ "ต้องหาเงินให้ได้มากกว่าที่ใช้"

นอกจากนี้ ยังไม่เชื่อว่าการประหยัดจะทำให้รวย แต่เชื่อในการเพิ่ม Active Income หรือการลงมือทำงานหาเงิน เพราะมันสนุกและสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าการรอ Passive Income สำหรับผมแล้ว การลงมือทำคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

เบื้องหลังการเงินสุดเสี่ยง และ "หลังบ้าน" ที่แข็งแกร่ง

เพื่อที่จะมีเงินมาลงทุนได้นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ "ต้องมีเงินจากการหาเงินก่อน"

เปา พีรดนย์ ยอมรับว่าตนเองไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้เลยหากขาดคู่ชีวิตที่ดี โดยย้ำว่าการเลือกคู่ชีวิตนั้นมีความสำคัญมาก ซึ่งในการทำธุรกิจนั้น เปาจะรับบทบาทเป็น "หน้าบ้าน" ในการไลฟ์สดหรือการทำคอนเทนต์ต่างๆ

ส่วนหลังบ้านนั้นจะต้องแข็งแรง โดยมี โบ - นนทพร กิตติวราภรณ์ ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเรื่องการเงินทุกอย่างของ iHAVECPU เขาเผยว่าเขามีหน้าที่เพียงแค่การหาเงินเท่านั้น

โบ นนทพร ในฐานะผู้ดูแลการเงิน เล่าว่า เธอเป็นคนจัดการ "ลงทุนให้" โดยมีการลงทุนหลายรูปแบบ เช่น กองทุน, หุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, ทองคำ, และ Bitcoin อย่างไรก็ตาม โบยอมรับว่าสามีของเธอมีนิสัย "สุดเหวี่ยง" และมีแนวโน้มความเสี่ยงสูง ซึ่งการลงทุนของเปาเองก็เคยถูกเรียกว่าเป็นลักษณะของการพนัน คุณโบจึงต้องมีหลักการบริหารจัดการที่เข้มงวด

เปา พีรดนย์ ได้เล่าถึงประสบการณ์การลงทุนในตลาดฟิวเจอร์ในครั้งหนึ่ง โดยใช้เงิน 4 ล้านบาท และสามารถทำกำไรจนมีเงินรวมมากกว่า 20 ล้านบาท ภายใน 7 วัน โบซึ่งรับรู้เรื่องนี้ จึงได้บอกให้รีบถอนเงินทุนออกมา

และหลังจากการถอนทุนออกไปแล้ว เงินที่เหลือ 16 ล้านบาท ก็ขาดทุนทั้งหมดภายในวันเดียว จึงเป็นที่มาของข้อคิดสำหรับผู้ที่คิดจะลงทุนว่า “ควรรู้จักตัวเองก่อน" เพราะเปาเป็นคนเสี่ยงสูง ขณะที่เธอเป็นคนรับความเสี่ยงต่ำ

โฟกัสที่ปัจจุบัน เพราะมันคือตัวกำหนดอนาคต

เปา iHAVECPU ฝากถึงคนรุ่นใหม่ว่า หากย้อนเวลากลับไปได้จะตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้ เพราะการเรียนสอนให้เรามีความรับผิดชอบ มีวินัย และรู้จักการแก้ปัญหา ตอนนี้หน้าที่ของน้องๆ คือการเรียน ก็ขอให้ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด เพราะมันคือการลงทุนกับตัวเองที่ดีที่สุด

สุดท้ายนี้ อยากให้ทุกคนจำไว้ว่า อดีตเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนแปลงอนาคตได้ด้วยการทำปัจจุบันให้ดีที่สุด วินาทีต่อไปนี้จะกำหนดชีวิตข้างหน้า

จงภูมิใจในตัวเอง อย่าเอาชีวิตไปเปรียบเทียบกับใคร แต่ให้เปรียบเทียบกับตัวเองในเมื่อวาน ว่าวันนี้เราทำได้ดีกว่าเดิมแล้วหรือยัง ความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แค่มีความสุขกับสิ่งที่เป็นและภูมิใจในตัวเอง นั่นก็คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้ว

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney