
ยุคที่คำว่า “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” ไม่ได้แปลว่า “เป็นหนี้” อีกต่อไป
แต่แปลว่า “ฉันแค่เลือกผ่อน”
นี่คือจุดเริ่มต้นของ “สงครามใหม่ในกระเป๋าเงิน” ระหว่าง บัตรเครดิต เครื่องมือการเงินยุคเก่า ที่ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความน่าเชื่อถือ กับ BNPL (Buy Now, Pay Later) หรือ บริการสินเชื่อ ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง ในยุคดิจิทัล ที่เข้าถึงง่ายจนแทบไม่ต้องมีรายได้ประจำ
รายงานอุตสาหกรรมบัตรเครดิตของ วิจัยกรุงศรีฯ สะท้อนภาพที่น่าคิด ว่า แม้ปี 2567 มูลค่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ในไทยยังคงเติบโตได้ราว 6.4% แต่แรงขับเคลื่อนส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากลูกค้าใหม่อีกต่อไป เพราะฐานผู้ใช้บัตรเริ่มอิ่มตัว และธนาคารต้องคุมเข้มในการปล่อยวงเงิน เพราะหนี้เสีย (NPL) ของบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นมาแตะ 2.62% สูงกว่าปีก่อนหน้า
ขณะล่าสุด ประเมินว่า ปี 2568 ตลาดจะโตเพียง 2-3% ซึ่งถือว่าชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดภายใต้ การออกบัตรใหม่ลดลงต่อเนื่อง และผู้ให้บริการเริ่มปิดบัตรที่ไม่ถูกใช้งาน จนอาจกล่าวได้ว่า บัตรเครดิต เริ่มสูญเสียเสน่ห์ในหมู่คนรุ่นใหม่ เพราะเงื่อนไขเข้มงวด รายได้ขั้นต่ำสูง และต้องผ่านขั้นตอนยาวนาน ทำให้ในสายตา Gen Z ที่เติบโตมากับโลกแอปพลิเคชัน “การขออนุมัติผ่านพนักงานธนาคาร” ดูเป็นเรื่องโบราณไปแล้ว
ตรงกันข้ามกับบัตรเครดิต การเกิดขึ้นของ บริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” หรือ Buy Now Pay Later (BNPL) ที่กลายเป็น “สินเชื่อยุคแอป” โดยที่ไม่ต้องใช้บัตร ไม่ต้องมีเครดิตบูโรดี แค่คลิกในแอป Shopee, Lazada, Atome หรือ LINE Pay ก็ซื้อของได้ทันที แล้วค่อยจ่ายทีหลัง
โดยข้อมูลจาก สภาพัฒน์ฯ ระบุว่า แม้ BNPL คือ เทรนด์ใหม่ของการเข้าถึงสินเชื่อ ที่ช่วยให้คนมีรายได้น้อยหรือไม่มีประวัติทางการเงิน สามารถเข้าถึงระบบการเงินได้ง่ายขึ้นจริง แต่ในอีกด้านหนึ่ง มันกำลังสร้างความเสี่ยงใหม่ เมื่อการซื้อของเพียงปลายนิ้วไม่รู้สึกเหมือนเป็นหนี้
ผู้บริโภคจึงเริ่ม “ช้อปด้วยอารมณ์ มากกว่าความจำเป็น” และเมื่อถึงเวลาชำระ กลับพบว่ามีหลายรายการรออยู่พร้อมกัน จนกลายเป็นหนี้ซ้อน
พฤติกรรมใหม่ที่สวยงามในระยะสั้น กำลังกลายเป็นความเปราะบางในระยะยาว เพราะข้อมูลสำรวจของสภาพัฒน์ฯ ยังเผยให้เห็นว่า กว่า ครึ่งหนึ่งของคน Gen Z ที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท ใช้บริการ BNPL แล้วส่วนใหญ่ใช้กับสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ
ที่น่ากังวล คือ...
พฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนวัฒนธรรมการเงินแบบใหม่ ที่ผสมระหว่าง “การเข้าถึง” และ “การตามใจตัวเอง” แต่เมื่อพฤติกรรมนี้ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ โดยขาดกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจนBNPL อาจกลายเป็นฟองสบู่ทางสินเชื่อที่เราไม่ทันรู้ตัว
หากมองในเชิงเศรษฐกิจมหภาค BNPL ไม่ต่างจาก “บัตรเครดิตเวอร์ชันดิจิทัล” ที่ไร้ระบบประเมินความเสี่ยงแบบเดิม เมื่อไม่มีการตรวจสอบรายได้ ไม่มีเครดิตสกอร์ที่ชัดเจน การปล่อยสินเชื่อแบบกระจายบนโลกออนไลน์อาจเพิ่มจำนวน “ลูกหนี้เงา” (shadow borrower) ที่ไม่ถูกนับในระบบธนาคาร
ผลลัพธ์คือ ภาระหนี้ในครัวเรือนอาจดู “นิ่ง” ในสถิติ แต่ในความจริง อาจมี “หนี้ซ่อนในแอป” ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่ธนาคารพาณิชย์เองเริ่มรู้ตัว และพยายามปรับตัวด้วยการออกผลิตภัณฑ์ “Hybrid Credit” บัตรที่สมัครง่ายขึ้น เชื่อมกับกระเป๋าเงินดิจิทัล และลดรายได้ขั้นต่ำ เพื่อรักษาฐานลูกค้าไม่ให้ไหลออกแต่คำถามใหญ่คือ… คนรุ่นใหม่ยังต้องการ “เครดิตการ์ด” อยู่ไหม ในเมื่อแอปก็ให้เครดิตได้เหมือนกัน?
อย่างไรก็ดี แม้ BNPL กำลังชนะ “ใจ” ของคนรุ่นใหม่ แต่บัตรเครดิตยังชนะ “เกม” ในแง่ระบบและความปลอดภัย เพราะแม้ BNPL จะสามารถเปิดให้คนเข้าถึงการใช้จ่ายแบบง่าย แต่บัตรเครดิตยังเป็น “ระบบสินเชื่อที่ยั่งยืนกว่า” เพราะอยู่ภายใต้กรอบควบคุมของธนาคารแห่งประเทศไทย
สงครามนี้อาจไม่จบด้วยการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหายไป แต่อาจกลายเป็น “การหลอมรวม”ที่ผู้ให้บริการต้องหาทางสมดุลระหว่าง “เข้าถึงง่าย” กับ “ไม่เสี่ยงจนเกินไป” นอกจากนี้ การแข่งขันในตลาดบัตรเครดิต ยังมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นจากผู้ให้บริการนอกระบบที่มีโครงสร้างต้นทุนต่ำและไม่มีภาระด้านสาขาหรือฟินเทค เช่น Line BK และ TrueMoney ที่เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด
โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ต้องการวงเงินยืมระยะสั้นแบบไม่ซับซ้อน (สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์) โดยผู้ให้บริการดังกล่าวใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลเครดิตแบบใหม่ (Alternative credit scoring) ที่ทำให้สามารถปล่อยสินเชื่อแก่กลุ่มที่ธนาคารพาณิชย์มองว่า “เสี่ยงเกินไป” ในระดับที่ควบคุมความเสี่ยงได้
ขณะในมุมผู้บริโภค สิ่งที่ต้องย้ำเตือน คือ เมื่อทุกอย่างผ่อนได้ภายในไม่กี่คลิก หรือ การเข้าถึงสินเชื่อที่ง่ายกว่าเก่า สิ่งที่เราต้องมีมากกว่าความสะดวก คือ “วินัยทางการเงิน” ที่ต้องสร้างขึ้นเอง และหาโหลดจากแอปไหนไม่ได้เลย.
ที่มา : วิจัยกรุงศรี , สภาพัฒน์ฯ
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney