
“ซื้อของ 300 บาท ดอกเบี้ย 0% ถ้าเงินไม่พอจ่ายค่อยผ่อนต่อก็ได้”
นี่อาจเป็นความในใจของสายช้อปที่เลือกใช้ Buy Now Pay Later (BNPL) หรือสินเชื่อ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” ซึ่งถือว่าตอบโจทย์คนยุคนี้มากๆ เพราะสามารถ “ผ่อนจ่าย” บิลหรือสินค้าได้ง่ายๆ แค่กดไม่กี่ครั้งผ่านแอปฯ E-commerce ต่างๆ ก็เปย์ได้หมด
แต่ความสะดวกและง่ายนี้อาจกลายเป็นดาบสองคมว่า เราเผลอกดขอสินเชื่อแบบนี้กับแอปฯ ไหนไปบ้าง และถ้าลืมจ่ายหนี้ นานๆ ไป อาจกลายเป็นหนี้พอกพูนเสี่ยงเกิด “ภาวะหนี้เกินตัว”
ทำไม Thairath Money ถึงเปรียบการใช้ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” เป็นดาบสองคม? นั่นเพราะ อยู่ที่เราจะใช้อย่างไรให้เหมาะสม และถ้าใช้แบบไม่คิดก็อาจส่งผลเสียต่อชีวิตในระยะยาวได้
ตัวอย่างข้อดีของสินเชื่อ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” เช่น
ตัวอย่างข้อเสียของสินเชื่อ “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง”เช่น
ขอสินเชื่อง่าย จ่ายเปย์คล่องแล้ว แต่อีกขาหนึ่งที่ลืมไม่ได้คือ ยืมมาแล้วจะต้องจ่ายคืนเมื่อไร หรืออัตราดอกเบี้ยที่คิดอยู่เท่าไร ที่สำคัญคือ ถ้าผิดนัดชำระหนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดย Thairath Money ยกมาให้ดู 2 ตัวอย่าง ได้แก่
1. SPaylater ของแพลตฟอร์ม Shopee
แม้ SPaylater จะกดสมัครใช้ง่าย คล้ายกับการตัดจ่ายเงินในบัญชี แต่นี่คือ สินเชื่อแบบหมุนเวียนที่แอปฯ เปิดให้ผู้ซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มช้อปปี้สามารถเลือกว่าจะ ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง หรือ ผ่อนชำระก็ได้ ดังนั้นเมื่อเป็นสินเชื่อจึงต้องจ่ายคืนให้ตรงเวลาไม่งั้นอาจเจอดอกเบี้ยได้!
โดยอัตราดอกเบี้ยของ SPaylater นั้นจะแบ่งเป็น 1) ช้อปก่อน จ่ายทีหลัง ช่วง 1 เดือนแรกจะไม่มีดอกเบี้ย 2) แผนผ่อนชำระ 2, 3, 5 และ 12 นั้น จะมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ 15% หรือ 25% ต่อปี แบบลดต้นลดดอก (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ SPaylater)
หมายเหตุ: หากสมัคร SPayLater ก่อนวันที่ 4 สิงหาคม ปี 66 จะใช้สินเชื่อบริษัท ยูนิคอร์น (ประเทศไทย) จำกัด แต่หากสมัครหลังวันที่ 4 สิงหาคม ปี 66 จะใช้สินเชื่อของบริษัท โมนี่ (แคปปิตอล) จำกัด ซึ่งทั้งคู่จะมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน
จะเห็นได้ว่าเงื่อนไขการใช้ SPayLater มีความซับซ้อนจนเกิดคำถามว่าถ้าเราเบี๊ยวหนี้ หรือไม่ชำระตามกำหนด? ข้อมูลจาก Shopee Help Center ระบุถึงผลที่อาจเกิดขึ้นกับเราเอาไว้ ดังนี้
2. LazPayLater ของแพลตฟอร์ม Lazada
มาต่อกันที่บริการ LazPayLater เคยระบุว่าให้วงเงินสูงสุด 100,000 บาท สามารถผ่อนชำระสินค้าได้ทุกประเภท ทุกราคา ไม่กำหนดราคาขั้นต่ำ ได้แก่ 1) แผนการชำระเงินแบบไม่มีดอกเบี้ย ถ้าจ่ายคืนภายใน 40 วันต่อมา (จำนวนวันสูงสุดที่กำหนดไว้) 2) แผนการผ่อนชำระ 3, 6, 12 เดือนนั้นจะคิดดอกเบี้ยตามแผนที่เราเลือก (ไม่ได้ระบุไว้)
แม้การใช้งานจะดูง่ายสะดวกสบาย ทว่า มีผู้ใช้ส่วนหนึ่งที่แสดงความกังวลในเรื่องการผิดนัดชำระ จนถึงขั้นตั้งกระทู้พันทิปในเรื่องนี้มากมาย
ล่าสุดพบว่า Lazada Thailand Official ระบุถึงกรณีที่ไม่ได้ชำระเงินยอดที่ค้างกับทาง LazPayLater นั้น ผู้ใช้จะต้องเสียค่าธรรมเนียมล่าช้า ดอกเบี้ยสูงสุด 15% ต่อปี และ บัญชี PayLater อาจถูกปิดได้หากมียอดค้างชำระอยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อประวัติการชำระเงินของเรา และอาจถึงขั้นถูกฟ้องร้องเนื่องจากมีสินเชื่อที่ค้างชำระ
สุดท้ายนี้ สิ่งที่สำคัญคือวินัยในการจ่ายชำระเงินคืน เพราะถึงแม้บริการเหล่านี้จะมอบความสะดวกสบายและเพิ่มสภาพคล่องในการใช้จ่าย แต่หากขาดวินัย จ่ายคืนไม่ตรงเวลา ความสะดวกสบายนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นกับดักของภาระหนี้สินก้อนใหญ่ที่ทำให้เราลำบากในภายหลังได้
ที่มา: สภาพัฒน์, Shopee Help Center, Lazada, Pantip, KTC
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ “การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney