"เครดิตบูโร" ทำให้กู้ไม่ผ่านจริงหรือ? ความจริงที่ต้องรู้เกี่ยวกับ"ประวัติหนี้" เรื่องที่ไม่เล่นๆ

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

"เครดิตบูโร" ทำให้กู้ไม่ผ่านจริงหรือ? ความจริงที่ต้องรู้เกี่ยวกับ"ประวัติหนี้" เรื่องที่ไม่เล่นๆ

Date Time: 19 ก.ย. 2568 13:04 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

ทำไม กู้สินเชื่อไม่ผ่าน? สรุปกรณี โอ๊ต ปราโมทย์ ติดหนี้ 18 บาท พร้อมไขข้อสงสัย เครดิตบูโร คืออะไร และ วิธีเช็คเครดิตบูโร ที่ถูกต้อง เพื่อตรวจสอบสุขภาพการเงินของคุณก่อนขอสินเชื่อ

ใครจะเชื่อว่า หนี้เพียง 18 บาท จะกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ในชีวิตได้จริง ๆ แม้แต่กับศิลปินชื่อดังอย่าง โอ๊ต ปราโมทย์ ก็ยังหนีไม่พ้น เมื่อเจ้าตัวเล่าในรายการสด หมีLIVEปะ? | EP.231 การเงินมีปัญหา หยิบสมุดกับปากกามานั่งเรียนกับพี่ ว่าช่วงปีที่ผ่านมา ตนเอง ต้องการกู้เงินเพื่อซื้อออฟฟิศใหม่ แต่กลับถูกธนาคารปฏิเสธ เพราะข้อมูลเครดิตบูโรปรากฏยอดค้างชำระเพียงหลักสิบบาท เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า ในโลกการเงิน “หนี้ไม่มีคำว่าเล็ก” 



อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนอาจยังเข้าใจคลาดเคลื่อน คือ เครดิตบูโร ไม่ได้เป็นคนปล่อยกู้หรือมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าใครจะได้สินเชื่อหรือไม่ แต่ทำหน้าที่เป็นเพียง “ถังข้อมูล” ที่เก็บบันทึกประวัติการชำระหนี้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ แล้วส่งต่อให้ธนาคารใช้ประกอบการพิจารณาเท่านั้น ส่วนผลลัพธ์สุดท้ายว่าจะอนุมัติหรือปฏิเสธ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคารเอง

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากมีหนี้เพียงเล็กน้อยอย่างหลักสิบบาท ถูกค้างชำระอยู่จริง ข้อมูลนั้นก็จะถูกส่งเข้ามาบันทึกไว้ในเครดิตบูโร และกลายเป็น “รอยด่าง” ที่อาจส่งผลต่อการกู้ยืมในอนาคตได้เหมือนกัน 

เครดิตบูโร มีหน้าที่อะไรกันแน่? 

Thairath Money ได้รับคำตอบ ยืนยันในประเด็นร้อนดังกล่าว ผ่านการสัมภาษณ์ "แหล่งข่าว" บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ว่าที่ผ่านมา คนไทยจำนวนไม่น้อยยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “เครดิตบูโร”

หลายคนคิดว่า ถ้ากู้ไม่ผ่านคือ “เครดิตบูโรไม่ปล่อยกู้” ทั้งที่ความจริงแล้ว เครดิตบูโร ไม่มีหน้าที่ปล่อยกู้ และไม่ตัดสินใจอนุมัติหรือปฏิเสธสินเชื่อ แต่เป็นเพียงหน่วยงานกลางที่เก็บรวบรวม “ข้อมูลการชำระหนี้” ของเรา จากธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ เท่านั้น ข้อมูลที่เครดิตบูโรเก็บจะถูกส่งให้สถาบันการเงินใช้เป็น “หนึ่งในปัจจัยประกอบการพิจารณา” ซึ่งจริง ๆ แล้วยังมีอีกหลายเงื่อนไข เช่น

  • นโยบายของแต่ละธนาคาร บางแห่งเข้มงวด บางแห่งผ่อนปรน
  • ภาระหนี้ที่มีอยู่ และความสามารถในการชำระหนี้
  • โอกาสผิดนัดชำระหนี้ จากพฤติกรรมการก่อหนี้ในอดีต
  • ประวัติการชำระหนี้ ที่ปรากฏในเครดิตบูโร

พูดง่าย ๆ คือ เวลาคุณไปกู้เงิน ธนาคารจะดูทั้ง “ข้อมูลในบ้านตัวเอง” (เช่น ลูกค้าเคยเป็นหนี้ที่นี่ไหม จ่ายดีหรือเปล่า) และ “ข้อมูลกลาง” จากเครดิตบูโร เพื่อประกอบการตัดสินใจ


ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ

  • ถ้าคุณมีบัตรเครดิต A ของธนาคาร X แล้วค้างชำระ 2 เดือน ธนาคาร X ย่อมรู้ข้อมูลนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อคุณไปขอกู้บ้านกับธนาคาร Y ทางธนาคาร Y อาจไม่เคยรู้มาก่อน จึงต้องอาศัยข้อมูลเครดิตบูโรมาประกอบว่า “ลูกค้าคนนี้มีพฤติกรรมชำระหนี้ยังไงกับสถาบันอื่นบ้าง”
  • และถ้าในรายงานพบว่ามีหนี้ค้างเพียงหลักสิบบาท ระบบก็จะแสดงผลออกมาเหมือนกัน ว่ามีการ “ผิดนัดชำระหนี้”

อีกเรื่องที่มักถูกเข้าใจผิดคือ เครดิตบูโรไม่มี Blacklist แต่จะแสดงเพียง “รายงานข้อเท็จจริง” ว่าบัญชีของเราชำระปกติหรือผิดนัดเท่านั้น หากจ่ายตรงเวลา รายงานก็จะเป็นปกติ แต่ถ้ามีค้างก็จะแสดงว่าผิดนัด ไม่ว่าจะยอดเล็กหรือใหญ่ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ ต้องเข้าใจว่า “เครดิตบูโรคือถังข้อมูล ไม่ใช่ผู้พิพากษา” แต่ข้อมูลเล็ก ๆ ที่เราละเลยไป ก็อาจสร้างผลกระทบใหญ่ได้ในอนาคต

“หลักในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อ แต่ละสถาบันการเงินจะมีความเข้มงวดแตกต่างกัน เครดิตบูโร เราเป็นเพียงถังข้อมูล หรือ สมุดพกบันทึกข้อมูลหนี้ ที่ได้รับมาจากการรายงานของสถาบันการเงินต่างๆ ในระยะเวลาแค่ 3 ปี เท่านั้น” 

ลึกลงไป ในแต่ละเดือน สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกมีหน้าที่รายงานและส่งข้อมูลให้เครดิตบูโร ก่อนเครดิตบูโร จะอัปเดตข้อมูลรายเดือนนั้นๆ รวม 36 เดือน 36 บรรทัด เรียงกันเหมือน “ขนมชั้น” เมื่อมีข้อมูลใหม่เข้ามา ข้อมูลบรรทัดเก่าของ 36 เดือนที่แล้ว ก็จะหายไป

ทำไมข้อมูลเครดิตจึงสำคัญ?

เมื่อข้อมูลเครดิตเปรียบเสมือนเป็น “ถังข้อมูลที่บ่งบอกพฤติกรรมทางการเงิน” ของประชาชนไทย ข้อมูลนี้จึงถือเป็นฐานข้อมูลกลางที่ใหญ่ที่สุดในระบบการเงินไทย และถือเป็น “โครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน” ที่สำคัญซึ่งส่งผลดีใน 3 ระดับ 

  1. ต่อระบบเศรษฐกิจ: ทำหน้าที่เป็น “สัญญาณเตือนภัย” ที่ช่วยให้นักวิเคราะห์และหน่วยงานรัฐมองเห็นภาพรวมเศรษฐกิจ และช่วยป้องกันวิกฤติการเงินรุนแรงจากปัญหาหนี้เสีย
  2. ต่อสถาบันการเงิน: ช่วยให้เจ้าหนี้สามารถ บริหารความเสี่ยง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการเกิดหนี้เสีย และทำให้การพิจารณาสินเชื่อมีข้อมูลที่รอบด้านมากขึ้น
  3. ต่อตัวผู้กู้ (ลูกหนี้): ช่วยให้คุณสามารถ วางแผนการเงิน และควบคุมวินัยทางการเงินของตัวเองได้ คนที่มีประวัติการชำระหนี้ดีก็จะมีโอกาส เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น และอาจได้รับสิทธิพิเศษ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า เพราะถือเป็นลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ

ทำอย่างไร ให้ไม่ติดเครดิตบูโร กู้สินเชื่อผ่านง่าย 

  1. จ่ายตรงเวลาเสมอ  ค่างวดบัตรเครดิต สินเชื่อ หรือแม้แต่ค่าน้ำค่าไฟ หากเชื่อมกับบัตรไว้ อย่าลืมตรวจสอบให้ตัดจ่ายครบ
  2. อย่าปล่อยหนี้ค้าง แม้จะเล็กน้อย  ยอดหลักสิบ หลักร้อย ก็มีผลเหมือนกัน เพราะระบบเครดิตบูโรจะบันทึกทั้งหมด
  3. ไม่กู้เกินตัว  มีหนี้เท่าที่จำเป็น และเหลือวงเงินให้ธนาคารเห็นว่าเรายัง “บริหารหนี้ได้”
  4. ตรวจสอบข้อมูลเครดิตเป็นประจำ  อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อเช็กว่ามีข้อมูลผิดพลาด หรือหนี้ที่เราไม่รู้ตัวหรือไม่

เปิดวิธีเช็กเครดิตบูโรง่าย ๆ (อัปเดต ก.ย.2568)

โดยเราสามารถขอรายงานเครดิตบูโรได้จากหลายช่องทาง เช่น

  • ตรวจรายงานข้อมูลเครดิตแบบสรุป ฟรี โมบายแอปทางรัฐ / ที่ทำการไปรษณีย์และเคาน์เตอร์ทั่วประเทศ / ตู้ตรวจข้อมูลเครดิตด้วยตนเอง (ตู้คีออส)
  • ศูนย์ตรวจข้อมูลเครดิต รอรับได้เลยภายใน 15 นาที 
  • ตรวจออนไลน์ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน แบบรับได้ทันที / ภายใน 24 ชม. / 3 วันทำการ / แบบส่งรายงานทางไปรษณีย์ลงทะเบียน (ภายใน 7 วันทำการ) 
  • ตู้ตรวจข้อมูลเครดิตด้วยตนเอง (ตู้คีออส) รอรับรายงานทางอีเมล ได้ทันที
  • กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ตู้ ATM ที่ทำการไปรษณีย์ แบบทางไปรษณีย์ลงทะเบียน (ภายใน 7 วันทำการ)

สรุปแล้ว จากกรณีของ โอ๊ต ปราโมทย์ ที่เป็นข่าวโด่งดัง สิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องราวไกลตัว แต่เป็นอุทาหรณ์ทางการเงินที่สำคัญสำหรับทุกคนในยุคนี้ ขณะที่การตรวจสอบสุขภาพเครดิตของตัวเองเป็นประจำก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย และหากเราเข้าใจการทำงานของ เครดิตบูโร อย่างถ่องแท้ จะช่วยให้เราวางแผนการเงินได้อย่างรอบคอบและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ในอนาคตนั่นเอง

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney

 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ