บทเรียนชีวิต แนวคิดวางแผนการเงิน 3 แบบ 3 สไตล์จากตัวแม่ เทียน อัจฉรี บัวเขียว - สไปรท์ บะบะบิ - ไบรอัน ตัน กับการมาร่วมเผยมุมมองชีวิตจริง ที่ผ่านทั้งจุดเริ่มต้น รายได้ก้อนแรก ความผิดพลาด การลงทุน การเป็นเจ้าของธุรกิจ จนถึงวิธีวางแผนอนาคตทางการเงินแบบจับต้องได้ จากเวที Thairath Money Roadshow 2025 ที่พาไปบุกเชียงใหม่ ในหัวข้อเสวนา “คนรุ่นใหม่จัดการเงินเป็น รู้ก่อน รอดก่อน”
เทรนด์ที่เปลี่ยนไป โลกที่เหมือนจะหมุนไวกว่าเดิม ไม่ว่าจะพนักงานธรรมดา นักธุรกิจ รายได้มากน้อยแค่ไหน ก็มีเรื่อง “การเงิน” ที่ทุกวันนี้ต้องเตรียมวางแผน และรับมือได้อย่างชาญฉลาด เพราะเรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องของทุกคน
Thairath Money พาไปส่องตัวอย่างการจัดการการเงินตามสไตล์คนรุ่นใหม่จากเวที Thairath Money Roadshow 2025 ที่พาไปบุกเชียงใหม่ ในหัวข้อเสวนา “คนรุ่นใหม่จัดการเงินเป็น รู้ก่อน รอดก่อน” โดยในครั้งนี้มี เทียน อัจฉรี บัวเขียว รองอันดับ 1 Miss Universe Thailand 2016 สไปรท์ บะบะบิ ยูทูบเบอร์เจ้าของช่อง SPRITE BANG และไบรอัน ตัน เจ้าของเวทีประกวด Miss Fabulous Thailand มาร่วมเผยมุมมองชีวิตจริง 3 สไตล์ ที่ผ่านทั้งจุดเริ่มต้น รายได้ก้อนแรก ความผิดพลาด การลงทุน การเป็นเจ้าของธุรกิจ จนถึงวิธีวางแผนอนาคตทางการเงินแบบจับต้องได้
สำหรับ เทียน อัจฉรี บัวเขียว รองอันดับ 1 Miss Universe Thailand 2016 มองว่า “เรื่องการเงินไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้และลงมือทำมาตั้งแต่เด็ก” โดยเทียนเล่าผ่านเวที Thairath Money Roadshow ว่า เริ่มมีรายได้ก้อนแรกตั้งแต่สมัย ม.3 ด้วยการช่วยคุณแม่ขายขนม และใช้พรสวรรค์มาวาดภาพขายในราคาชิ้นละ 5-10 บาทตั้งแต่เด็ก ๆ และแม้ว่ารายได้ที่เข้ามาตอนนั้นจะไม่มาก แต่ก็ทำให้เธอได้เริ่มฝึกวินัยการออมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยบอกตัวเองเสมอว่าจะต้องมีเงินเก็บ กินวันละ 10 บาท เก็บวันละ 10 บาท จนกลายเป็นนิสัยติดตัว
จุดเปลี่ยนสำคัญในความคิดเรื่องการเงินเกิดขึ้นในช่วงที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย เพราะเป็นช่วงที่เดินสายประกวดและได้รับเงินรางวัลมาเป็นหลักแสน ตอนนั้นเทียนก็นำเงินไปใช้ตามความฝัน พาตัวเองไปเที่ยวเพื่อเปิดโลก แต่เมื่อเรียนจบและมองย้อนกลับมา ก็เริ่มคิดได้ว่า หากวันนั้นวางแผนการใช้เงินให้ดีกว่านี้ อนาคตอาจจะมั่นคงกว่า จึงเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้เธอเริ่มวางแผนการเงินอย่างจริงจัง
และหลังจากที่จบการศึกษา เทียนเลือกกลับบ้านเกิดที่เชียงใหม่ เพื่อสานต่อธุรกิจสิ่งทอเต็มตัวที่ทำร่วมกับเพื่อนมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย เธอเล่าว่า “แม้ว่าจะต้องเริ่มต้นจากศูนย์ แต่เทียนก็ไม่ลังเลที่จะเรียนรู้และลงมือทำทันที ในอดีตเคยรับออร์เดอร์แรกจากเพื่อนมหาวิทยาลัยถึง 400 ตัวโดยที่ตอนนั้นยังไม่มีร้าน ไม่มีโรงงาน และยังไม่มีความรู้เรื่องผ้า จนต้องขับรถไปเสาะหาโรงงานเอง และทุกวันนี้ก็ได้จดทะเบียนบริษัทเพื่อขยายธุรกิจและเรียนรู้การบริหารภาษีควบคู่กันไป”
ทุกวันนี้ เทียนยังคงยึดหลัก “วางแผนการเงินจากความฝัน” ตั้งเป้าว่าอยากมีอะไรในแต่ละช่วงชีวิต แล้วค่อยวางแผนแต่ละก้าวอย่างมีเหตุผล เธอชอบฟังพอดแคสต์ด้านการเงิน นำแนวคิดมาปรับใช้ให้เข้ากับวิธีคิดของตัวเอง และที่สำคัญเพราะมีรายได้ตั้งแต่เด็ก เธอจึงเริ่มวางแผนภาษีแต่เนิ่น ๆ ตั้งเป้าทุกปีให้ได้ภาษีคืนอย่างมีระบบ ถือเป็นชาเลนจ์ส่วนตัวที่ช่วยฝึกวินัยการเงินให้แข็งแรงตั้งแต่ต้น
สำหรับ สไปรท์ บะบะบิ เล่าว่า “การจัดการการเงินไม่ได้เริ่มต้นแบบมีพื้นฐานมาก่อน แต่เรียนรู้จากประสบการณ์จริงล้วน ๆ” สไปรท์เริ่มต้นชีวิตการทำงานหลังเรียนจบสื่อสารมวลชนด้วยการเป็นครีเอทีฟรายการโทรทัศน์ ซึ่งเงินเดือนที่ได้เดือนแรก “น่ารักตามสไตล์ First Jobber” ทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัดตามสไตล์คนกรุงเทพฯ นั่งรถเมล์ เช่าห้องพัก จ่ายค่าเดินทาง ค่าอาหาร แต่สุดท้ายรายได้ก็ยังไม่พอเก็บ จนต้องขอเงินจากพ่อแม่มาเติมกระเป๋าอยู่เสมอ
สไปรท์เล่าว่า เมื่อทำงานในกรุงเทพฯ ได้ประมาณ 4 ปี ก็เริ่มอิ่มตัวกับชีวิตมนุษย์เงินเดือน จึงตัดสินใจกลับเชียงใหม่ แล้วได้ขอทุนจากครอบครัวเพื่อเปิดร้านเช่าชุดราตรี ซึ่งนี่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางธุรกิจเต็มตัว และได้ค้นพบว่า “การบริหารเงินสำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย” เพราะต้องแบ่งรายได้ให้ชัดเจนว่า ส่วนไหนเก็บ ส่วนไหนหมุนเวียน จนเกิดเป็นระบบ “เรียนรู้ไปทำไป ท่ามกลางความท้าทายของคนที่ไม่เคยมีความรู้การเงินมาก่อน”
ต่อมาเมื่อเริ่มมีรายได้จากช่องยูทูบ และงานอินฟลูเอนเซอร์ รายได้เพิ่มขึ้นแต่กลับต้องเผชิญปัญหาใหม่จากการขาดความรู้เรื่องภาษี ทำให้ถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังจนต้องเสียเงินก้อนใหญ่ กลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่ทำให้หันมาจดทะเบียนบริษัท มีทีมบัญชีช่วยดูแลเรื่องภาษีอย่างมืออาชีพตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ทุกวันนี้ สไปรท์เลือกวางแผนการเงินอย่างรอบคอบขึ้น เน้นเก็บเงินก่อนลงทุน โดยใช้วิธี “เก็บแบบห้ามถอน” ค่อย ๆ ศึกษาวิธีให้เงินงอกเงยมากขึ้น พร้อมกับย้ำกับตัวเองเสมอว่า “ความรู้เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องไกลตัว ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งวางแผนเร็ว ยิ่งจัดการชีวิตได้มั่นคง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็อยากให้ระบบการศึกษามีวิชาการเงินตั้งแต่ต้น เพื่อปูพื้นฐานให้ทุกคนวางแผนอนาคตได้เร็วกว่านี้” และเชื่อมั่นว่า “คนรุ่นใหม่ต้องมีก๊อกน้ำหลายก๊อกเพื่อกระจายความเสี่ยงรายได้ในโลกที่ผันผวนตลอดเวลา”
สำหรับ ไบรอัน ตัน เจ้าของเวที Miss Fabulous Thailand มองว่า “เรื่องการเงินและการลงทุนไม่ใช่เรื่องไกลตัว” โดยได้เล่าผ่านเวที Thairath Money Roadshow ว่า เพราะเริ่มต้นเรียนรู้และลงมือทำตั้งแต่อายุยังน้อย มีรายได้ก้อนแรกตั้งแต่อายุ 16 ปี จากการทำงานล้างจานและเก็บจานในโรงงานยางพาราขนาดใหญ่ที่ภาคใต้ โดยรับค่าแรงวันละ 200 บาท และนั่นก็เป็นบทเรียนชีวิตเรื่อง “หาเงินเอง” ครั้งแรกที่ทำให้รู้คุณค่าของเงินตั้งแต่ยังอายุน้อย
จุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เพราะทางคุณพ่อให้เงินก้อนเดียว 100,000 บาทเพื่อให้ใช้เรียนจนจบ 4 ปี ไบรอันเล่าว่า “ตอนนั้นเลือกที่จะไม่ใช้เงินแค่เพื่อประคองตัว แต่กลับวางเป้าหมายชัดเจนว่า อยากมีชีวิตที่รวย เลยเริ่มลงทุนตั้งแต่ปีแรก”
โดยเริ่มศึกษาจากการอ่านหนังสือหุ้น ศึกษาการลงทุนด้วยตัวเอง เริ่มเล่นหุ้นตั้งแต่อายุ 19 ปี แม้จะมีทั้งได้และเสีย แต่ทุกครั้งที่ได้กำไรก็รีบนำไปต่อยอด เปิดร้านอาหาร ลงทุนธุรกิจเล็ก ๆ ตั้งแต่ยังเรียน แม้บางธุรกิจจะเจ๊งไปแต่ก็ไม่ย่อท้อ พร้อมหาทางหาเงินใหม่ต่อทันที
สิ่งที่เขายึดถือเสมอคือ “รายได้ต้องมาจากหลายทาง” นอกจากหุ้นแล้ว ก็ยังลงทุนในหลายด้าน โดยเฉพาะการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจสาย Luxury Life อย่างกระเป๋าแบรนด์เนม ธุรกิจแฟรนไชส์ รวมถึงการเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัว ทั้งสร้างศิลปินและทำซีรีส์ของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เส้นทางธุรกิจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ไบรอันเล่าว่าเคยถูกโกงหลายครั้ง สูญเงินจำนวนมาก แต่ทุกครั้งที่ล้ม ก็สอนตัวเองว่า “ต้องรีบลุกให้เร็ว ทิ้งสิ่งผิดพลาดไว้ข้างหลัง แล้วเริ่มต้นใหม่ให้ไวที่สุด”
ทั้งนี้ เมื่อมองย้อนกลับไป ไบรอันยอมรับว่า ในอดีตเคยใช้ “ใจ” ในการบริหารเงินมากกว่า “สมอง” หลายครั้งลงทุนโดยไม่คิดรอบด้าน แต่เมื่อเจอบทเรียนซ้ำ ๆ จึงเริ่มวางแผนการเงินรอบคอบขึ้น เข้าใจว่าธุรกิจทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็วกว่าเดิมทุกวัน สิ่งสำคัญคือการวางแผนความเสี่ยงและต้องมีก๊อกเสริมไว้รองรับชีวิตให้ยืนระยะอยู่ได้ในทุกสถานการณ์
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney