รู้จักภาวะ Learned Helplessness ทำไมบางคนถึง “หยุดพยายาม”เมื่อแวดล้อมสิ้นหวัง ไม่อยากแก้ปัญหาหนี้

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

รู้จักภาวะ Learned Helplessness ทำไมบางคนถึง “หยุดพยายาม”เมื่อแวดล้อมสิ้นหวัง ไม่อยากแก้ปัญหาหนี้

Date Time: 5 ส.ค. 2568 14:46 น.

Video

เมื่อเด็ก ป.6 (11 ขวบ) สร้างรายได้ "หลักแสน" แซงหน้าคนทำงาน! l Money Secret EP.12

Summary

“ไม่มี ไม่หนี แต่…ก็ไม่มีจ่าย” เข้าใจ ภาวะ Learned Helplessness ความรู้สึกหมดหนทาง ที่คนเป็นหนี้ไม่เคยเล่า หลุดพ้นได้ไหม ในโลกที่ไม่มีพื้นที่ให้เริ่มใหม่?

หากพูดถึงปัญหาหนี้ของคนไทย เรามักได้ยินคำเตือน หรือวาทกรรมที่เน้นความรับผิดชอบส่วนบุคคล เช่น “เป็นหนี้ต้องจ่าย” หรือ “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย มันคือพฤติกรรมผิด”

แม้จะเป็นเรื่องจริงในเชิงหลักการ แต่ในความเป็นจริงของชีวิตคนจำนวนไม่น้อย คำตอบมันไม่ได้ตรงไปตรงมาเช่นนั้นเสมอไป  เพราะภายใต้พฤติกรรมการ “หยุดจ่าย” หรือ “ปล่อยหนี้” อาจมีบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่าความไม่รับผิดชอบซ่อนอยู่ 

ซึ่งสิ่งนั้น เป็นภาวะทางจิตวิทยา ที่มีชื่อเรียกว่า Learned Helplessness  หรือ ภาวะเรียนรู้ความหมดหวัง คือสภาวะที่บุคคลเกิดความรู้สึกว่า ไม่ว่าตนจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้ จึง “ยอมแพ้ล่วงหน้า” และเลิกพยายามไปในที่สุด

  • จ่ายหนี้ทุกเดือน แต่ยอดไม่ลดเลย (ดอกกินต้น)
  • พยายามหารายได้เสริม แต่ต้องใช้หมดไปกับของจำเป็น
  • เคยโดนติดเครดิตบูโร โดนฟ้อง โดนทวงจนรู้สึกว่า “ฉันไม่มีอนาคตแล้ว”

มีงานศึกษา ที่อธิบายปรากฏการณ์นี้อย่างชัดเจน อ้างอิงจากบทความของ SCB EIC โดยการทดลองให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบที่ยากเกินไป จนไม่มีใครทำได้ ผ่านไปสักพัก เมื่อเปลี่ยนมาให้ทำแบบทดสอบที่ง่ายขึ้น กลุ่มที่เคยเจอข้อสอบสุดหินกลับไม่พยายามทำอีกต่อไป แม้จะสามารถทำได้ก็ตาม

เมื่อคนเราพบกับความล้มเหลวซ้ำ ๆ และไม่เห็นผลของความพยายาม สมองจะ “เรียนรู้” ว่าต่อให้ทำอีกก็ไม่ช่วยอะไร นี่คือรากฐานของภาวะ “ช่วยตัวเองไม่เป็น” 

เช่นเดียวกันกับ เมื่อครัวเรือนประสบปัญหาทางเศรษฐกิจพร้อมกันหลายด้าน จนทำให้เกิดความรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงสถานการณ์เหล่านั้นได้

หนี้ครัวเรือนไทย กับกับดักที่คนจำนวนไม่น้อยหลุดออกมาไม่ได้

ในบริบทของประเทศไทย งานศึกษาหนึ่งพบว่า เมื่อครัวเรือนประสบกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจหลายด้านพร้อมกัน เช่น

  • รายได้ไม่พอกับค่าครองชีพ
  • หนี้สูงเกินกำลัง
  • เศรษฐกิจซบเซาไม่มีทีท่าฟื้น
  • ความไม่แน่นอนทางการเมือง
  • หรือแม้แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติและสังคม

สิ่งที่ตามมาคือ “ความรู้สึกสิ้นหวัง” ว่าไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น ทำให้ขาดแรงจูงใจที่จะวางแผนอนาคตอย่างจริงจัง และเลือกใช้ทรัพยากรที่มีไปกับความอยู่รอดเฉพาะหน้า มากกว่าจะใช้เพื่อปลดภาระหนี้ในระยะยาว

พฤติกรรมที่มองเห็นได้จากภาวะนี้

เมื่อเกิด Learned Helplessness พฤติกรรมบางอย่างจะแสดงออกมาอย่างชัดเจน เช่น 

1.ปฏิเสธสถานการณ์ 

วลี “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” คือ ภาพแทนของคนที่รู้ว่าเป็นหนี้ แต่หมดศรัทธากับการดิ้นรนอีกต่อไป เพราะไม่เห็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลง

2.ไม่วางแผนอนาคต 

เลือกจ่ายหนี้เฉพาะเจ้าที่โทรตามมากที่สุด หรือจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดถึงดอกเบี้ยทบต้น ไม่ใช่เพราะไม่รู้ แต่เพราะคิดว่า “ไม่มีทางปิดหนี้ได้อยู่ดี”

3. เมินเฉยต่อความช่วยเหลือ 

คนกลุ่มนี้อาจเคยขอความช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไขที่แท้จริง พอเจ็บซ้ำ ๆ ก็เริ่มไม่กล้าขออีก เริ่มปิดตัว และแยกตัวจากระบบ แม้แต่ครอบครัว 

แล้วเราจะหลุดพ้นจากภาวะนี้ได้อย่างไร?

ในทางวิชาการ การแก้ปัญหาหนี้ ไม่อาจอาศัยเพียง “การสอนให้รู้จักวางแผน” หรือ “รณรงค์ให้มีวินัย” เท่านั้น หากเรามองไม่เห็นรากของปัญหาทางจิตใจ เราก็อาจยิ่งสร้างความรู้สึกผิดและกดทับให้คนเหล่านั้น “รู้สึกไร้ค่า” มากกว่าเดิม

 ทางออกในระดับบุคคล 

  • อาจต้องยอมรับว่าสภาพจิตใจมีผลต่อการเงิน และไม่ผิดที่เราจะรู้สึกท้อ
  • หาความช่วยเหลือที่ “ไม่ตัดสิน” เช่น ที่ปรึกษาทางการเงิน, โปรแกรมปรับโครงสร้างหนี้
  • แบ่งปัญหาใหญ่ออกเป็นขั้นเล็ก ๆ เพื่อสร้างความรู้สึกว่า "ฉันยังควบคุมบางอย่างได้"

ทางออกในระดับระบบ 

  • เจ้าหนี้และรัฐควรมีระบบช่วยเหลือที่ “ฟื้นความหวัง” เช่น การพักหนี้แบบมีเงื่อนไข, การลดดอกเบี้ยสำหรับผู้ที่มีวินัย
  • สื่อมวลชนควรเล่าเรื่องหนี้ให้มีหลายมิติ ไม่ใช่เพียงตัดสินว่าคนไม่จ่ายคือคนผิด
  • ควรมีพื้นที่พูดคุยเรื่อง “จิตใจของคนเป็นหนี้” โดยไม่อายหรือรู้สึกผิด

ที่มา : SCB EIC

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ