“ออม” อย่างเดียว อาจไม่พอ ต้อง “ลงทุน” ต่อยอดด้วย เปิด 6 เคล็ด (ไม่) ลับ สำหรับมือใหม่เริ่มลงทุน

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

“ออม” อย่างเดียว อาจไม่พอ ต้อง “ลงทุน” ต่อยอดด้วย เปิด 6 เคล็ด (ไม่) ลับ สำหรับมือใหม่เริ่มลงทุน

Date Time: 18 มิ.ย. 2568 17:27 น.

Video

Telegram ทำเงินยังไง ? โมเดลธุรกิจที่รวยได้ โดยไม่ขายข้อมูลผู้ใช้ | Digital Frontiers EP.40

Summary

หลายคนเริ่มออมมากขึ้นเพื่อเตรียมไว้ใช้สำหรับวัยเกษียณที่มั่นคง แต่ในขณะเดียวกัน “เงินเฟ้อ” ก็เป็นอุปสรรคใหญ่ของการเก็บออมเพราะอาจทำให้ค่าเงินลดน้อยลงเรื่อย ๆ ดังนั้น แค่การออมแค่อย่างเดียวอาจไม่มั่นคงเท่าลงทุนไปพร้อมกัน

Latest


ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกปี "การออม" อย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป เงินที่เก็บไว้เฉย ๆ ในบัญชีออมทรัพย์นั้นแม้ว่าจะดูปลอดภัยและมั่นคงสำหรับใครหลายคน แต่รู้ไหมว่ามันกำลังถูกกัดกร่อนด้วย "เงินเฟ้อ" อย่างช้า ๆ โดยที่เราไม่ทันรู้ตัว แทนที่เราจะออมเพื่อให้เงินเติบโตได้ แต่ค่าเงินของเราอาจลดน้อยลงทุกวินาที ซึ่งหากเรายังใช้แนวคิดการเก็บเงินแบบเดิม ๆ อาจทำให้เป้าหมายทางการเงินในอนาคตกลายเป็นเพียงภาพเพ้อฝัน

ออมเงินอย่างเดียวอาจไม่พอ

ปัจจุบัน หลายคนตั้งเป้าที่จะออมเงินเพราะอยากให้ชีวิตวัยเกษียณมีความมั่นคงและสุขสบาย โดยให้เรื่องเงินเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ๆ ในชีวิต เพราะปัจจัยหลายอย่าง เช่น เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนและไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นหลายคนจึงเลือกที่จะเก็บเงินไว้เพื่อรักษาการเงินของตัวเองให้มั่นคง

สื่อต่างประเทศ รายงานว่า คู่รักหลายคู่ ประสบปัญหาด้านการเงิน เพราะใช้จ่ายเกินตัว ไลฟ์สไตล์หรูหรา จนทำให้พวกเขาหมดเงินก่อนจะถึงสิ้นเดือน บางคู่ถึงขั้นเงินติดลบและต้องเลิกลากันเพราะจัดการเรื่องเงินไม่ลงตัว

ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า "เงิน" เป็นตัวแปรสำคัญของความสัมพันธ์ของใครหลาย ๆ คน ไม่ใช่เพียงแค่คู่รักเท่านั้น แต่หลายคนเลือกที่จะพึ่งพาระบบ "การออมภาคบังคับ" เพื่อให้มีเงินพอใช้สำหรับการเกษียณอายุ และป้องกันการขาดวินัยในการออมของตน

แม้ว่าการมีแผนเก็บออมที่ดีและมีเป้าหมายที่แน่วแน่นั้น จะช่วยให้การเงินของเรามั่นคง แต่อีกหนึ่งอุปสรรคของการออมคือ "เงินเฟ้อ" ที่ส่งผลต่อค่าเงินที่เราถือไว้ ทำให้กำลังซื้อของเราลดน้อยลง และนั่นหมายถึงค่าเงินที่เราออมมาตลอดก็อาจลดลงตามกาลเวลา

ดังนั้น การออมอย่างเดียวอาจทำให้การเงินของเรามั่นคง แต่เสี่ยงที่เงินเหล่านั้นจะไม่เติบโตและมีค่าน้อยลงเรื่อย ๆ ดังนั้นการลงทุนจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสามารถทำให้เงินเติบโตได้

ลงทุนยังไงให้เงินงอกเงย

เพื่อรักษาอำนาจซื้อของเงินออมก่อนที่เราจะจนลงเพราะตามไม่ทันค่าเงินที่เปลี่ยนแปลง นี่คือ 6 เรื่องที่ต้องรู้สำหรับมือใหม่หัดลงทุน จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยต้องเริ่มต้นจาก

  • รู้จักตัวเอง - ต้องรู้ว่าเรามีเป้าหมายอะไรในการลงทุน และเรารับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน
  • รู้จักเลือกลงทุน - ต้องทำความรู้จักสิ่งที่เราจะลงทุนก่อน เช่น หุ้น, กองทุนรวม และตราสารหนี้
  • วิเคราะห์ความเป็นไปได้ -  เมื่อเรามีเป้าหมายและรู้จักเส้นทางในการลงทุนแล้ว ให้คำนวณว่ามันมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างกำไรให้เราได้ไหม
  • สร้างพอร์ตและจัดทำคัมภีร์ลงทุน - ก่อนจะลงทุนต้องมีแผนและพอร์ตที่ดี เพื่อให้กระจายความเสี่ยงได้อย่างสมดุล และไม่ใช้เงินลงทุนมากเกินไปจนหมดตัว
  • ลงมือทำตามแผน - เปิดบัญชีเพื่อใช้ในการซื้อขายก่อนลงทุน เช่น ลงทุนหุ้น ETF ตราสารหนี้ DW หรืออนุพันธ์ ต้องเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "โบรกเกอร์"
  • ติดตามและทบทวนแผนการลงทุนของตัวเองเสมอ - เมื่อลงทุนแล้วต้องตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูว่าผลตอบแทนเป็นไปตามเป้าหมายของเราแล้วหรือยัง

อย่างไรก็ตาม การลงทุนนั้นล้วนแต่มีความเสี่ยง ดังนั้นจึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือหาความรู้ก่อนเทเงินไปจนหมดหน้าตัก เพราะหากรีบร้อนเกินไปอาจส่งผลเสียต่อการเงินของตัวเอง

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money 

เพื่อให้คุณ “การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ