ยกระดับคุณภาพชีวิตสังคมสูงวัย

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ยกระดับคุณภาพชีวิตสังคมสูงวัย

Date Time: 17 มิ.ย. 2568 05:10 น.

Summary

รัฐบาล โดยกระทรวงการคลังจึงมอบหมายให้ “ธอส.” ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ด้วยการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งในปี 2568 ธอส.มีสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่หลากหลายให้เลือกตามความต้องการของผู้สูงอายุ

Latest

ถอดบทเรียนการเงิน “Anna Chacon” จากใช้เงิน “เดือนชนเดือน” สู่ความมั่งคั่ง 200 ล้านบาท

เมื่อต้นเดือน มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานความเป็นอยู่ของสังคมสูงวัย ณ วาคาตาเกะ โนะ โมริ เขตอาโอบะ เมืองโยโกฮามา ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่ก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ก่อนประเทศไทยหลายปี และถือเป็นต้นแบบของหลายๆประเทศ เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสำคัญในการดูแลผู้สูงวัย เมื่อคนญี่ปุ่นอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป จะถูกเรียกเก็บเบี้ยประกันแบบบังคับ เพื่อรองรับการดูแลเมื่อสูงวัย แม้จะอยู่บ้านตัวเอง หรืออาศัยอยู่บ้านพักคนชรา ผู้สูงอายุจะได้รับสิทธิในการรักษาสุขภาพอย่างเสมอภาค รักษาได้ทุกแห่งในประเทศ

เมื่อมีอายุ 60 ปีขึ้นไปก็จะได้รับเงินสวัสดิการหลังเกษียณเช่นเดียวกับประเทศไทย แต่ผู้สูงวัยในญี่ปุ่นจะได้รับเงินสวัสดิการมากพอที่จะนำมาเป็นหลักประกัน เพื่อดูแลตัวเอง หากต้องการเข้าพักอาศัยในบ้านพักคนชรา หรือแม้ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเอง

ในขณะที่ผู้สูงอายุในประเทศไทยได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตามเกณฑ์อายุ ดังนี้ อายุ 60–69 ปี จะได้รับเงินเดือนละ 600 บาท, อายุ 70–79 ปี จะได้รับเงินเดือนละ 700 บาท, อายุ 80–89 ปี จะได้รับเงินเดือนละ 800 บาท และอายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินเดือนละ 1,000 บาท

ถึงแม้ในแต่ละปีรัฐบาลจะจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อแจกเบี้ยผู้สูงอายุปีละ 80,000-100,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามสัดส่วนผู้สูงอายุ แต่เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของไทยถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น ผู้สูงอายุไทยบางคนมีลูกช้า ยังอยู่ในวัยเรียน ก็ต้องนำบ้านมาเป็นหลักประกัน หรือผู้สูงอายุอาศัยอยู่ตามลำพัง ต้องการนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

รัฐบาล โดยกระทรวงการคลังจึงมอบหมายให้ “ธอส.” ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ด้วยการออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ซึ่งในปี 2568 ธอส.มีสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่หลากหลายให้เลือกตามความต้องการของผู้สูงอายุ ประกอบด้วย

โครงการบ้าน ธอส. สร้างสุขเพื่อผู้สูงวัย สำหรับลูกค้าทั่วไป ที่ต้องการกู้เพื่อต่อเติม ขยาย หรือซ่อมแซมบ้านตามแบบบ้านผู้สูงอายุ และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย กรณีกู้เงิน 1 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้ 40 ปี กรณีกู้ผ่อนชำระเริ่มต้น 4,600 บาทต่อเดือน

สินเชื่อ Aging Home สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ต้องกู้ร่วมกับบุตรที่บรรลุนิติภาวะหรือยังไม่บรรลุนิติภาวะที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์) ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย กู้ 1 ล้านบาท ระยะเวลา 52 ปี ผ่อนชำระเริ่มต้น 4,000 บาทต่อเดือน

สินเชื่อ Senior Home 4U สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ต้องการกู้ซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตในช่วงสูงอายุ หรือรีไฟแนนซ์บ้านจากสถาบันการเงินอื่นเพื่อลดภาระการผ่อนบ้าน กรณีกู้ 1 ล้านบาท ระยะเวลา 20 ปี ผ่อนชำระเริ่มต้น 6,400 บาทต่อเดือน

สินเชื่อ Senior Home 2U สำหรับลูกค้าทั่วไปที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยต่อจากผู้ขาย ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และไม่มีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. และสถาบันการเงินอื่น ยื่นกู้ 1 ล้านบาท สัญญาการกู้ 40 ปี ผ่อนชำระเริ่มต้น 3,200 บาทต่อเดือน

และสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage : RM) : สำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปี แต่ไม่เกิน 80 ปี สามารถนำที่อยู่อาศัยของตนเองที่ปลอดจำนองมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ โดยไม่พิจารณารายได้ของผู้กู้ วงเงินให้กู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 10 ล้านบาท กรณีที่ดินพร้อมอาคาร ให้กู้ไม่เกิน 50% ของราคาประเมินที่ดินและอาคาร กรณีห้องชุด ให้กู้ไม่เกิน 30% ของราคาประเมินห้องชุด ระยะเวลาการให้กู้สูงสุดไม่เกิน 25 ปี

โดยผู้กู้จะได้รับเงินกู้เป็นรายเดือนจากธนาคารทุกเดือนด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของลูกค้าที่เปิดไว้กับธนาคาร เพื่อนำเงินที่ได้รับมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ เมื่อครบกำหนดอายุสัญญากู้เงิน ผู้กู้สามารถอยู่อาศัยในหลักประกันดังกล่าวได้จนกว่าจะสิ้นอายุขัย

และเมื่อสิ้นอายุขัย ที่อยู่อาศัยก็จะตกเป็นของธนาคาร และหากบุตรหลานต้องการ ก็สามารถมาไถ่ถอนกับธนาคารได้ ซึ่งโครงการสินเชื่อ RM นี้ เพื่อเจาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลาน แต่ในระหว่างการใช้ชีวิตสูงวัยนั้น ต้องการมีเงินไว้ใช้จ่าย ถือว่าสินเชื่อ RM นี้ ตอบโจทย์ผู้สูงวัยที่อาศัยอยู่คนเดียวลำพัง!!

ดังนั้น เมื่อประเทศไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ เฉลี่ยคนไทยมีอายุยืน 80–90 ปี เพราะฉะนั้นทุกคนต้องเตรียมความพร้อมรองรับการสูงวัย ทั้งที่อยู่อาศัยและเงินจำนวนมากพอ เพื่อไว้ใช้จ่ายในช่วงชีวิตสูงวัยนี้.

ดวงพร อุดมทิพย์

คลิกอ่านคอลัมน์ “The Issue” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ