ติดหนี้หมื่นล้าน ลงทุนจนหมดตัว ถอดบทเรียน ผู้เล่น Squid Game ชีวิตจริง “ไม่มีแผนการเงิน = ตกรอบ”

นาทีนี้แทบจะไม่มีใครไม่รู้จักซีรีส์ดังติดอันดับท็อปใน Netflix อย่าง Squid Game  - เล่นลุ้นตาย ที่กำลังเป็นกระแสเพราะความลุ้นระทึก บวกกับวัฒนธรรมการละเล่นของชาวเกาหลีใต้ ที่ดึงดูดคนดูทั่วโลกและได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากผู้ชมทั้ง 3 ภาค

แต่รู้ไหมว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิงเท่านั้น ทว่ายังแฝงไปด้วยข้อคิดเรื่องการเงินที่สะท้อนผ่านตัวละครอีกด้วย

เกือบ 99% ของคนที่เข้าร่วมเกมนี้ไม่ใช่เพราะต้องการหาความสนุก แต่พวกเขาล้วนเป็นคนที่ประสบปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนัก จนต้องยอมเอาตัวเองมาเสี่ยงเพื่อพาเงินจำนวนมหาศาลกลับไปปลดหนี้และเริ่มต้นชีวิตใหม่ แม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิตของผู้เล่นคนอื่นก็ตาม

ถอดบทเรียนเรื่องการเงินจาก Squid Game 

"เงิน" เป็นสิ่งที่สามารถสร้างทั้งความสุขและความทุกข์ให้กับคนได้
สิ่งสำคัญคือ เราเลือกจะใช้มันอย่างไร เพื่อให้การเงินไปรอดในระยะยาว

ตัวละครหลายคนใน Squid Game ไม่ได้เป็นคนเลวมาตั้งแต่ต้น
พวกเขาแค่ต้องเอาตัวรอดจากปัญหาทางการเงินที่ถาโถมเข้ามา
บางคนติดหนี้เพราะความโลภ บางคนเพราะความเชื่อผิด ๆ ในการลงทุน

ดังนั้น เราจึงต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของเหล่าตัวละครเพื่อนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันและการเงินของเรา โดย Thairath Money ถอดบทเรียนการลงทุนและการแก้หนี้จากซีรีส์มาดังนี้

คำเตือน : ข้อมูลบางอย่างอาจมีการสปอยเนื้อเรื่อง

1. หมดตัวเพราะลงทุนแบบขาดความรู้

ก่อนที่ผู้เล่นหมายเลข 333 หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “เทพเทรด มยองกี” จะเข้าร่วมเกมนี้ เขาเคยมีอาชีพเป็นยูทูบเบอร์ชื่อดังด้านการลงทุนที่ให้คำแนะนำเรื่องเหรียญคริปโต ในช่วงแรกของการเทรดนั้นมันทำให้เขามีกำไรและสามารถสร้างเม็ดเงินให้ตัวเองได้จนเขายอมทุ่มเงินหมดหน้าตักให้กับเหรียญที่เขาคิดว่าเป็นความหวังของตัวเอง

แต่ผลที่ได้กลับมาไม่ใช่กำไรเหมือนครั้งก่อน แต่เป็นหนี้ก้อนโตเพราะถูกกลุ่มที่เป็นผู้สร้างเหรียญหอบเงินของผู้ลงทุนหนีไปต่างประเทศ และไม่ใช่แค่มยองกีเท่านั้น แต่ยังมีผู้เล่นหมายเลข 124, 222 และ 230 ที่ลงทุนตามคำแนะนำของมยองกีจนมีหนี้ติดตัวจากการขาดความรู้ และต้องเข้าร่วมเล่นเกมเพื่อหาเงินไปปลดหนี้

ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า หลายคนคิดอยากลงทุนเพราะหวังกำไร แต่น้อยคนที่จะรู้ถึงความเสี่ยงและศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน

นี่คือ 7 เรื่องที่ควรทำในการลงทุนหากไม่อยากพลาดเหมือนผู้เล่นใน Squid Game

• ศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน
• เริ่มต้นของเงินจำนวนน้อยก่อน อย่าเทหมดหน้าตักในครั้งเดียว
• กระจายการลงทุน
• ใช้แพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือในการลงทุน
• มองการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่แค่หวังกำไรระยะสั้น
• อย่าลงทุนเพราะแค่กลัวพลาดโอกาสขาขึ้น เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ
• เก็บรักษาคริปโตของตัวเองให้ปลอดภัยที่สุด เพื่อป้องกันการโจรกรรม

2. ไม่ใช่ทุกคนที่จะติดหนี้หมื่นล้านได้ แต่ทุกคนต้องแก้หนี้เป็น

“ไม่ใช่ทุกคนที่จะติดหนี้หมื่นล้านได้”

ผู้เล่นหมายเลข 100 กล่าวกับคนอื่น ๆ เพราะเขาเป็นตัวละครที่มีหนี้สูงสุดในเกม แต่เขาไม่ใช่คนเดียวที่มีหนี้ เพราะทุกตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้ล้วนแต่ประสบปัญหาด้านการเงิน ความรับผิดชอบต่าง ๆ ที่แบกไว้บนบ่าผลักให้พวกเขาต้องไปยืนอยู่ปากเหวและเข้าร่วมเกมเพื่อหา “ทางออก” ให้ตัวเองอย่างไร้ทางเลือก

หลายคนอาจคิดว่าการมีหนี้เป็นสิ่งที่ฟังดูน่ากลัวและหนักเกินกว่าจะรับมือไว้ แต่มันยังไม่ใช่ “จุดจบ” หากเราวางแผนการเงินใหม่และรับมือกับหนี้เป็น โดยเริ่มจาก 6 วิธีง่าย ๆ คือ

• ปรึกษาธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้
• รวมหนี้ทั้งหมดที่มีให้เป็นก้อนเดียว
• ปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ขยายเวลาชำระหนี้ พักชำระเงินต้น ลดอัตราดอกเบี้ย หรือเปลี่ยนประเภทหนี้
• พักการสร้างหนี้ให้ตัวเองเพิ่ม
• หากมีเงินก้อนให้รีบเอาไปโปะก่อนที่ดอกเบี้ยจะโตเกินไป
• ปรับลดค่าใช้จ่ายที่เกินตัวและไม่จำเป็น

อย่างไรก็ตาม หากมีหนี้เราควรจะหาวิธีแก้ไขโดยให้เร็วที่สุด เพราะหากไม่จ่ายหนี้ อาจมีผลกระทบอีกหลายอย่างที่ตามมา เช่น ติดเครดิตบูโร ทำให้กู้ยากมากขึ้น, ถูกฟ้องร้องคดีแพ่งจากการละเลยการชำระหนี้กับธนาคารเป็นเวลานาน และอาจถูกยึดทรัพย์ในที่สุด 

ดังนั้น เราจึงควรจะวางแผนการเงินของตัวเองให้รอบคอบเพื่อพร้อมรับมือกับทุกความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการเก็บเอาความผิดพลาดจากตัวละครใน Squid Game มาเป็นบทเรียนให้ชีวิต เพื่อสร้างฐานการเงินที่มั่นคงและไม่ลงเอยด้วยปัญหาหนี้ท่วมหัวเหมือนในซีรีส์

ที่มา : ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงศรี

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney