How to เก็บเงินให้อยู่ 12 เทคนิคที่คนอยากรวยต้องรู้ ฉบับมนุษย์เงินเดือน เอาตัวรอดยุค “เงินหด”

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

How to เก็บเงินให้อยู่ 12 เทคนิคที่คนอยากรวยต้องรู้ ฉบับมนุษย์เงินเดือน เอาตัวรอดยุค “เงินหด”

Date Time: 16 ก.ย. 2568 12:11 น.

Video

เก็บเงินก็ยาก ลงทุนก็เสี่ยง คนไทยรอดจากความจนยาก? กับ ดร.บุรินทร์ อดุลวัฒนะ | Thairath Money Night Stand EP.17

Summary

อย่าปล่อยให้เงินเดือนกลายเป็นแค่ตัวเลขที่ผ่านเข้ามาแล้วหายไป ลองเปลี่ยนด้วย 12 วิธีเก็บเงินที่เข้าใจง่าย ทำได้จริง และพาคุณไปสู่เป้าหมายชีวิตที่มั่นคง

ทุกวันนี้เงินไม่ได้มีค่าแค่เอามาใช้จ่าย แต่เป็น “เครื่องมือ” ที่กำหนดคุณภาพชีวิตเราเลยก็ว่าได้ ใครที่เคยตั้งใจจะเก็บเงินแต่ทำไม่ได้สักที หรือเก็บได้แป๊บเดียวแล้วหมดไปกับเรื่องจุกจิก 

บทความนี้ Thairath Money ชวนคุณเปลี่ยนพฤติกรรมการเงินแบบง่าย ๆ ที่ทำได้จริง ไม่ว่า “เงินเดือน”จะมากหรือน้อย เพราะการออมไม่ใช่เรื่องของ “จำนวนเงิน” แต่เป็นเรื่องของ “วินัยและวิธี” ต่างหาก 

12 วิธีเก็บเงิน ที่ทำตามแล้วเห็นผลจริง

1. เก็บแบงก์ที่ชอบ – ออมสนุกแบบเล่นเกม

  • วิธีทำ: เลือกแบงก์ใดแบงก์หนึ่ง เช่น แบงก์ 50 บาท ทุกครั้งที่ได้มาให้เก็บทันที ห้ามใช้
  • ตัวอย่าง: ถ้าเจอแบงก์ 50 เฉลี่ยสัปดาห์ละ 5 ใบ จะเท่ากับเดือนละ 1,000 บาท
  • จุดแข็ง: ทำให้การออมไม่น่าเบื่อ เหมือนเล่นเกมลุ้นว่าจะได้แบงก์กี่ใบ
  • คำแนะนำ: วิธีนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือคนที่อยากสร้างกำลังใจให้ตัวเอง

2. เก็บเงินตามวันที่ – ปฏิทินช่วยบังคับอัตโนมัติ

  • วิธีทำ: วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 30 เก็บ 30 บาท รวมทั้งเดือนเก็บได้ 465 บาท
  • ถ้าอยากเร่งออม: คูณ 10 เช่น วันที่ 15 เก็บ 150 บาท
  • จุดแข็ง: ไม่ต้องคิดเยอะ แค่ทำตามวันที่
  • ข้อควรระวัง: ถ้าเงินเดือนน้อย ควรเลือกสูตรที่เบากว่า เช่น คูณ 5 แทน

3. หักเงินออมก่อนใช้ – Pay Yourself First

  • วิธีทำ: ตั้งระบบหักบัญชีอัตโนมัติ 10–20% ของเงินเดือนเข้าบัญชีออม
  • ตัวอย่าง: เงินเดือน 20,000 → หักออมทันที 2,000 เหลือใช้ 18,000
  • จุดแข็ง: ป้องกันการใช้เงินหมดก่อนออม
  • เคล็ดลับ: แนะนำเปิดบัญชีที่กดไม่ได้/ไม่มีบัตร ATM

4. หยอดกระปุกจากเงินทอน – Small Change, Big Money

  • วิธีทำ: เก็บเหรียญหรือแบงก์ย่อยทุกครั้งที่ซื้อของ
  • ตัวอย่าง: ถ้าเฉลี่ยวันละ 20 บาท → ปีหนึ่งได้เกือบ 7,300 บาท
  • จุดแข็ง: เงินน้อยแต่สะสมกลายเป็นก้อนใหญ่
  • ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงกระปุกที่เปิดง่าย จะเผลอหยิบมาใช้

5. อยากได้ของต้องออมก่อน – No Debt, No Regret

  • วิธีทำ: ตั้งเป้าเงินเก็บเท่าราคาของที่อยากได้ แล้วค่อยซื้อ
  • ตัวอย่าง: อยากได้มือถือราคา 15,000 → แบ่งเก็บเดือนละ 3,000 → 5 เดือนซื้อได้ทันทีโดยไม่ติดหนี้
  • จุดแข็ง: ลดพฤติกรรมผ่อนจ่ายที่ดอกเบี้ยบาน
  • ผลลัพธ์: ทำให้เห็นคุณค่าของสิ่งที่ซื้อ เพราะใช้ “เงินที่มี” ไม่ใช่ “เงินที่ยืม”

6. ใช้แอปฯ ช่วยออม – Digital Coach

ฟีเจอร์ที่ควรใช้:

  • ตั้งเป้าออมรายเดือน
  • โอนอัตโนมัติ
  • แยกหมวดรายจ่าย

ตัวอย่างแอป: แอปธนาคาร (K PLUS, SCB EASY, ttb touch) หรือแอปการเงินอย่าง Finnomena, Jitta

จุดแข็ง : ทำให้เห็นพฤติกรรมการใช้เงินจริง ไม่ใช่แค่ความรู้สึก

7. ฝากประจำปลอดภาษี – ปลอดภัย ได้ดอกจริง

  • วิธีทำ: เปิดบัญชีฝากประจำ 24–48 เดือน ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีออมทรัพย์
  • ตัวอย่าง: ฝากเดือนละ 3,000 บาท ดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.8–2.5% ต่อปี
  • จุดแข็ง: ดอกเบี้ยไม่เสียภาษี (ตามเงื่อนไขธนาคาร)
  • เหมาะสำหรับ: คนที่ไม่รีบใช้เงิน และมีวินัยฝากต่อเนื่อง

8. แยกบัญชีชัดเจน – กันเงินรั่วไหล

  • แบ่งเป็น 3 บัญชีหลัก:
    • บัญชีใช้จ่าย (ค่าใช้จ่ายรายเดือน)
    • บัญชีออม (เงินสำรองฉุกเฉิน)
    • บัญชีลงทุน (สร้างความมั่งคั่ง)
  • จุดแข็ง: มองเห็นเงินกองไหนเป็นของจริง ใช้ผิดที่ผิดทางยาก
  • เคล็ดลับ: ใช้ธนาคารต่างกัน เพื่อกันความสับสน
  • 9. ลงทุนพันธบัตร – เสี่ยงต่ำ ได้ดอกแน่นอน

    • วิธีทำ: ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาล ดอกเบี้ยเฉลี่ย 2–3% ต่อปี
    • ข้อดี: ได้ดอกแน่นอน 100% มีความมั่นคงสูง
    • เหมาะสำหรับ: มือใหม่ที่ยังไม่อยากเสี่ยงกับหุ้น/กองทุน
    • ตัวอย่าง: พันธบัตรอายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 2.3% → ลงทุน 100,000 จะได้ดอกเบี้ย 11,500 ตลอดอายุ

    10. ใช้สิทธิกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ – ฟรีเงินสมทบ + ลดภาษี

    • วิธีทำ: หากบริษัทมี PVD ให้เลือกออมสูงสุดที่ไหว เพราะบริษัทจะสมทบเพิ่ม
    • ตัวอย่าง: พนักงานออม 5% → บริษัทสมทบอีก 5% รวมเป็น 10% โดยที่เราจ่ายจริงแค่ครึ่งเดียว
    • จุดแข็ง: เงินโตเร็ว และยังลดหย่อนภาษีได้

    11. ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ – ออม + คุ้มครอง

    • วิธีทำ: เลือกกรมธรรม์ที่ให้เงินคืนทุกปี + เงินก้อนตอนครบกำหนด
    • ตัวอย่าง: จ่ายปีละ 20,000 → ได้คืนปีละ 2,000 + ความคุ้มครองทันที
    • จุดแข็ง: ได้ทั้งการออมและความคุ้มครองชีวิต
    • ข้อควรระวัง: ต้องดูค่าใช้จ่ายที่แท้จริง (IRR) เพราะผลตอบแทนมักต่ำกว่าเงินฝากประจำ

    12. ประกันบำนาญ – สร้างเงินใช้หลังเกษียณ

    • วิธีทำ: จ่ายเบี้ยช่วงทำงาน พอถึงอายุ 55–60 จะได้เงินบำนาญทุกปี
    • จุดแข็ง: ช่วยสร้างรายได้ต่อเนื่องหลังเกษียณ + ลดหย่อนภาษี
    • ตัวอย่าง: จ่ายเบี้ย 50,000 บาท/ปี 20 ปี → หลังเกษียณได้เงินคืนปีละ 30,000–40,000 บาทจนถึงอายุ 85–90

    สรุปแล้ว “การออม” ไม่ใช่เรื่องของจำนวนเงิน แต่เป็นเรื่องของ “ระบบ” ที่เราวางไว้ในชีวิตจริง เลือกวิธีที่เข้ากับนิสัยและรายได้ แล้วทำต่อเนื่อง รับรองว่าแม้เงินเดือนจะไม่มาก แต่คุณก็มีภูมิคุ้มกันการเงินที่มั่นคง

    ที่มา : ttbbank 

    อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

    ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


    Author

    กองบรรณาธิการ

    กองบรรณาธิการ