บ้านคือทรัพย์สินหรือหนี้สิน? เจาะลึกมุมมอง "ซีเค เจิง" พร้อมคำตอบที่คนอยากมีบ้านต้องรู้!

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

บ้านคือทรัพย์สินหรือหนี้สิน? เจาะลึกมุมมอง "ซีเค เจิง" พร้อมคำตอบที่คนอยากมีบ้านต้องรู้!

Date Time: 1 ก.ย. 2568 09:13 น.

Video

ต้นทุนพุ่ง! นำเข้าสินค้าออนไลน์ เตรียมรับมือ ภาษีนำเข้า 1 บาท (ม.ค. 69)  | Thairath Money Night Stand EP.25

Summary

“บ้านไม่ใช่ทรัพย์สิน!”เมื่อวาทะเด็ด ซีเค เจิง สั่นคลอนความเชื่อคนมีบ้านและชวนให้เราตั้งคำถามกับตัวเอง แล้วอะไรบ้าง? เป็นหลักในการพิจารณา แยกว่าบ้าน เป็น “ทรัพย์สิน” หรือ “หนี้สิน ”กันแน่ ?

“บ้านไม่ใช่ทรัพย์สินของคุณ เพราะทรัพย์สินคือสิ่งที่จะเอาเงินเข้ามาในกระเป๋า แต่บ้านคือสิ่งที่จะเอาเงินออกจากกระเป๋าคุณ และไปเข้ากระเป๋าธนาคารแทน ดังนั้นบ้านเป็นทรัพย์สินของธนาคาร ไม่ใช่ของคุณ”

นี่คือวาทะเด็ดของ “ซีเค เจิง” CEO บริษัท FASTWORK วิทยากรด้านการเงินขวัญใจคนรุ่นใหม่ ที่ถูกแชร์ต่อและกลายเป็นกระแสถกเถียงบนโลกออนไลน์ทันที เพราะมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฝั่งหนึ่งมองว่า “บ้าน” คือภาระที่สร้างหนี้สินมหาศาล ในขณะที่อีกฝั่งยืนยันว่าการผ่อนบ้านคือการสร้างทรัพย์สินและความมั่นคงในชีวิต แล้วความจริงคืออะไรกันแน่? บทความนี้ชวนมาหาคำตอบกัน 

บ้านในมุม “หนี้สิน”

แนวคิดนี้ถูกเผยแพร่ครั้งแรกโดย Robert Kiyosaki ผู้เขียนหนังสือ Rich Dad Poor Dad เขาให้นิยามไว้ว่า ...

  • ทรัพย์สิน (Asset) = สิ่งที่ทำให้เงินไหลเข้ากระเป๋า
  • หนี้สิน (Liability) = สิ่งที่ทำให้เงินไหลออกจากกระเป๋า

บ้านที่เราอยู่อาศัยเองจึงเข้าข่าย “หนี้สิน” เพราะแทนที่จะสร้างรายได้ กลับกลายเป็นภาระที่ต้องจ่ายต่อเนื่องทุกเดือน

เหตุผลสำคัญที่สนับสนุนแนวคิดนี้ ได้แก่

  1. ภาระผ่อนและดอกเบี้ย :  การกู้บ้านมักยาวนาน 20–30 ปี และเมื่อรวมดอกเบี้ยแล้ว ยอดที่จ่ายจริงอาจมากกว่าราคาบ้าน 1.5–2 เท่าตัว 
  2. ค่าใช้จ่ายแฝง : เช่น ค่าซ่อมบำรุง, ค่าประกันภัย, ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นรายจ่ายที่เลี่ยงไม่ได้ และต้องจ่ายออกตลอดไป 
  3. โอกาสทางการเงินที่หายไป : เงินดาวน์บ้าน 10–20% หากนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า อาจงอกเงยได้มากกว่าการ “เก็บไว้ในบ้าน”
  4. สภาพคล่องต่ำ : แม้บ้านจะเป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูง แต่บ้านก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที การขายต่อใช้เวลานาน และอาจขายไม่ได้ในราคาที่หวัง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ซัพพลายล้นตลาด
  5. ราคาไม่ได้ขึ้นเสมอไป : ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่า ราคาคอนโดฯ บางทำเลในกรุงเทพฯและปริมณฑลมีแนวโน้มลดลงติดต่อกันหลายปีแล้ว 

ทั้งหมดนี้ จึงชี้ว่าบ้านอาจเป็น “หนี้สินระยะยาว” หากซื้อโดยไม่คำนึงถึงภาระทางการเงินและความสามารถในการผ่อนจริง

บ้านในมุม “ทรัพย์สิน”

ในอีกด้านหนึ่ง หลายคนกลับมองว่าบ้านคือทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดในชีวิต และเป็นการสะสมความมั่งคั่งที่จับต้องได้ ขาดบ้าน ชีวิตก็ไม่ “มั่นคง” 

เหตุผลที่สนับสนุนแนวคิดนี้ ได้แก่

  1. การสะสมความมั่งคั่งระยะยาว : บ้านและที่ดินถือเป็น “Store of Value” ที่มักมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา โดยเฉพาะในทำเลที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ราคาที่อยู่อาศัยแนวราบมีแนวโน้มขยับขึ้นสม่ำเสมอตามการเติบโตของเมือง
  2. ความมั่นคงของชีวิต : การมีบ้านของตัวเองคือการปลดล็อกความเสี่ยงเรื่องค่าเช่าที่ปรับขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อผ่อนหมด บ้านกลายเป็นกรรมสิทธิ์ที่สร้างความอุ่นใจให้ครอบครัวได้ 
  3. หลักประกันทางการเงิน – บ้านสามารถนำไปใช้ค้ำประกันเงินกู้ หรือทำสินเชื่อรีไฟแนนซ์ / Home Equity Loan ได้ ถือเป็น “ทรัพย์สินด้านเครดิต” ที่สถาบันการเงินยอมรับโดยทั่วไป 
  4. สร้างรายได้เสริม : หากปล่อยเช่า บ้านสามารถเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินที่ก่อรายได้ (Income Generating Asset) ทั้งในรูปค่าเช่าและกำไรจากการขาย (Capital Gain)
  5. เทียบกับค่าเช่า : การจ่ายค่าเช่าเป็นเงินที่ “หายไปตลอดกาล” ในขณะที่การผ่อนบ้านแม้จะเป็นภาระ แต่ส่วนหนึ่งคือเงินต้นที่กลับมาเป็นทรัพย์สินของเรา

เมื่อมองในมุมนี้ “บ้าน” จึงไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงและสร้างความมั่งคั่งระยะยาว

สรุปแล้ว “บ้าน” เป็น ทรัพย์สิน หรือ หนี้สิน กันแน่ ?

ความจริงแล้ว บ้านอาจไม่ใช่ “ทรัพย์สินแท้” หรือ “หนี้สินแท้” หากแต่เป็น สินทรัพย์กึ่งกลาง (Hybrid Asset) ที่ขึ้นอยู่กับมุมมองและการบริหารจัดการ 

บ้านจะกลายเป็น "หนี้สิน" ถ้า...

  • ซื้อบ้าน เกินกำลัง ผ่อนเกินกว่า 40% ของรายได้ต่อเดือน และต้องกู้ยืมจนกระทบชีวิตประจำวัน แบบนี้เรียกว่า “ภาระหนี้” 
  • มีค่าใช้จ่ายแฝงตลอดเวลา ค่าซ่อมบำรุง, ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, ค่าธรรมเนียมต่างๆ ทำให้เงินไหลออกต่อเนื่อง โดยที่บ้านยังไม่สร้างรายได้กลับมา บ้าน อาจเป็นหนี้สิน สำหรับคุณ 
  • บ้านที่ซื้อทำเลไม่ดี  ราคาตลาดไม่ขึ้น หรือ สภาพคล่องต่ำ ขายต่อยาก ก็ไม่ต่างจาก หนี้สิน 

บ้านจะกลายเป็น "ทรัพย์สิน" ถ้า...

  • เลือกซื้อบ้านในทำเลที่มีมูลค่าเพิ่ม แนวโน้มการเติบโตของราคาอยู่ในทิศทางบวก บ้าน จึงสามารถเก็บมูลค่าในระยะยาว แบบนี้ “บ้าน” เอียงไปทางทรัพย์สิน
  • หากบ้านสามารถสร้างรายได้ เช่น ปล่อยเช่า, แบ่งเป็นโฮมออฟฟิศ หรือใช้เป็นหลักประกันกู้ธุรกิจ  บ้านจึงเปลี่ยนจาก “ค่าใช้จ่าย” เป็น “สินทรัพย์สร้างเงินสด” ได้ 
  • ผ่อนบ้านอยู่ในระดับเหมาะสม (ไม่เกิน 30–35% ของรายได้) และไม่กระทบคุณภาพชีวิต  บ้าน จึงมีความหมาย ทรัพย์สินเพื่อความมั่นคงระยะยาวได้


ดังนั้น คำพูดของ CK จึงไม่ใช่การปฏิเสธคุณค่าของการมีบ้าน แต่เป็นการชี้ให้ตระหนักว่า บ้านอาจไม่ได้เป็นทรัพย์สิน “อัตโนมัติ” อย่างที่หลายคนเชื่อ ทุกอย่างขึ้นกับ “เป้าหมายทางการเงิน” และ “วินัยทางการเงิน” ของเจ้าของบ้านเอง ดังนั้น คำถามที่สำคัญกว่าคือ… สำหรับคุณ บ้านคือภาระที่ต้องจ่าย หรือ คือทรัพย์สินที่จะต่อยอดในอนาคต?


ที่มา : Robert Kiyosaki, Rich Dad Poor Dad (1997) ,ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ,ธปท.,KKP 

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney



Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ