มี 10,000 บาท ลงทุนกับอะไรได้บ้าง? เปิดคัมภีร์ 10 ช่องทางการลงทุน เปลี่ยนเงินก้อนเล็กให้เป็นโอกาส

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

มี 10,000 บาท ลงทุนกับอะไรได้บ้าง? เปิดคัมภีร์ 10 ช่องทางการลงทุน เปลี่ยนเงินก้อนเล็กให้เป็นโอกาส

Date Time: 26 มิ.ย. 2568 17:24 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

"เงิน" คือปัจจัยสำคัญในการสร้างความมั่นคงในชีวิต การวางแผนการเงินและการลงทุนจึงเป็นเรื่องจำเป็นในยุคเศรษฐกิจผันผวน แม้มีเงินเพียง 10,000 บาทก็สามารถเริ่มลงทุนได้ในหลายรูปแบบ แต่ในขณะเดียวกัน มือใหม่หัดลงทุนควรเข้าใจความเสี่ยงและกำหนดเป้าหมายของตนก่อนตัดสินใจลงทุน เพื่อให้เงินเติบโตอย่างมั่นคงได้

“เงิน” เป็นปัจจัยหลักที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดเส้นทางอนาคตของเรา หากฐานะทางการเงินมั่นคง ทุกก้าวเดินของเราก็จะเต็มไปด้วยความมั่นใจและไม่สั่นคลอน แต่หากเกิดปัญหาทางการเงิน ก็อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและการตัดสินใจของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ซึ่งในยุคนี้ที่เศรษฐกิจผันผวนหนัก การวางแผนเรื่องเงินจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ หลายคนเริ่มมีการออมเงินและใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น เพื่อให้สถานะทางการเงินของเรามั่นคงแม้ต้องเผชิญกับมรสุมจากความไม่แน่นอน

ทว่า การออมเงินนั้นไม่ได้หมายถึงการฝากเงินอย่างเดียว แต่การลงทุนก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญที่ช่วยเพิ่มมูลค่าเงินออมให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีกขั้น

มีเงินหมื่นในยุคนี้ ลงทุนกับอะไรดี?

หลายคนมีความคิดที่อยากจะต่อยอดเงินที่มีให้เติบโตมากขึ้น เพื่อให้เงินทำงานและสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากเงินในธนาคาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำอยู่ราว 3% ต่อปีเท่านั้น หลายคนจึงสนใจตัวเลือกการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

แต่ปัญหาที่ยังพบอยู่ในทุกวันนี้คือบางคนกังวลเรื่อง “งบน้อย” เพราะคิดว่าการลงทุนต้องใช้เงินก้อนโต จึงทำให้เสียโอกาสที่จะปลูกเงินให้งอกเงยขึ้นได้ และนี่คือข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์ลงทุนในปี 2568 ที่บุคคลทั่วไปและ First Jobber สามารถลงทุนได้ด้วยงบ 10,000 บาท ดังนี้

  • สลากออมทรัพย์ : เหมาะสำหรับมือใหม่เพราะความเสี่ยงต่ำ เช่น สลากออมทรัพย์แบบ 1 ปี ที่มีสภาพคล่องสูง ถอนเมื่อครบกำหนดได้ง่าย จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการออมระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา คนเริ่มทำงาน หรือผู้ที่ต้องการกันเงินไว้ใช้ในอนาคตอันใกล้
  • ทองคำ : เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำ ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อหรือขายได้ง่ายในตลาด โดยเงินหมื่นที่มีสามารถลงทุนกับ ทองครึ่งสลึง (ราว 6,400 บาท ไม่รวมค่ากำเหน็จ)
  • กองทุนรวม : มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทำหน้าที่จัดการกองทุนรวม เหมาะกับผู้ไม่มีประสบการณ์ โดยมีให้เลือกลงทุนอย่างหลากหลาย  อาทิ ลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ และสินทรัพย์อื่น ๆ โดยเริ่มต้นที่ 1 บาท
  • ตลาดหุ้นไทย : ข้อกำหนดของการซื้อหุ้นคือเราต้องซื้อ 100 หุ้น/1 ครั้ง ดังนั้นเราสามารถเลือกหุ้นลงทุนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่มีราคาต่ำกว่า 100 บาทในการลงทุนได้
  • ธุรกิจแฟรนไชส์ : แม้จะมีเงินลงทุนเพียง 10,000 บาท ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจเป็นของตัวเองได้ เช่น ธุรกิจงานฝีมือ ร้อยสร้อยคอด้วยลูกปัด ที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนี้
  • บัญชีฝากประจำ : มีระยะเวลาให้เลือกตั้งแต่ 3 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี หรือมากกว่านั้น อัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าตลอดระยะเวลาการฝาก ทำให้คำนวณผลตอบแทนได้อย่างแม่นยำ มีความผันผวนต่ำ และได้รับผลตอบแทนแน่นอน จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยง เริ่มต้น 1,000 บาท
  • สมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย : ทำหน้าที่เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าหรือบริการให้กับบริษัทผู้ผลิต โดยจะได้รับเป็นค่าคอมมิชชัน หรือส่วนแบ่งกำไรจากการขาย รายได้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการขายของแต่ละคน
  • ขายของออนไลน์ : เพียงมีสมาร์ตโฟน หรือคอมพิวเตอร์ก็สามารถขายของออนไลน์ได้ทันที ไม่มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเช่าที่ หรือค่าจ้างพนักงาน ทำให้ไม่ต้องใช้เงินลงทุนเยอะ
  • พันธบัตรรัฐบาล : ตราสารหนี้ระยะยาว มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป เพียงมีเงินทุน 1,000 บาท ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนได้
  • คริปโตเคอร์เรนซี : ลงทุนได้ แต่มีความเสี่ยงสูง ทั้งนี้ต้องศึกษาหาความรู้ก่อน ไม่ควรทุ่มเงินทั้งหมดในครั้งเดียว

มือใหม่หัดลงทุนต้องรู้อะไรบ้าง?

อย่างไรก็ตาม ต้องทำความเข้าใจพื้นฐานเสียก่อนว่า การลงทุน คือการนำเงินสดส่วนเกิน หรือเงินเย็นของตัวเองที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในระยะสั้น มาจัดสรรเพื่อลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เช่น การฝากเงินกับธนาคาร การซื้อหุ้น กองทุนรวม หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เงินนั้นงอกเงยและเพิ่มมูลค่าในอนาคต

แต่ทุกการลงทุนมักมีความเสี่ยงเสมอ ความเสี่ยงอาจมีมากหรือน้อยแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ที่ลงทุน และระยะเวลาในการลงทุนด้วย

ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุน ควรถามตัวเองและตอบคำถามสำคัญเหล่านี้ให้ชัดเจนเสียก่อน:

  • เงินที่ใช้ลงทุนเป็น “เงินเย็น” หรือไม่?
  • จุดประสงค์ในการลงทุนคืออะไร?
  • ต้องการลงทุนในระยะสั้น หรือระยะยาว?
  • คาดหวังผลตอบแทนในระดับใด?
  • สามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน?

ซึ่งการตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของตัวเอง เพื่อให้เงินของเราเติบโตอย่างยั่งยืนแม้อยู่ในยุคที่เศรษฐกิจไม่มีความแน่นอน

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ