รัฐบาล โดยกระทรวงการคลังจึงมอบหมายให้ “ธอส.” ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ด้วยการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งในปี 2568 ธอส.มีสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่หลากหลายให้เลือกตามความต้องการของผู้สูงอายุ
เมื่อต้นเดือน มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานความเป็นอยู่ของสังคมสูงวัย ณ วาคาตาเกะ โนะ โมริ เขตอาโอบะ เมืองโยโกฮามา ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่ก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ก่อนประเทศไทยหลายปี และถือเป็นต้นแบบของหลายๆประเทศ เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสำคัญในการดูแลผู้สูงวัย เมื่อคนญี่ปุ่นอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป จะถูกเรียกเก็บเบี้ยประกันแบบบังคับ เพื่อรองรับการดูแลเมื่อสูงวัย แม้จะอยู่บ้านตัวเอง หรืออาศัยอยู่บ้านพักคนชรา ผู้สูงอายุจะได้รับสิทธิในการรักษาสุขภาพอย่างเสมอภาค รักษาได้ทุกแห่งในประเทศ
เมื่อมีอายุ 60 ปีขึ้นไปก็จะได้รับเงินสวัสดิการหลังเกษียณเช่นเดียวกับประเทศไทย แต่ผู้สูงวัยในญี่ปุ่นจะได้รับเงินสวัสดิการมากพอที่จะนำมาเป็นหลักประกัน เพื่อดูแลตัวเอง หากต้องการเข้าพักอาศัยในบ้านพักคนชรา หรือแม้ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเอง
ในขณะที่ผู้สูงอายุในประเทศไทยได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตามเกณฑ์อายุ ดังนี้ อายุ 60–69 ปี จะได้รับเงินเดือนละ 600 บาท, อายุ 70–79 ปี จะได้รับเงินเดือนละ 700 บาท, อายุ 80–89 ปี จะได้รับเงินเดือนละ 800 บาท และอายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินเดือนละ 1,000 บาท
ถึงแม้ในแต่ละปีรัฐบาลจะจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อแจกเบี้ยผู้สูงอายุปีละ 80,000-100,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามสัดส่วนผู้สูงอายุ แต่เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของไทยถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น ผู้สูงอายุไทยบางคนมีลูกช้า ยังอยู่ในวัยเรียน ก็ต้องนำบ้านมาเป็นหลักประกัน หรือผู้สูงอายุอาศัยอยู่ตามลำพัง ต้องการนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
รัฐบาล โดยกระทรวงการคลังจึงมอบหมายให้ “ธอส.” ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ด้วยการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งในปี 2568 ธอส.มีสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่หลากหลายให้เลือกตามความต้องการของผู้สูงอายุ ประกอบด้วย
โครงการบ้าน ธอส. สร้างสุขเพื่อผู้สูงวัย สำหรับลูกค้าทั่วไป ที่ต้องการกู้เพื่อต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมบ้านตามแบบบ้านผู้สูงอายุ และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย กรณีกู้เงิน 1 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้ 40 ปี กรณีกู้ผ่อนชำระเริ่มต้น 4,600 บาทต่อเดือน
สินเชื่อ Aging Home สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ต้องกู้ร่วมกับบุตรที่บรรลุนิติภาวะหรือยังไม่บรรลุนิติภาวะที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์) ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย กู้ 1 ล้านบาท ระยะเวลา 52 ปี ผ่อนชำระเริ่มต้น 4,000 บาทต่อเดือน
สินเชื่อ Senior Home 4U สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ต้องการกู้ซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตในช่วงสูงอายุ หรือรีไฟแนนซ์บ้านจากสถาบันการเงินอื่นเพื่อลดภาระการผ่อนบ้าน กรณีกู้ 1 ล้านบาท ระยะเวลา 20 ปี ผ่อนชำระเริ่มต้น 6,400 บาทต่อเดือน
สินเชื่อ Senior Home 2U สำหรับลูกค้าทั่วไปที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยต่อจากผู้ขาย ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และไม่มีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. และสถาบันการเงินอื่น ยื่นกู้ 1 ล้านบาท สัญญาการกู้ 40 ปี ผ่อนชำระเริ่มต้น 3,200 บาทต่อเดือน
และสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage : RM) : สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปี แต่ไม่เกิน 80 ปี สามารถนำที่อยู่อาศัยของตนเองที่ปลอดจำนองมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ โดยไม่พิจารณารายได้ของผู้กู้ วงเงินให้กู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 10 ล้านบาท กรณีที่ดินพร้อมอาคาร ให้กู้ไม่เกิน 50% ของราคาประเมินที่ดินและอาคาร กรณีห้องชุด ให้กู้ไม่เกิน 30% ของราคาประเมินห้องชุด ระยะเวลาการให้กู้สูงสุดไม่เกิน 25 ปี
โดยผู้กู้จะได้รับเงินกู้เป็นรายเดือนจากธนาคารทุกเดือนด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของลูกค้าที่เปิดไว้กับธนาคาร เพื่อนำเงินที่ได้รับมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ เมื่อครบกำหนดอายุสัญญากู้เงิน ผู้กู้สามารถอยู่อาศัยในหลักประกันดังกล่าวได้จนกว่าจะสิ้นอายุขัย
และเมื่อสิ้นอายุขัย ที่อยู่อาศัยก็จะตกเป็นของธนาคาร และหากบุตรหลานต้องการ ก็สามารถมาไถ่ถอนกับธนาคารได้ ซึ่งโครงการสินเชื่อ RM นี้ เพื่อเจาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลาน แต่ในระหว่างการใช้ชีวิตสูงวัยนั้น ต้องการมีเงินไว้ใช้จ่าย ถือว่าสินเชื่อ RM นี้ ตอบโจทย์ผู้สูงวัยที่อาศัยอยู่คนเดียวลำพัง!!
ดังนั้น เมื่อประเทศไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ เฉลี่ยคนไทยมีอายุยืน 80–90 ปี เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเตรียมความพร้อมรองรับการสูงวัย ทั้งที่อยู่อาศัยและเงินจำนวนมากพอ เพื่อไว้ใช้จ่ายในช่วงชีวิตสูงวัยนี้.
ดวงพร อุดมทิพย์
คลิกอ่านคอลัมน์ “The Issue” เพิ่มเติม