
คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางคนเก็บเงินทั้งชีวิตยังไม่รวย ในขณะที่บางคนดูเหมือนลงทุนเพียงเล็กน้อย แต่เงินกลับงอกเงยได้เร็วกว่าที่คิด?
คำตอบมักอยู่ที่ การออมและการลงทุน แต่หลายคนยังสับสน ทำให้เลือกทำเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทำไม่ถูกจังหวะ บทความนี้ Thairath Money อยากชวนมาเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด ๆ ว่า ออมกับลงทุนต่างกันยังไง เป้าหมายของแต่ละอย่างคืออะไร และควรเริ่มตอนไหน เพื่อให้เงินของเราทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
นิยามของ “การออม” คือ การเก็บเงินส่วนหนึ่งจากรายได้ เพื่อใช้ในอนาคตหรือรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เปรียบเทียบง่าย ๆ เงินออม จะทำหน้าที่เหมือน ร่มกันฝน ที่เราอาจจะยังไม่ไม่ได้ใช้มัน แต่เมื่อฝนตกหนัก มันช่วยชีวิตเราได้
ตัวอย่าง
จุดเด่นของการออม คือ ความเสี่ยงที่ต่ำ เงินไม่หายง่าย , มีสภาพคล่องสูง เราถอนใช้ได้ทันทีเมื่อมีเหตุจำเป็นต้องใช้ ขณะเดียวกัน เงินออม นับเป็นบันได สู่การสร้างความมั่นคงขั้นแรก เพราะลดการต้องกู้หนี้ยืมสิน
การลงทุนคือการให้เงิน ทำงานแทนคุณ เพื่อให้เติบโตได้เร็วกว่าการเก็บเฉย ๆ เปรียบเทียบง่าย ๆ การลงทุนเหมือน การปลูกต้นไม้ ที่ต้องอดทนรดน้ำพรวนดิน ต้นไม้ถึงจะโตและออกผล
ตัวอย่าง
จุดเด่นของการลงทุน คือ แน่นอน เงินเติบโตเร็วกว่าเงินออม และช่วยเอาชนะเงินเฟ้อได้ ,สร้างความมั่งคั่งระยะยาว เพราะเงินทำงานต่อเนื่องตามเวลา อย่างไรก็ตาม การลงทุนนั้น ต้องรับความเสี่ยงให้ได้ เพราะมูลค่าอาจขึ้นลงได้ตลอดเวลา
ส่วนคำถามที่ว่า แล้วเราควรเริ่มออมเงิน หรือ เริ่มลงทุนเมื่อไหร่ หลักการง่าย ๆ คือ เริ่มจาก ออมก่อน แล้วค่อยลงทุน
ตัวอย่าง: หากมีรายได้ 30,000 บาท/เดือน
บทสรุปแล้ว อาจกล่าวได้ว่า การออม และ การลงทุน ต้องเดินคู่กัน โดยให้เริ่มจาการออม เพื่อป้องกันความเสี่ยง และสร้างความมั่นคง ขณะที่การลงทุน เป็นบันไดต่อยอด เพิ่มโอกาสสร้างความมั่งคั่งในชีวิตอย่างยั่งยืน
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney