รู้จัก “เงินเฟ้อ - เงินฝืด” ภัยร้ายใกล้กระเป๋าเงิน อันตรายกว่าที่คิด กระทบใครบ้าง รับมืออย่างไร ?

Personal Finance

Financial Planning

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

รู้จัก “เงินเฟ้อ - เงินฝืด” ภัยร้ายใกล้กระเป๋าเงิน อันตรายกว่าที่คิด กระทบใครบ้าง รับมืออย่างไร ?

Date Time: 12 มิ.ย. 2568 16:26 น.

Video

ไม่กลัวเศรษฐกิจโลกล่มสลาย เพราะมี Bitcoin ผู้เขียน The Bitcoin Standard | Thairatrh Money Talk EP.22

Summary

เงินเฟ้อ - เงินฝืด ภาวะเศรษฐกิจที่เสี่ยงกระทบการเงินโดยที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน เพราะถ้า “เงินเฟ้อ” นั้นหมายความว่าเราต้องจ่ายมากขึ้น และถ้า “เงินฝืด” รายได้ของเราก็จะลดน้อยลง ซึ่งทั้งสองภาวะไม่ใช่แค่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมเท่านั้น แต่ยังบั่นทอนเงินในกระเป๋าของทุกคนอีกด้วย

Latest


ช่วงนี้เรามักจะเจอคำว่า "เงินเฟ้อ" และ "เงินฝืด" ผ่านโซเชียลมีเดียหรือข่าวอยู่บ่อย ๆ  แต่เคยสงสัยกันไหมว่าภาวะเงินเฟ้อ - เงินฝืดที่เขาพูดถึงกัน จริง ๆ แล้วคืออะไรกันแน่? เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจอย่างไร? แล้วทำไมมันถึงกระทบกระเป๋าเงินของทุกคน

รู้จักเงินเฟ้อ - เงินฝืด 

ภาวะเงินเฟ้อ (Inflation)

คือ ภาวะที่สินค้าและบริการมีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการซื้อของในจำนวนเงินเท่าเดิมได้น้อยลง เช่น เราเคยซื้อกาแฟในราคา 100 บาท/แก้ว ในปีก่อน แต่หากเงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้น 3% ต่อปี ในปีนี้เราจะซื้อกาแฟได้ในราคา 103 บาท/แก้ว ซึ่งจะทำให้กำลังซื้อในกระเป๋าเงินของเราลดลง

ตัวอย่างของภาวะ "เงินเฟ้อ"

วิกฤตการเงินของเวเนซุเอลา ที่กระดาษชำระหนึ่งม้วนราคาพุ่งจาก 4-5 โบลิวาร์ ในปี2557 ไปสู่ราคา 2,600,000 โบลิวาร์ในปี 2561 และไม่มีท่าทีว่าจะลดน้อยลงเลย อีกทั้งรายได้ของคนในประเทศยังโตไม่ทันรายจ่ายที่พุ่งทะยานมากขนาดนั้น จนกลายเป็นภาวะเงินเฟ้อรุนแรง

ภาวะเงินฝืด (Deflation)

คือการที่คนต้องการซื้อสินค้าและบริการน้อยลง เนื่องจากมีความกังวลในภาวะเศรษฐกิจและรู้สึกไม่อยากใช้จ่าย ทำให้สินค้าล้นตลาดและราคาถูกลง แม้ว่าระยะแรก ๆ คนจะมองว่านี่เป็นโอกาสที่ผู้บริโภคจะได้ซื้อของในราคาถูกลง แต่เมื่อไม่มีใครจับจ่ายใช้สอยก็จะส่งผลให้ปริมาณเงินหมุนเวียนในประเทศลดน้อยลง ธุรกิจไร้รายได้ คนตกงานเพราะบริษัทต้องลดกำลังการผลิต และรายได้ของผู้คนลดน้อยลง

ตัวอย่างของภาวะ "เงินฝืด"

วิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 ที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรง ทำให้ประชาชนไม่กล้าใช้เงินในการซื้อของ หลายบริษัทที่ต้องปิดตัวลง ส่งผลให้รายได้ของคนไทยในตอนนั้นน้อยลงมาก และอัตราการว่างงานสูง

ซึ่งทั้งสองภาวะล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อการเงินในกระเป๋าของเราทั้งนั้น โดยเฉพาะในกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้คงที่ เพราะเมื่อ "เงินฝืด" พนักงานบางคนต้องออกจากงานเพราะบริษัทต้องการควบคุมต้นทุน  

และเมื่อ "เงินเฟ้อ" ค่าครองชีพสูงเกินกว่ารายได้ ก็จะทำให้เราจับจ่ายใช้สอยได้น้อยลง บางคนต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้มีเงินมาซื้อของใช้ประจำในราคาแพงกว่าเดิม แล้วเราจะทำอย่างไรให้การเงินไม่สะดุด และยังมีเหลือออมแม้ต้องเผชิญกับสภาวะการเงินเหล่านั้น

จัดระเบียบการเงินก่อน = รอดก่อน

วิธีรับมือเงินเฟ้อ

  • วางแผนการลงทุนกับสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เช่น หุ้น, กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์
  • ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง หลีกเลี่ยงการก่อหนี้เสีย
  • ติดตามข่าวสารด้านการเงินบ่อย ๆ เพื่อให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

วิธีรับมือเงินฝืด

การลงทุนในช่วงภาวะเงินฝืดนั้น ควรจะเลือกสินทรัพย์ที่มีความเหมาะสมและมั่นคง เช่น

  • เงินสด หรือกองทุนตลาดเงิน
  • พันธบัตรรัฐบาล หรือกองทุนตราสารหนี้
  • ทองคำ

แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งเงินเฟ้อและเงินฝืด ต่างก็ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และการเงินที่ดีของเราทุกคน ดังนั้นการ "วางแผนด้านการเงินล่วงหน้า" จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก เพราะการใช้เงินอย่างถูกวิธีและมีเงินสำรองเอาไว้นั้นจะช่วยให้เรามองเห็นทางออกแม้จะต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อ - เงินฝืด

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี" ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ