คู่มือเลี้ยงลูกให้ฉลาด "การเงิน" ตามช่วงวัย จากยุคหยอดกระปุก สู่การใช้เงินอย่างรู้เท่าทัน

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

คู่มือเลี้ยงลูกให้ฉลาด "การเงิน" ตามช่วงวัย จากยุคหยอดกระปุก สู่การใช้เงินอย่างรู้เท่าทัน

Date Time: 4 ก.ย. 2568 11:01 น.

Video

เก็บเงินก็ยาก ลงทุนก็เสี่ยง คนไทยรอดจากความจนยาก? กับ ดร.บุรินทร์ อดุลวัฒนะ | Thairath Money Night Stand EP.17

Summary

เปิดคู่มือสอนลูก “เรื่องเงิน” แต่ละช่วงวัย สำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ เพราะหยอดกระปุกออมสินอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องสอนให้ลูก “อยู่กับเงินอย่างฉลาด” ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนเร็วและยั่วยวนกว่าที่เคย

ทำไมพ่อแม่ยุคนี้ต้อง “สอนลูกเรื่องเงิน”

สมัยก่อน พ่อแม่อาจคิดว่า “ให้ลูกหยอดกระปุกก็พอ” แต่วันนี้โลกการเงินซับซ้อนขึ้นหลายเท่า เพราะ เด็ก Gen Alpha (เกิดตั้งแต่ปี 2553 -2567 หรือ อาจรวมถึงปี 2568 ด้วย ขึ้นอยู่กับการอ้างอิง ) 

เกิดมาพร้อมมือถือ การเข้าถึงออนไลน์ตั้งแต่ยังพูดไม่ชัด และโฆษณาที่เจาะจงถึงตัวเขาได้ตั้งแต่เล็ก สิ่งที่น่ากลัวคือ เด็กเหล่านี้อาจเติบโตมา “หาเงินเก่ง แต่เก็บไม่เป็น” ทำงานเหนื่อยแทบตาย แต่ไม่เคยสร้างความมั่นคงทางการเงินได้เลย เพราะขาดทักษะจัดการเงินตั้งแต่ต้น

คำถามคือ… พ่อแม่จะเริ่มสอนอย่างไร?  หัวใจของเรื่องนี้ อาจแบ่งออกมาเป็น 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ 

  1. สร้าง “ภูมิคุ้มกันทางใจ”
  2. ปลูกฝัง “นิสัยทางการเงิน” ตามช่วงวัย

เปิดคู่มือเลี้ยงลูกตามช่วงวัย โตไปเก่งเรื่องเงิน

1. สร้างภูมิคุ้มกันทางใจ

ข้อมูลอ้างอิงจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า ปัญหาการเงินของผู้ใหญ่จำนวนมาก ไม่ได้เริ่มจาก “ขาดเงิน” แต่เริ่มจาก “ขาดภูมิคุ้มกัน” ต่อแรงกดดันรอบตัว

  • โซเชียลทำให้รู้สึกว่าต้องมีของแพงเหมือนคนอื่น
  • โฆษณาทำให้เข้าใจผิดว่า การซื้อ = ความสุข
  • สังคมปลูกฝังว่าคนที่ประสบความสำเร็จต้องวัดกันที่สิ่งของ

ถ้าเด็กเข้าใจตั้งแต่เล็กว่า “เงินเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่เป้าหมายของชีวิต” เขาจะไม่ถูกกระแสกลืนกินง่ายๆ เช่น ลูกอาจอยากได้รองเท้าคู่ใหม่เพราะเพื่อนใส่ แต่ถ้าพ่อแม่ช่วยให้เขาตั้งคำถามว่า “อยากจริงๆ หรืออยากเพราะกลัวไม่เหมือนคนอื่น” ลูกก็จะเริ่มมองเงินแบบมีสติ ไม่ใช่ใช้อารมณ์ ภูมิคุ้มกันใจนี่เอง ที่จะทำให้เขาไม่เป็น “ทาสเงิน” แต่เลือกใช้เงินเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่แท้จริง

2.ปลูกฝังนิสัยการเงินตั้งแต่เล็ก (แบ่งตามวัย)

เรื่องเงินก็เหมือนวัคซีน  ถ้าได้รับตั้งแต่เล็ก จะช่วยป้องกันปัญหาใหญ่ตอนโตได้

วัยอนุบาล (0–5 ปี): เริ่มจากการเลียนแบบ

เด็กวัยนี้ยังไม่เข้าใจค่าเงิน แต่พ่อแม่คือ “ต้นแบบ” ที่เขาดูทุกวัน

  • เปิดบัญชีเงินฝากชื่อลูก ให้เขาเห็นว่า “เงินก็เติบโตได้”
  • ใช้บทสนทนาง่ายๆ เช่น “วันนี้แม่เก็บเงินไว้ก่อน เพราะอยากมีเงินพาเราไปเที่ยว”
  • เล่นเกมเล็กๆ เช่น เก็บเหรียญใส่กระปุกพร้อมนับเลข ให้เชื่อมโยงว่าเงิน = สิ่งที่ใช้ทำตามเป้าหมาย

วัยประถม (6–12 ปี): ฝึกจัดสรรเงินเอง

เด็กเริ่มอยากได้ของเล่นใหม่ อยากใช้เงินเอง พ่อแม่ควรใช้จังหวะนี้สร้างทักษะ

  • ให้ค่าขนมเป็นรายสัปดาห์ ไม่ใช่รายวัน เพื่อให้เด็กต้องเรียนรู้การ “ยืดระยะเวลาใช้เงิน”
  • ใช้ “กระปุก 3 ช่อง” ได้แก่  ออม / ใช้ / แบ่งปัน
    เช่น ได้ค่าขนม 100 บาท ให้แบ่ง 50 ออม / 40 ใช้ / 10 แบ่งปันเพื่อซื้อของให้เพื่อนหรือทำบุญ
  • ถ้าอยากได้ของราคาแพง ก็ต้องสอนให้เขาออมเองแทนการซื้อให้ทันที จะทำให้รู้คุณค่าของการรอคอย

วัยมัธยม (13–18 ปี): ฝึกคิดก่อนใช้

วัยนี้เริ่มมีเพื่อนเป็นแรงกดดัน อยากมีมือถือใหม่ อยากแต่งตัวเหมือนเพื่อน

  • ให้ลองทำบัญชีรายรับ–รายจ่ายด้วยตัวเอง
  • ยกตัวอย่างจริง: ถ้าอยากได้มือถือ 20,000 บาท แต่เก็บได้เดือนละ 2,000  ต้องใช้เวลา 10 เดือน ไม่ใช่แค่ขอพ่อแม่ทันที
  • เริ่มพูดเรื่อง “ดอกเบี้ย – การลงทุนเล็กๆ” เช่น เงินฝากประจำ หรือกองทุนสำหรับเด็ก เพื่อให้เข้าใจว่าเงินสามารถ “งอกเงย” ได้

วัยมหาวิทยาลัย (18–22 ปี) : ทดลองใช้ชีวิตจริง

นี่คือช่วงเปลี่ยนผ่านจากเด็กสู่ผู้ใหญ่ พ่อแม่ควรเปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้ปกครอง”  ไปเป็น “โค้ช”

  • ให้เงินก้อน เช่น ค่ากินอยู่รายเดือน แล้วปล่อยให้จัดการเอง
  • เปิดโอกาสให้ทำงานพิเศษ หารายได้เสริม → ลูกจะเข้าใจว่าการหาเงินไม่ง่าย
  • สนับสนุนให้ลองลงทุนเล็กๆ หรือทำโปรเจ็กต์ส่วนตัว
    ถ้าล้มเหลว ให้ใช้เป็นบทเรียน ไม่ใช่การลงโทษ

จากทั้งหมด จะเห็นได้ว่า ถ้าไม่เริ่มวันนี้ เด็กอาจโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ หาเงินเก่ง แต่ไม่เคยเหลือเก็บ สุดท้ายต้องทำงานหนักตลอดชีวิต โดยไม่มีอิสระหรือความมั่นคง

ฉะนั้น การสอนลูกเรื่องเงิน ไม่ใช่แค่ “สอนเก็บ” แต่คือการสร้างทั้ง

  • ภูมิคุ้มกันทางใจ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อกระแสสังคม
  • นิสัยทางการเงิน เพื่อวางรากฐานการใช้เงินอย่างมีทิศทาง

เพราะ “เงิน” ไม่ใช่แค่ตัวเลขในบัญชี แต่คือทักษะชีวิตที่ลูกจะใช้ไปตลอดทั้งอนาคตถ้าเริ่มถูกทางตั้งแต่วันนี้ ลูกจะโตขึ้นมาอย่างมั่นคง เลือกเส้นทางชีวิตเองได้ โดยไม่ต้องเป็น “ทาสเงิน” เหมือนผู้ใหญ่หลายคนในรุ่นก่อนๆนั่นเอง.

ที่มา : Krungsri The COACH


อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ