
ย้อนไป 7-8 ปีที่แล้วคนไทยส่วนใหญ่ยังใช้เงินสดในชีวิตประจำวัน จนตู้ ATM เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ บางจุดถึงมีมีตู้ ATM หลายสีจากหลายธนาคารยังต้องต่อคิวยาวนับสิบคน ขณะที่ Pain point หลักที่คนส่วนใหญ่เจอคือ กดเงินข้ามแบงก์ หรือกดหลายครั้งต่อเดือน อาจเสียค่าธรรมเนียมแพง!
เลยเป็นที่มาของ “ตู้ ATM สีขาว” ที่เป็นเหมือนตู้ ATM กลางไม่ว่าจะเป็นลูกค้าของธนาคารไหนก็กดเงิน หรือทำธุรกรรมได้ง่ายขึ้น แนวคิดนี้มองว่าถ้าธนาคารมาแชร์ระบบหลังบ้านและตู้ ATM กันจะทำให้ต้นทุนลดลงและอาจช่วยลดค่าธรรมเนียมให้ถูกลงได้
แม้เรื่องนี้มีการคุยกันตั้งแต่ปี 2560 ในระดับสมาคมธนาคารไทย ธนาคารพาณิชย์ ไปจนถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทว่าก็ยังไม่เกิดขึ้นในวงกว้าง มาถึงตอนนี้ที่คนไทยหันใช้เงินสดน้อยลงเพราะใช้ช่องทางดิจิทัลกันแล้ว แต่เรื่อง White Label Smart Machine (WSM) หรือ ตู้ ATM สีขาว ยังถูกกลับมาพูดถึงอีกครั้ง
ล่าสุด ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เริ่มเล่าถึงประเด็นนี้ว่า ในอดีตคนไทยมีสัดส่วนการใช้เงินสดสูงกว่า 90% แต่เมื่อระบบการชำระเงินดิจิทัลขยายตัวขึ้น สัดส่วนนี้ก็ปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยปี 2564 ยังใช้เงินสดอยู่ที่ 63% ปี 2566 เหลือที่ 54% และในอนาคตช่วง 3-5 ปีข้างหน้าสัดส่วนการใช้เงินสดอาจลดลงถึง 20% จาก Digital Payment ที่มากขึ้น
จากข้อมูลนี้จะเห็นว่าเมื่อคนหันไปใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้นจน “เงินสด” อาจไม่ได้ใช้สูงเหมือนในอดีต แต่เพราะสัดส่วนที่ลดลงนี่เองอาจทำให้ต้นทุนการจัดการธนบัตรต่อหน่วยทั้งการผลิต ขนส่ง จัดเก็บ ฯลฯ ขยับสูงขึ้นตามไป เมื่อต้นทุนสูง ธุรกรรมเงินสดน้อยลง กลายเป็นคำถามที่ว่าธนาคารจะลดสาขาและตู้ ATM ลงอีกหรือไม่ในอนาคตอันใกล้
ณพงศ์ธวัช โพธิกิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธปท. เล่าว่า สำหรับประเด็นนี้มีแนวทางที่จะช่วยลดต้นทุนการจัดการเงินสด ผ่านการเพิ่มผู้เล่นหน้าใหม่ๆ ก็อาจช่วยให้ระบบมีต้นทุนที่ลดลง เช่น การออกใบอนุญาตสำหรับผู้ให้บริการที่เรียกว่า White Label Smart Machine (WSM) เป็นตู้ ATM สีขาว ที่ไม่ใช่ของแบงก์ใดแบงก์หนึ่ง เป็นโครงสร้างกลางที่ช่วยให้ธนาคารต่างๆ สามารถมาใช้ประโยชน์ได้ โดยธนาคารไม่ต้องมีต้นทุนในการจัดการธนบัตรเอง และยังมีตู้ ATM ในจุดที่ประชาชนเข้าถึงได้ทั้งนี้
ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการเตรียมเสนอต่อกระทรวงการคลังเรื่องการออกใบอนุญาต และคาดว่าช่วงต้นปีหน้า น่าจะมีผู้ประกอบการเริ่มเข้ามาขอใบอนุญาต
แม้ว่าธปท. จะเร่งเครื่องเรื่องนี้ แต่คำถามคือถ้าโมเดลตู้ ATM สีขาว น่าสนใจและสำคัญจริง ทำไมตั้งแต่ปี 2560 ที่มีความร่วมมือและการพูดคุยกันหลายรอบจนถึงวันนี้ประชาชนยังไม่ได้ใช้ในวงกว้าง Thairath Money สอบถามเรื่องนี้กับ ฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต มีความเห็นว่า ตู้ ATM สีขาว มีการหารือกันเมื่อหลายปีก่อน แต่อาจมีหลายเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน จึงไม่เห็นโมเดลนี้ในวงกว้าง
ถ้าจะกลับมาใช้จริงอาจต้องดูในรายละเอียดที่ลึกขึ้น โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี เพราะทุกวันนี้ตู้ ATM ของแต่ละธนาคารมีฟีเจอร์ และการพัฒนาที่แตกต่างกัน บางธนาคารสแกนหน้าได้ หากต้องใช้ผ่านตู้กองกลางจะทำได้แค่ไหน และอีกเรื่องสำคัญคือ ค่าธรรมเนียมจะมีแนวทางอย่างไร เพราะต้นทุนการจัดการของแต่ละธนาคารอาจต่างกันการจะเกิดจุดร่วมกันได้ ธนาคารต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย
สุดท้ายนี้ ตู้ ATM สีขาว ยังเป็นโมเดลที่น่าสนใจแม้คนไทยจะใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น แต่ถ้าต้องใช้เงินสด คนไทยทุกคนควรเข้าถึงเงินในบัญชีของตนเองได้ และไม่โดนค่าธรรมเนียมที่แพงเกินไป แต่เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้จริงไหม ใช้ในวงกว้างแค่ไหนคงต้องติดตามกัน
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney