ทุกต้นปี หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “ถึงเวลายื่นภาษีแล้ว” แต่ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเกี่ยวอะไรกับเรา? ยิ่งคนเพิ่งเริ่มทำงาน ฟรีแลนซ์ที่รับงานแรก หรือคนขายของออนไลน์ที่เพิ่งมีรายได้เข้าบัญชี ยิ่งงงไปใหญ่
ความจริงคือ เมื่อคุณมีรายได้ ก็เท่ากับ มีหน้าที่ต้องยื่นภาษี ถึงแม้รายได้จะยังไม่ถึงเกณฑ์ต้องจ่ายภาษี แต่การยื่นภาษีคือการ “แสดงรายได้ต่อรัฐ” เพื่อความถูกต้องตามกฎหมาย และยังช่วยเก็บประวัติรายได้ที่อาจมีประโยชน์ในอนาคต เช่น กู้บ้าน กู้รถ ขอวีซ่าไปต่างประเทศ ฯลฯ
บทความนี้ ได้สรุปข้อมูลสำคัญจาก บมจ.ธรรมนิติ บริษัทด้านกฎหมายและภาษีชื่อดัง เพื่อเป็นไกด์แบบ “เข้าใจง่าย” สำหรับมือใหม่ที่อยากยื่นภาษีครั้งแรก
ทำไมต้องยื่นภาษี?
- เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย : รายได้ทุกบาทควรถูกนำส่งข้อมูลต่อกรมสรรพากร
- เลี่ยงการถูกปรับ : ไม่ยื่นตามกำหนด ปรับไม่เกิน 2,000 บาท และหากค้างภาษีจะถูกคิดดอกเบี้ยเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน
- ใช้สิทธิ์ลดหย่อน : เช่น ประกันชีวิต กองทุน กู้ซื้อบ้าน ฯลฯ ซึ่งช่วยประหยัดภาษีได้มาก
- สร้างเครดิตการเงินที่ดี : ประวัติการยื่นภาษีสม่ำเสมอ ทำให้ธนาคารเชื่อถือเวลาขอสินเชื่อ
เงินได้ 8 ประเภทที่ต้องรู้ (มาตรา 40)
ถ้าอยากยื่นภาษีถูกต้อง ต้องรู้ก่อนว่ารายได้ของคุณเข้าข่ายไหน เพราะแต่ละประเภทใช้หลักฐานประกอบต่างกัน
- 40(1) รายได้จากการจ้างแรงงาน – เงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส เงินบำนาญ
- 40(2) รายได้จากงานครั้งคราว – ค่านายหน้า เบี้ยประชุม ค่าที่ปรึกษา
- 40(3) ค่าลิขสิทธิ์ / ค่ากู๊ดวิลล์
- 40(4) ดอกเบี้ย เงินปันผล ส่วนแบ่งกำไร
- 40(5) รายได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน เช่น บ้าน คอนโด รถยนต์
- 40(6) วิชาชีพอิสระ เช่น แพทย์ ทนายความ สถาปนิก วิศวกร นักบัญชี
- 40(7) รายได้จากการรับเหมา (มีทั้งค่าแรงและวัสดุ)
- 40(8) รายได้จากการทำธุรกิจ เช่น ร้านค้าออนไลน์ เกษตร อุตสาหกรรม การขนส่ง
แบบยื่นภาษีมี 2 แบบ
- ภ.ง.ด.90 : สำหรับผู้มีรายได้หลายทาง เช่น เงินเดือน + ขายของออนไลน์ + เงินปันผล
- ภ.ง.ด.91 : สำหรับผู้มีรายได้จากงานประจำทางเดียว เช่น มนุษย์เงินเดือน
เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการยื่นภาษี
มนุษย์เงินเดือน (ภ.ง.ด.91)
- หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) จากบริษัท
- เอกสารลดหย่อนภาษี เช่น
- กองทุน LTF / RMF / กองทุนรวมเพื่อการเกษียณ
- เบี้ยประกันชีวิต / สุขภาพ
- ดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน
- ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา / บุตร
ฟรีแลนซ์ / รายได้หลากหลาย (ภ.ง.ด.90)
- หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) จากผู้ว่าจ้าง (ถ้าเกิน 1,000 บาท)
- หลักฐานการโอนเงิน (ถ้าไม่เกิน 1,000 บาท)
- เอกสารลดหย่อนภาษี เช่นเดียวกับมนุษย์เงินเดือน
เคล็ดลับ: เก็บหลักฐานพวกนี้ไว้ตั้งแต่ต้นปี จะได้ไม่ต้องวิ่งวุ่นตามหาก่อนวันยื่น
ช่องทางการยื่นภาษี
- ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร https://www.rd.go.th – สะดวก รวดเร็ว และมีระบบคำนวณให้
- ยื่นที่สรรพากรพื้นที่ – สำหรับคนที่อยากปรึกษาเจ้าหน้าที่โดยตรง
ถ้าไม่ยื่นภาษี จะเกิดอะไรขึ้น?
- ไม่ยื่นตามกำหนด: โดนปรับสูงสุด 2,000 บาท (แม้ไม่มีภาษีต้องจ่ายก็ตาม)
- จ่ายช้า: เสียเบี้ยปรับ 1.5% ต่อเดือน ของยอดภาษีค้าง
- หลีกเลี่ยงโดยเจตนา: เสี่ยงถูกปรับ 200,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี
สรุปสำหรับมือใหม่ การยื่นภาษีอาจดูน่ากลัว แต่ถ้าเข้าใจโครงสร้างรายได้และรู้ว่าเอกสารอะไรต้องใช้ เรื่องนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด ที่สำคัญคือ ยิ่งเริ่มยื่นเร็ว ยิ่งสร้างวินัยทางการเงินที่ดี ปีนี้ลองเปลี่ยนจาก “กลัวภาษี” เป็น “จัดการภาษี” แล้วคุณจะเห็นว่ามันช่วยให้การเงินในอนาคตของคุณมั่นคงกว่าที่คิด